ผู้ประกันตนมาตรา 40 รับเงินเยียวยา 5,000 บาท รอบ 2 กลางเดือนกันยายนนี้ จากการประชุมเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ครม.มีมติเห็นชอบปรับกรอบวงเงินเยียวยาเพิ่มจำนวน 5,000 บาท สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดง จากเดิม 1 เดือน เพิ่มอีก 1 เดือน รวมเป็น 2 เดือน และ ผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่สมัครและส่งเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1-3 สิงหาคม และ 4- 24 สิงหาคม 64 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกันตนรอบที่ 2 ซึ่งอยู่ในเขต 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ ตาก โดยผู้ประกันตนสามารถเข้าไปเช็กสิทธิได้แล้ววันนี้ที่ www.sso.go.th (ตัวอย่างหน้ากรอกข้อมูล) (ตัวอย่างผลการตรวจสอบสิทธิ) หากผู้ประกันตนได้รับสิทธิเยียวยาตามโครงการจะมีข้อความตัวอักษรสีเขียว และเครื่องหมายติ๊กถูก แจ้งว่า ✔ ได้รับสิทธิ์ พร้อมกับคำแนะนำว่า "ขอให้ท่านดำเนินการเปิดใช้พร้อมเพย์โดยผูกบัญชีธนาคารกับเลขประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย สปส.จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผู้กับเลขบัตรประชาชนเท่านั้น" สำหรับผู้ที่เคยได้รับเงินเยียวยารอบแรกไปแล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม เมื่อถึงเวลาตามที่ สำนักงานประกันสังคมกำหนด ท่านจะได้รับโอนเงินเยียวยาตามหมายเลขบัญชีเดิมที่เคยได้รับ ส่วนผู้ที่ตรวจสอบแล้วขึ้นตัวอักษรสีแดง และเครื่องหมายกาบาด ✖ ไม่ได้รับสิทธิ์ หากท่านมั่นใจว่าท่านเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 ที่อยู่ในเกณฑ์จริง ๆ คืออาศัยอยู่ในพื้นที่ 19 จังหวัด ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว แนะนำให้ท่านปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปที่เราจะอธิบาย ผู้ประกันตนตกหล่นรายชื่อยื่นทบทวนสิทธิใหม่ ผู้ที่สมัครเป็นผู้ประกันตนเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยารอบแรก อันเนื่องมาจากความผิดพลาดในการโอนชำระ หรืออื่น ๆ ผู้ที่เพิ่งเข้าเป็นผู้ประกันตนที่มีสถานะ A (Active) ณ วันที่ 24 กันยายน สามารถดาวน์โหลด แบบคำขอทบทวนสิทธิ์โครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือมาตรา 40 เพื่อยื่นแบบขอทบทวนสิทธิเยียวยา โดยจำเป็นจะต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ กรอกแบบยื่นขอทบทวนสิทธิ ลงลายมือชื่อให้ชัดเจน ระบุเลขบัตรประชาชนให้ชัดเจน (หรือแนบสำเนาบัตรประชาชนไปด้วย) ยื่นแบบได้ที่สำนักงานประกันสังคมได้ทุกแห่ง สามารถยื่นเอกสารทบทวนสิทธิได้ถึงวันที่ 30 กันยายน 64 สำคัญ! บัญชีรับเงินเยียวยาจะต้องเป็นบัญชีพร้อมเพย์ที่ผู้ด้วยเลขบัตรประชาชนเท่านั้น หากบัญชีปิดไปแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหว มีการเปลี่ยนชื่อ-สกุล หรือยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์ให้รีบติดต่อธนาคารต้นสังกัดด่วน เพื่ออัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน จะได้ไม่ติดขัดเรื่องปัญหาการโอนรับเงินเยียวยา ที่จะเริ่มทยอยโอนตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 64 เครดิตภาพ : ภาพปก : bb20_pt10 Pixabay / ภาพที่ 1 : สำนักงานประกันสังคม / ภาพที่ 2 , 3 ,4 : Capture โดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !