หลังจากที่ตกงานมานานหลายวันไม่ได้เดินทางไปไหนเลย วันนี้เป็นวันแรกที่ได้ออกจากบ้านต้องไปทำธุระที่โรงเรียนนิดหน่อย เลยมีโอกาสได้ออกจากบ้านและเราต้องเดินทางด้วยการขึ้นรถเมล์ค่ะเราจะมาเล่าบรรยากาศการขึ้นรถเมล์ในช่วงยุค covid - 19 ว่าบรรยากาศการขึ้นรถเมล์เป็นยังไงและนโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ใช้กับรถสาธารณะของไทยจะมีวิธีและการจัดการอย่างไรบ้าง เครดิต : ภาพประกอบโดยผู้เขียน ในที่สุดรถเมล์สายที่เรารอก็มาแล้วนะคะ ก่อนขึ้นรถเมล์ต้องใส่หน้ากากอนามัยก่อนขึ้นรถทุกครั้งนะคะ ไม่งั้นกระเป๋ารถเมล์จะดุได้นะคะ เราได้ขึ้นรถธรรมดาเมื่อลองมองดูบรรยากาศรวม ๆ จะเห็นได้ว่ามีการจัดที่นั่งไว้สำหรับนั่ง เป็นที่นั่งหนึ่งที่ เว้นหนึ่งที่นั่ง จะนั่งได้เฉพาะเก้าอี้ที่อยู่ริมหน้าต่าง ส่วนเก้าอี้ที่เคยนั่งได้ 2 คน จะมีเทปกาวสีแดงมาแปะกากบาทไว้ว่าห้ามนั่งแล้วก็จะมีป้ายติดไว้ห้ามนั่ง เครดิต : ภาพประกอบโดยผู้เขียน ถ้าหากที่นั่งที่กำหนดไว้มีคนนั่งเต็มแล้ว จะมีพื้นที่ไว้สำหรับผู้โดยสารที่ต้องยืน โดยจะมีจุดมาร์คเป็นเทปกาวสีแดงแปะไว้ที่พื้นและจะยืนห่างกันประมาณ 1 เมตรรถจะมีที่รองรับสำหรับการยืนโดยสารได้ประมาณ 5-6 คน ถ้าเกินกว่านั้นรถจะไม่รับนะคะ ต้องรอคันต่อไปค่ะ เครดิต : ภาพประกอบโดยผู้เขียน เราลองมาขึ้นรถปรับอากาศดูบ้างว่ามีความแตกต่างกับรถธรรมดาอย่างไรบ้าง สิ่งแรกที่เรามองเห็นก็คือจะเพียงแค่มีกระดาษ A4 แปะไว้ที่เบาะว่าห้ามนั่ง แต่ไม่ได้มีเทปกาวแปะไว้เหมือนรถพัดลมธรรมดา แต่มีการจัดที่นั่งให้นั่งที่นั่งเว้นที่นั่งเหมือนกัน ในส่วนของพื้นที่สำหรับการยืนโดยสาร ไม่ได้มีจุดมาร์คหรือจุดกำหนดไว้สำหรับการยืนโดยสาร เราไม่แน่ใจว่าจะให้ผู้โดยสารยืนโดยสารได้หรือไม่ เพราะเวลาที่เราเดินทางคนในรถไม่ค่อยหนาแน่นมากเท่าไหร่ จำนวนที่นั่งจึงมีเพียงพอต่อผู้โดยสาร ในกรณีเวลาเร่งด่วนที่นั่งผู้โดยสารเต็มที่นั่ง รถเมล์จะจอดรับผู้โดยสารหรือไม่ส่วนนี้เราไม่ค่อยแน่ใจซักเท่าไหร่ เครดิต : ภาพประกอบโดยผู้เขียน