หากจะพูดถึงฤดูกาลในประเทศไทยตามตำราเรียนก็จะพบว่ามี 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝนและฤดูหนาว หากแต่ว่าแบ่งตามหลักความเป็นจริงในปัจจุบันคงจะพบว่ามีแค่ฤดูร้อนและฤดูร้อนที่สุด คงจะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็บแบบนั้นไม่ได้จริงๆ เพราะหน้าหนาวเริ่มจะเลือนลางจางหายไป จะมีก็แค่เพียงไม่กี่วันให้พอตื่นเต้น พอสั่งซื้อเสื้อกันหนาวมาของยังไม่ทันส่งมาถึง ความหนาวก็หายไปซะแล้ว เมื่อเมืองไทยบ้านเราร้อนขนาดนี้ก็ต้องมาหาวิธีคลายร้อยกันหน่อยไหม น้ำถือเป็นแหล่งดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะด้วยการทานหรืออาบ หนึ่งกิจกรรมที่ไม่อาจหลีกหนีได้ในหน้าร้อนที่กำลังจะมาเยือนแบบนี้ก็คือการว่ายน้ำ ทั้งในรูปแบบสระว่ายหรือตามแหล่งน้ำธรรมชาติ หากเป็นเด็กตามต่างจังหวัดก็คงคลายร้อนด้วยการชวนกันไปว่ายน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ห้วย หนอง คลองบึง ไปกระทั้งแม่น้ำ เราเป็นหนึ่งในเด็กต่างจังหวัดที่ว่านี้เลยค่ะ กว่าจะเรียกว่าว่ายน้ำเป็นก็กินน้ำสำลักน้ำไปหลายอึก เวลาไปบ้านยายหน้าบ้านยายจะมีคลองชลประทานไหลผ่าน ลุงๆป้าๆก็จะชวนให้มาลงเล่นน้ำ ขอบคุณรูปจาก : เด็ก เอเชีย เด็กชาย กัมพูชา ชาวประมง การตกปลา อุปกรณ์ขั้นสุดและดีที่สุดที่เป็นตัวช่วยในการว่ายน้ำในตอนนั้นก็คงหนีไม่พ้นลูกมะพร้าวแห้ง ถ้าจะใช้จริงๆอาจจะต้องเป็นมะพร้าวแห้ง เปลือกมะพร้าวจะค่อนไปน้ำตาลเข้มกว่าในรูปซักหน่อย มันช่วยพยุงตัวให้ลอยในน้ำได้จริงๆนะคะ เรียกได้ว่าเป็นอีกภูมิปัญญาของคนไทยสมัยก่อนก็คงไม่ผิด ไม่มีหรอกค่ะพวกห่วงยางเหมือนเด็กรุ่นใหม่ๆสมัยนี้ แผ่นโฟม ปลอกแขน มีแต่ลูกมะพร้าวคอยพยุงตัวในน้ำเท่านั้น ขอบคุณรูปจาก: ลูกมะพร้าว เขตร้อน แดนสวรรค์ มะพร้าว ชายหาด บบนี้ก็ค่อยๆจืดจางเลือนหายไปตามกาลเวลาและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติเริ่มแห้งขอด น้ำที่เคยใสและเป็นเส้นเลือดใหญ่ของคนในชุมชนที่เคยใช้ทั้งอุปโภคและบริโภคก็เริ่มปะปนด้วยสิ่งปฏิกูล ขยะ โลหะหนัก ทำให้ไม่สามารถใช้วิถีชิวิตแบบเดิมได้อีกต่อไป เมื่อโตมาการว่ายน้ำก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ สวมหมวก ใส่แว่นตา ลงสระว่ายน้ำ เสียค่าเข้าสระแล้ว ซึ่งมันต้องเป็นแบบนั้นจริงๆค่ะ ด้วยเวลาที่เปลี่ยนไปเราก็ยังไม่เปลี่ยนใจยังคงชอบการได้ว่ายน้ำ แม้จะไม่ได้เรียนคอร์สว่ายน้ำ เพราะว่ายเป็นด้วยการฝึกหัดเองซึ่งก็ภูมิในแบบนี้และคิดว่าหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเราก็น่าจะสามารถพอที่จะเอาตัวให้รอดพ้นจากสถานการ์อันเลวร้ายนั้นได้เป็นแน่ ว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่ดี เราได้ยินมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าจะช่วยให้ร่างกายได้ออกกำลังกายได้ทุกสัดส่วนก็น่าจะจริงแหละ เพราะจากการสังเกตโดยส่วนตัวแล้วทุกครั้งหลังจากการว่ายน้ำเสร็จ พอได้ขึ้นจากน้ำเท่านั้นแหละ จะรู้สึกหิวมาก หิวมากมายเลยค่ะ ร่างกายคงเผาผลาญพลังงานไปค่อนข้างมากแน่เลย เพราะเพียงการว่ายน้ำแบบต่อเนื่องโดยไม่หยุดไป-กลับรอบสระก็ทำให้เหนื่อยจนหอมได้ เพราะการว่ายน้ำจะต้องขยับแข้งขยับขา หากมือจ้วงน้ำแต่ขาไม่ตีน้ำก็คงจะจมน้ำเป็นแน่ อีกทั้งยังเป็นการบริหารการหายใจไม่งั้นอาจจะสำลักน้ำก็เป็นได้ ช่วยบริหารกล้ามเนื้อปอด นอกจากการว่ายน้ำจะเป็นการช่วยคลายร้อน เราว่ามันช่วยคลายเครียดจากเรื่องงานเรื่องต่างๆได้ดีทีเดียว ยิ่งสระไหนมีเด็กเล็กๆว่ายน้ำกัน เมื่อเราพักและได้ดูพวกเขาเล่นน้ำ หัดไว้น้ำ ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กๆมันทำให้โลกสดใสน่าอยู่ขึ้นอีกเป็นกอง นึกย้อนในวัยเด็กของเราขึ้นมาทันที ในผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยบางกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ เราเคยได้ยินว่าถ้าเขามาหัดกายภาพบำบัดในน้ำ น้ำจะช่วยต้าน ลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ดีกว่าบนบกซะอีกเพราะน้ำจะเป็นตัวช่วยพยุง หากล้มในน้ำก็จะช่วยลดแรงกระแทกทำให้ไม่ได้รับการบาดเจ็บจนเกินไป ภาพนี้ถ่ายเองที่ : ริมสระว่ายน้ำ โรงแรมริเวอร์แคว กาญจนบุรี ณ จุดจุดนี้หากใครยังว่ายน้ำไม่เป็น อาจจะลองเปิดใจยอมไปสระน้ำ เรียนว่ายน้ำพร้อมเด็กๆน้องๆก็ไม่เป็นไรนะคะ จะได้สังคมใหม่ เปิดโอกาสให้เราได้เปิดโลกกว้าง จะได้ไม่กลัวน้ำ ไม่กลัวการเดินทางทางน้ำอีกต่อไป ภาพนี้ถ่ายเองที่ : ริมสระว่ายน้ำ โรงแรมริเวอร์แคว กาญจนบุรี บรรยากาศของสระว่ายน้ำยามไม่มีใครเล่นน้ำก็จะให้อารมณ์ความรู้สึกอีกแบบนึง ความรู้สึกสงบนิ่ง เยือกเย็น ทำให้เราได้คิดทบทวนว่าเราจะคิดจะทำอะไรต่อไปดี ตอนนี้เราว่าเราหลงรักการว่ายน้ำเข้าให้แล้วหละค่ะ แม้ว่าช่วงนี้จะยุ่งๆทำให้ห่างหายจากสระไปสักระยะหนึ่ง เดี๋ยวคงต้องหาเวลาไปลงสระซะหน่อยแล้ว ไว้มาสนุกได้สุขภาพไปด้วยกันนะคะ ต้องขอขอบคุณรูปปกและภาพประกอบเนื้อหาบางส่วนจาก www.pixabay.com มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