ในปี 2559 โครงการก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน เส้นทางวิ่ง 400 กิโลเมตร กรุงเทพ-บางสะพาน จบลงด้วยยอดบริจาครวม 85 ล้านบาท พี่ตูนวิ่งเข้าเส้นชัยในเวลา 10 วัน แบบคลู ๆ กันไปแต่ดูเหมือนว่านั้นจะไม่ใช่จุดสิ้นสุด สุดท้ายของเขา ในปีต่อมา พลังความบ้าของพี่ตูนลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เขานัดแนะทีมงานก้าวฯ แล้วถามว่า ปีนี้โครงการเรา จะทำอะไรดี....ผลสรุปอย่างที่เรารู้กันคือ เบตง - แม่สาย ระยะทาง 2215 กิโลเมตร กับยอดบริจาคที่ทะลุจากเป้าที่ตั้งไว้ถึง 1,142 ล้านบาท ใช้เวลาวิ่งใน 55 วัน พอดีกับกำหนดไว้เป๊ะ ๆ ด้วยแนวคิดระห่ำของพี่ตูน ร็อคสตาร์ชาวไทยที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะแม้แต่คนแก่ ๆ ตามบ้านตามเรือนยังต้องออกมายืนรอพี่ตูนจะวิ่งเข้ามาหอมมากอดด้วยเลย และอย่างที่เรารู้กันนั้นเอง พี่ตูนไม่ได้หยุดแค่ แบตง-แม่สาย แต่เขายังคงมุ่งมันก้าวต่อไป ไม่ว่าจะด้วยทางใดก็ตามที่จะสามารถรับยอดบริจาคจากพวกเราได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มนี้ที่ผมถืออยู่จะมาเล่าให้ฟัง ยอดขายส่วนหนึ่งก็จะแบ่งไปบริจาคให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลนอุปกรณ์เช่นกันปี 2561 ที่ผ่านมาเอง ก็ได้มีสารคดีจาก GDH เรื่อง "2215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว" เองก็ได้นำยอดขายจากตั๋วไปบริจาคและเปิดให้ดูฟรี ๆ ตามสื่อช่องทางต่าง ๆ จะพูดอะไรได้อีกนอกจากคำว่า บ้าวะ บ้ามาก ๆ เหตุผลอะไรที่ดาวเด่นอย่างพี่ตูน ที่มีชีวิตที่สบาย มีแฟนที่น่ารัก มีบ้านที่สวยงาม ทำไมเขาต้องไปวิ่งตากแดด ตากฝน เพื่อเอาเงินที่ได้มาเป็นพันล้านไปให้คนอื่นด้วย คำตอบของเขาก็คือ "เพื่อให้" นี้คือความเชื่อของ ตูน บอดีสแลม เขามีความสุขที่ได้ส่งต่อพลังแก่ผู้คน และเพราะสิ่งที่ตูนทำครั้งก่อนในปี 2559 ทำให้โรงพยาบาลบางสะพาน มีเงินพอจะไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์มารักษาขาของเด็กน้อยคนหนึ่ง ให้กลับมาพอจะเป็นปกติได้ หลายคนจึงกล่าวได้เลยว่า คนบ้าแบบนี้คือคนที่เราต้องการในสังคม แต่พี่ตูนเอง เขาไม่เคยมองว่าตัวเองยิ่งใหญ่ไปกว่าสิ่งใดเลย สิ่งที่เขาทำ เขาแค่อยากช่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่ศักยภาพตัวเองจะทำไหว แม้กระทั่งจบการิ่งที่แสนโหดนี้ลงไปแล้ว ในปี 2562 พี่ตูนและคณะก็ได้ออกมาวิ่ง อัลตร้ามาราธอน หรือ 100 กิโลเมตร เพื่อเรียกยอดบริจาคอีกครั้งหนึ่ง ความยิ่งใหญ่อาจดูน้อยลงเมื่อเทียบครั้งก่อน แต่หัวใจที่มีแต่การให้ของพี่ตูนและทุกคน มันยังคงยิ่งใหญ่เสมอ พี่หมีเบลล่า หรือทีมงานของคนละก้าว ในครั้งก่อนและครั้งนี้ เขาได้ขีดเขียนหนังสือย้อนระลึกถึงวันวานที่พวกเราบากบั่นมาด้วยกันไม่ว่าจะทีมนักวิ่ง นัก Live นักกล้อง นักพยาบาล หรือนักอะไรก็ตาม นี้เป็นการกุศลที่โคตรจะยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ไทยเลยก็ว่าได้เขาได้พาเราไปพบกับเหตุการณ์แสนจะโคตรทรหดทั้งแก่นักวิ่ง และทีมงานทุกทีม เพราะทุกการทำงานบนโลกใบนี้ มันเกิดปัญหาได้เสมอเบลล่า พี่หมีของเราก็ได้พาเราไปพบวิธีการแก้ปัญหาในด้านต่าง ๆ ตามแต่สายตาของชายคนนี้จะมองเห็น นี้จึงมิใช่หนังสือบันทึกการเดินทางของคณะ ก้าวฯ อย่างเดียว แต่เป็นหนังสือที่พาเราไปพบกับความหมายของการให้ แนวคิดปรัชญาการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาในสายงานต่าง ๆ และคำตอบแทนจากการให้ ให้ -ว่ากันว่าเมื่อเรารู้จักให้โดยไม่ต้องขอกลับ ให้ใครก็ไม่รู้ ให้ไปเลยโดยไม่สนว่าเขาจะได้รับอะไรไปจากเรา จะซาบซึ้งบุญคุณอันใดหรือไม่ แค่ให้ เมื่อนั้น เราจะโตเป็นผู้ใหญ่ ผมเองก็ไม่อาจบอกได้ว่า เอ....มันจริงปะวะ ทำไมจะต้องไปให้คนที่เราไม่รู้จักด้วยละ ทำไมไม่ให้ญาติ พี่น้อง ตัวเองที่ รอให้ครอบครัวของเราทั้งครอบครัวไม่มีปัญหาก่อน ค่อยให้คนอื่นก็ได้ แต่คำถามคือ เมื่อไรครอบครัวเราจะไม่มีปัญหา ปัญหาจะสลายหายไปเมื่อไร? เป็นคำถามที่ตอบยาก ถ้าตอบแบบมึน ๆ งง ๆ ก็เป็น ก็อีกซัก 10 ปี มั้ง ซึ่งมันไม่มีอะไรมายืนยันได้เลยว่า อีก 10 ปี มันจะเป็นยังไงแก่เรา เราจะอยู่ถึงเวลานั้นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย ฉะนั้นการให้ มันไม่มีเหตุผล มันไม่ต้องรอตอนที่เราพร้อมแบบไม่มีปัญหาอะไรทุกด้าน เราให้ได้เลยแม้ตอนนี้จะมีเงินในบัญชี 200 บาท แต่เราแบ่ง 20 บาทให้กับใครบางคน ที่ 20 บาทนั้น มันโคตรมีค่าสำหรับเขาเลย นั้นเอง การให้แบบไม่หวังผล มันจึงทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ เพราะเมื่อเราให้ ให้แบบที่ไม่ได้กลับมาทำร้ายตัวเอง ให้พอดีพอประมาณ แบ่งแค่ส่วนเล็ก ๆ ของตัวเองที่พอจะให้ได้ ค่าตอบแทนของมันไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้อย่างเงินตรา แต่เป็น รอยยิ้ม ความสุข ชื่นมื่น ที่ไหลกลับมาเหมือนสายน้ำลำธารและผลตอบแทนจากการให้ คือการที่คนที่เราได้ให้ เขาขอบคุณเราจากใจจริง ๆ ไม่มีเสแสร้ง การสวมกอด จับมือ และรอยยิ้มจะตามมาหลังจากนั้นจากคนไม่รู้จัก จะกลายเป็นมิตรแท้ที่เมื่อยามใด วันหนึ่งเราตกที่นั่งลำบาก คน ๆ นั้นนี้เองที่จะย้อนกลับมาช่วยเราฉุดขึ้นไว้จากหลุมมืด เราเห็นได้ชัดในเรื่องนี้จากการตามดู