ต้องยอมรับว่าการจัดฟันในสมัยนี้ เป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่าย ค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก ซึ่งต่างกับการจัดฟันในสมัยก่อนที่มีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นจึงทำให้มีหลายคนๆสนใจ และต้องการที่จะจัดฟัน แต่ยังต้องการหาข้อมูลเพิ่มในหลายๆส่วน สำหรับบทความนี้จะมาแชร์รายละเอียดและประสบการณ์โดยรวมเกี่ยวกับการจัดฟัน สำหรับคนที่กำลังจะไปจัดฟัน ไม่ต้องกังวลนะคะ การจัดฟันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรกเลย ภาพจาก : AlarconAudiovisual / pixabay ขั้นตอนที่ 1 - ปรึกษาการจัดฟัน เราต้องหาคลินิกจัดฟันที่จะเข้าไปปรึกษาก่อน และควรเป็นคลินิกที่เราสะดวกที่เราสามารถไปหาได้ทุกๆเดือนด้วยนะคะ อาจจะเข้าไปปรึกษาแค่หนึ่งคลินิก หรือลองปรึกษาหลายๆคลินิกก็ได้ คลินิกจัดฟันส่วนใหญ่ไม่คิดค่าบริการในส่วนที่เข้าไปปรึกษาการจัดฟันค่ะ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในเรื่องการจัดฟันอาจจะแล้วแต่คลินิก บางคลินิกมีการแบ่งจ่ายเป็นเดือนๆ หรือบางที่ก็สามารถจ่ายทีเดียวได้เลยค่ะ ส่วนตัวเลือกคลินิกที่อยู่ใกล้บ้าน จึงสามารถไปได้ทุกเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายเลือกจ่ายแบบ ครั้งแรก 8000บาท ติดเครื่องมือทั้งฟันบนและฟันล่าง และอีก 3เดือนถัดไปจ่าย 2000บาท เดือนถัดๆไป เดือนละ 1000บาท ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์อื่นๆค่ะ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แล้วแต่คลินิกจริงๆ บางคลินิกอาจจะมีโปรโมชั่นเพิ่มเติมต่างๆให้ ยังไงก็ลองหาข้อมูลคลินิกที่สนใจกันก่อน แล้วลองเปรียบเทียบราคา และลองดูรีวิวเพิ่มเติมนะคะ ภาพจาก : Karolina Grabowska / pexels ขั้นตอนที่ 2 - เคลียร์ช่องปาก เมื่อปรึกษาและได้คลินิกที่ชอบ คลินิกที่สามารถแก้ไขปัญหาฟันของเราได้ ขั้นตอนต่อไปคือ การพิมพ์ฟัน ในส่วนนี้จากประสบการณ์คือเลือกที่จะพิมพ์ฟันตอนเข้าไปปรึกษาปัญหาเลย จากนั้นคุณหมอก็เขียนใบส่งตัวให้ไปทำการเอกซเรย์ทั้งปากที่โรงพยาบาล แต่บางคลินิกก็สามารถเอกซเรย์ที่คลินิกได้เลยค่ะ และได้มีการตรวจฟันและเคลียร์ช่องปาก ณ ที่โรงพยาบาลรัฐเลย ส่วนตัวโดนอุดฟันไป 7ซี่ และได้ทำการขูดหินปูน สาเหตุที่เลือกมาเคลียร์ช่องปากกับโรงพยาบาล เพราะมีค่าใช้จ่ายถูกมาก สามารถใช้สิทธิบัตรทอง 30บาท ส่วนเรื่องของฟันคุด เนื่องจากอดีตเคยถอนฟันกรามใหญ่ไป 3ซี่ ด้านละ1ซี่ จึงขอให้คุณหมอดึงฟันคุดมาแทนฟันกรามให้ค่ะ ส่วนฟันคุดอีก 1ซี่ คุณหมอยังไม่ได้ให้ไปเอาออก แต่การถอนฟันคุดก็ยังครอบคลุมสิทธิ 30บาทค่ะ สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่สนใจสามารถบอกคุณหมอประจำตัวได้เลยค่ะ แต่บางการรักษาก็ไม่สามารถใช้สิทธิ 30บาทได้ ยกตัวอย่างเช่น การรักษารากฟัน การทำรากฟันเทียม เป็นต้น ภาพจาก : Gabriella Ally / pexels ขั้นตอนที่ 3 - ติดอุปกรณ์/เครื่องมือจัดฟัน เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จ ทางคลินิคจะมีการนัดเข้าไปติดแบล็คเก็ต (Bracket) หรือเหล็กจัดฟันนั่นเอง ในขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลาในการทำ 30นาที ถึง 1ชั่วโมงเลย อาจจะมีการเมื่อยปาก เมื่อยขากรรไกรนิดนึง เมื่อติดอุปกรณ์จัดฟันเสร็จ ทางคลินิคจะทำบัตรนัดให้ เพื่อมาเปลี่ยนยางจัดฟันในเดือนถัดๆไป แนะนำไปให้ตามนัดทุกเดือนนะคะ เพราะบางครั้งการไปไม่ตรงนัดแบบเว้นระยะไปหลายๆเดือน จะทำให้ตำแหน่งของฟันขยับคลาดเคลื่อนจากที่คุณหมอวางแผนไว้ได้ ทำให้การรักษายืดออกไปอีก เสียทั้งเวลาเสียทั้งค่าใช้จ่ายเลยค่ะ หลังติดอุปกรณ์จัดฟันเสร็จ ส่วนตัวคุณหมอมีการติดไบเทอร์โบ มีลักษณะเป็นสีฟ้าๆ ติดไว้ตรงฟันกรามทำให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เดือนแรกค่อนข้างกินลำบากเลยค่ะ และจะมีอาการปวดฟันจนไม่สามารถกัดอะไรได้ค่ะ และอีกอาการที่อยากแชร์เลย คือมีอาการคันๆตามซอกฟัน (ถ้านึกไม่ออกว่าคันแบบไหน ให้ลองนึกถึงสมัยเด็กที่ฟันกำลังงอกดูนะคะ อาการเดียวกันเลย) สามารถใช้ไหมขัดฟันกับตรงที่มีปัญหานี้ได้ค่ะ และแนะนำให้ทานโจ๊กหรืออาหารที่อ่อนๆก่อน อาการนี้จะดีขึ้นหลังผ่านไปประมาณ 3-7วัน แล้วแต่บุคคลค่ะ และบางคนอาจจะไม่ชินกับเหล็ก แบล็คเก็ตมีการถูกับปาก สามารถใช้ขี้ผึ้งปั้นเป็นก้อนๆแปะไว้ได้เลยค่ะ ภาพจาก : ElvisCZ / pixabay ขั้นตอนที่ 4 - ถอดอุปกรณ์/เครื่องมือการจัดฟัน และทำรีเทนเนอร์ เมื่อจัดฟันเสร็จตามที่คุณหมอได้วางแผนไว้ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการจัดฟันค่ะ คือการถอดเครื่องมือการจัดฟันออกจากปาก และจะมีการพิมพ์ฟัน เพื่อนำไปทำรีเทนเนอร์ ซึ่งรีเทนเนอร์ก็มีหลายรูปแบบ เช่น รีเทนเนอร์แบบลวด รีเทนเนอร์แบบติดแน่น และรีเทนเนอร์ใสเป็นต้น สามารถเลือกได้ตามถนัดเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น คนที่ไม่อยากให้เห็นลวดในปากอีก ก็อาจจะเลือกรีเทนเนอร์แบบใส หรือคนที่ขี้ลืมบ่อยๆ ลืมใส่รีเทนเนอร์จนฟันห่าง อาจจะเลือกรีเทนเนอร์แบบติดแน่น แต่จากการที่ฟังคุณหมออธิบาย ส่วนมากคุณหมอจะไม่ค่อยแนะนำแบบติดแน่นค่ะ เพราะทำให้หินปูนเกาะง่าย เวลากัดของแข็งๆ หรือกินอะไรก็แอบลำบากนิดนึง เพราะมีการติดไว้ด้านหลังฟัน สำหรับการจัดฟันที่พูดมาข้างต้นนั้น เป็นเพียงแค่ประสบการณ์การจัดฟันแบบลวดของตัวผู้เขียนเอง หากเพื่อนๆคนไหนสนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้อีกมากมาย เพราะการจัดฟันไม่ได้มีแค่แบบเดียว ยังมีทั้งการจัดฟันแบบใส การจัดฟันแบบดามอน และอาจจะมีวิธีการรักษาที่จำเป็นต้องจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกรเป็นต้น ยังไงก็อยากแนะนำให้เพื่อนๆเข้าไปปรึกษากับคุณหมอที่คลินิกจัดฟันโดยตรงจะดีมาก และสุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ และช่วยคลายกังวลให้กับเพื่อนๆที่กำลังวางแผนจะจัดฟันและกำลังจะไปจัดฟัน ขอบคุณค่ะ เครดิตภาพปกโดยผู้เขียน Canva.comอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้