ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 9 เดือนที่แล้ว เราเดินเข้ามายังโรงเรียนแห่งนี้ในใจแอบคิดว่าเรามาทำอะไร ?? คิดผิดหรือเปล่าที่เลือกมายังที่แห่งนี้ นอกจากต้องสอนหนังสือเด็ก ๆ ยังต้องมาปลูกพืชผักอีก ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าครอบครัวของเรามีอาชีพหลักคือ ทำเกษตร แต่เราทำทุกอย่างเพื่อหลุดพ้นจากการทำไร่ แต่วันนี้ต้องให้เรามาจับจอบ ตากแดดตากลม คือเราเข้าใจแค่ว่าเรามาเป็นครูเพื่อทำหน้าที่สอนเท่านั้น ช่วงแรกคือมีอคติมาก แทบจะไม่ลงไปเหยียบดินเลย แต่สิ่งที่ทำให้ค่อย ๆ เปลี่ยนทัศนคติคือ การมองเห็นเด็กตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลผักที่ตนเองปลูก เด็ก ๆ ค่อยถามตลอดว่า "ครูคะวันนี้พวกเราขายผักได้ 50 บาท" "ครูคะเราจะปลูกผักอะไรต่อคะ" จากนั้นเราเริ่มไปช่วยเด็ก ๆ ลดน้ำ ไปช่วยปลูก ภาพโดย รร.พุทธเกษตร พวกเราเน้นการปลูกผักแบบไร้สารเคมีควบคุมระบบนิเวศในแปลงผัก เราเริ่มต้นการปลูกพืชผักดังนี้ค่ะเราจะทำการหมักดินเพื่อเตรียมการปลูกด้วยการโรยขี้วัวลงไปในดิน หมักแบบนี้ไว้ 1 อาทิตย์จากนั้นเริ่มลงมือปลูก บอกก่อนว่าทางเราใช้วิธีการซื้อต้นกล้าถาด 1 ตกที่ราคา 50-80 บาท หลังจากปลูกเสร็จเราจะลดน้ำเช้า-เย็น ทุกวัน การใส่ปุ๋ยจะใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพ และใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงที่ทำกันเองภาพ โดย รร. พุทธเกษตร การปลูกผักของที่นี่เน้นปลูกเพื่อเป็นอาหารแก่นักเรียน เพราะโรงเรียนเป็นโรงเรียนพักนอน ค่าอาหารที่ได้จากรัฐบาลวันละ 1 มื้อ อีก 2 มื้อครูต้องหาทุนจากแหล่งอื่นมาเสริม ดังนั้นการปลูกผักจึงเป็นทางเหลือหนึ่งที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง แต่เพื่อเป็นการหารายได้เข้าบ้านพักนักเรียน จึงมีการจำหน่ายผักให้แก่โรงอาหารโรงเรียน หากเหลือจากการกินก็จะทำการจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก หากท่านใดสนใจสามารถเดินทางมายัง กาดละอ่อน ณ โรงเรียนพุทธเกษตร โดยจะเปิดทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 14.00 - 16.00 น.ภาพโดย รร.พุทธเกษตร