Live พี่ตูนวิ่งตลอดทาง ผู้คนมากมายล้อมหน้าล้อมหลังเอาไว้ ต่างขอถ่ายรูป ขอรายเซ็น และต่างมอบเงินบริจาค ขนม เครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ แก่ทีมงานของ คนละก้าว เขาเป็นถึงนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์ แน่นอนต้องมีคนแห่มาขอรายเซ็นเขาอยู่แล้ว มีคนรักเขาอยู่แล้ว แต่การที่เขาออกมาวิ่งเพื่อคนอื่นแบบนี้ มันยิ่งสร้า่งความรักแก่คนรอบข้างยิ่งขึ้นไปอีก การให้จึงทำให้เราเติบโต เพราะเราจะได้รับสิ่งที่มันมีค่าเกินกว่าจะประเมินเป็นราคาได้ นี่คือความหมายของการให้ ปรัชญาดำเนินการชีวิต - การวิ่งเป็นเหมือนการวิปัสนา เหมือนปรัชญาที่เราใช้เพื่อดำเนินชีวิต ถ้าของประเทศญี่ปุ่น ก็จะเรียกกันว่า อิคิไก วิถีดำเนินชีวิตเรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่มีความสุข เราล้วนแต่ถามหา ออกตามหาความหมายของชีวิต ว่าอะไรคือสิ่งที่ฉันควรจะอยู่ต่อไปกันหนอ แล้วความสุขจะหาได้จากแห่งใดแต่นั้นเอง นั้นเองที่เรามัวแต่ถาม แต่ไม่เงยหน้ามามองรอบข้าง ต้นไม้ ใบหญ้า ภูเขา น้ำตก เรามัวแต่ก้มหน้า วิ่งออกตามหาความหมายอย่างเดียว มันจึงหน้ามืดตามัว หาทางออกไปเจอ หาแสงสว่างไม่พบเสียที เพราะ ปรัชญาดำเนินการชีวิตของเรา มันก็แค่แม่น้ำที่ไหลไปตามลำธารก็เท่านั้นเองพี่ตูนในการวิ่งครั้งนี้ แม้เขาจะไม่ยกว่าตัวเองฮีโร่ ฮีโร่คือคุณหมอ และพยาบาล เขาแค่คนที่จะอยากช่วยพวกเขาเท่านั้น แม้เขาจะบอกแบบนั้น แต่ที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเกิดขึ้น เพราะเขานี่แหละ ที่ศูนย์รวมสรรพสิ่งเข้ามา ทุกคนออกมาวิ่งเลิกเอาแต่ก้มหน้าถามไม่เลิก เพราะเขา เริ่มที่จะวิ่ง และความหมายอันแท้จริงของปรัชญาดำเนินการชีวิต มันจะเกิดขึ้น เมื่อเราเลิกก้มหน้าถามทางและเฝ้ารอคอยและตามหา แต่วิ่งตรงดิ่งด้วยใจที่แน่วแน่ตั้งมั่นว่า นี่แหละคือสิ่งที่ถูกต้อง การให้โดยไม่คิดอะไรคือความหมายของความสุข และความสุขก็คือสิ่งที่ทำให้เรายังมีชีวิตอยู่ เพราะเรามีความสุข ฟอร์เรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม คือภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง ที่ผมแนะนำให้ลองหามาดูเมื่อได้อ่านเล่มนี้ หรือได้ดูสารคดีเรื่องนี้ 2215 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ติดตามข้าพเจ้าเองได้ที่ยูทูป Funfrom production และได้ที่ Blockdit เขียนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตดาษดื่นไม่ดื่นดาษของข้าพเจ้า ภาพจาก : https://www.facebook.com/kaokonlakao/ภาพถ่ายหนังสือ : ข้าพเจ้าเอง