ขอเล่าแชร์ประสบการณ์ของตัวเองอีกครั้งกับการบริจาคเลือดครั้งแรก โดยขอแทนตัวเองว่าเนียนะคะ เดิมทีแล้วเนียเนี่ยเป็นคนที่กลัวเลือดมากค่ะแต่ไม่ใช่เลือดของคนอื่นหรืออะไรนะคะ แต่เป็นเลือดของ 'ตัวเอง' ซึ่งก็ไม่อาจได้ข้อสรุปที่แน่ชัดกับการกลัวเลือดของตัวเอง คิดว่าการกลัวเลือดของตัวเองครั้งแรก เพราะเกิดจากนิ้วมือของเนียโดนบาด แล้วแผลมันลึกมากจนเห็นถึงกระดูกเลย จนตอนนี้ก็เป็นแผลเป็นอยู่ ความรู้สึกที่กลัวเลือดตัวเอง? มันน่ากลัวมากจะรู้สึกว่าใจของตัวเองสั่นๆ อยู่ในอกเลยแล้วในหัวก็พลางคิดไปถึง เรียกว่า เซลล์ เนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นแผลแล้วมีเส้นเลือดฝอยไหลผ่านมันถูกฉีกมันกลายเป็นว่ามีภาพอยู่ในหัวเลย แล้วตอนแรกจะรู้สึกสั่นๆ หายใจติดขัดเพราะตื่นเต้นมาก แขนขาอะไรคืออ่อนแรงไปหมด หน้าก็เริ่มมืด คล้ายว่าจะเป็นลม ซึ่งก็เป็นอย่างนี้หลายครั้งเวลามีแผลที่ค่อนข้างจะไหลหยดอะไรทำนองนั้น แต่ถ้าเป็นแผลเล็กๆ ก็ไม่ถึงขั้นจะเป็นลมแต่จะพยายามหาพลาสเตอร์มาติด จะได้ไม่เห็นไม่รู้สึกและไม่กลัว อาการของโรคกลัวเลือด การกลัวเลือดนับเป็นโรค เหมือนกับการกลัวแตงกวา กลัวรู กลัวความสูง กลัวความมืด อาการก็จะมี มึนหัว อ่อนแรง รู้สึกคลื่นไส้ มากสุดของโรคนี้คือ ช็อกหมดสติ ขอเข้าเรื่องการบริจาคเลือดเลยนะคะ สาเหตุที่ตัดสินใจบริจาคเลือด จริงๆ แล้วเนียอยากบริจาคเลือด แบบว่าอายุถึงวัยที่สามารถบริจาคได้ เนียบริจาคครั้งแรกตอนอายุ 17 ปี ให้คุณแม่เซ็นใบรับรองให้สามารถบริจาคได้ ซึ่งเราสามารถบริจาคเลือดได้ตั้งแต่อายุ 17-60 ปี อ่านพันทิปมาว่ามีคนกลัวเลือดเหมือนกับเนียแต่ก็ตัดสินใจที่จะบริจาคเลือดเลยทำให้เนียมีแรงบันดาลใจที่อยากจะบริจาคบ้าง เห็นเขาบอกว่าจริงๆ แล้วไม่เจ็บเลย ไปอ่านประโยชน์ของการบริจาคเลือดมา คือมีประโยชน์หลายอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือ เลือดจะได้สร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ เอาจริงๆ แล้วก็อาจจะเป็นแรงฮึดที่แบบสักครั้งในชีวิตกับการบริจาคเลือด พอดีวันที่เนียบริจาคก็ตรงกับวันที่พ่อของเนียจะบริจาคเกล็ดเลือดอยู่พอดี ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วไปบริจาคเลือดด้วยเลย นั้นทำให้เนียได้ไปบริจาคเลือดแล้วจริงๆ เหตุการณ์การเจาะเลือด เนียมาบริจาคเลือดในวันหยุดช่วงเช้าประจวบเหมาะกับที่แม่ของเนีย อยู่เวรที่โรงพยาบาล ซึ่งการเจาะครั้งนี้แม่เนียเจาะให้เองเลย บอกเลยว่าหลายคนบอกแม่เนียมือเบามากเจาะแล้วแทบไม่รู้สึก อวยไปอีกซึ่งแม่ของเนียเป็นนักเทคนิคการแพทย์ อยู่เวรที่ห้องเลือด ขั้นแรกเลยนะคะ ต้องกรอกเอกสารก่อนต้องกรอกตามความจริง จะมีให้เราเลือกว่า ทานยามาหรือเปล่า ป่วยไหม ซึ่งหากเรากรอกแบบไม่ตรงความจริงมันจะมีผลที่เลือดของเราอาจจะใช้ไม่ได้ ดังนั้นหากใครสนใจบริจาคเลือดต้องกรอกให้ถูกต้องนะคะ หลังจากกรอกเอกสารแล้วจะต้องวัดความดัน ซึ่งครั้งแรกที่เนียวัดความดันเนี่ยสูงมาก เพราะตื่นเต้นขึ้นไป100กว่าๆ เลย เนียเลยไปนั่งพักแล้วดื่มน้ำสามแก้วและวัดความดันอีกรอบคราวนี้โอเคแล้วความดันลดลงแล้ว จากนั้นขั้นต่อไปเป็นสิ่งที่เนียคิดว่าเจ็บที่สุดแล้วคือ เจาะนิ้ว เจาะนิ้ว เป็นการตรวจเลือดว่าเรากรุ๊ปเลือดอะไร บอกเจาะลงไปแค่ แปปเดียวเท่านั้นเอง แผลก็จะเป็นรูเล็กๆ เหมือนเย็บกระดาษเลยซึ่งตอนเจาะลงไปเจ็บมากรู้สึกได้ซึ่งหลังเจาะเสร็จได้ใบกรุ๊ปเลือดมาก็ถึงเวลาแล้วที่เนียจะต้องไปที่เตียง แน่นอนว่าแม่ของเนี่ยเตรียมพร้อมแล้วที่จะเจาะเลือดให้เนีย มาพร้อมถุงโลหิต (ถุงเก็บเลือด) กับเข็มและสายเชื่อมไปที่ถุงโลหิต คราวนี้แม่ของเนียพร้อมจะเจาะแล้ว แต่เส้นเลือดเนียไม่ขึ้น แบบว่าแขนของเนียเนี่ยเรียบ ราบ มากคือแบบไม่มีการนูนของเส้นเนียเลย แม่ของเนียคลำหาเป็นพักก็ไม่เจอจริงๆ แม่เลยให้เนียบีบลูกบอลเล่นไปก่อน บีบไปมา แม่ก็หาเจอ บอกว่ามันหลบในมาก และแล้วแม่ก็เจาะแทงเนื้อไปเลยทุกคน บอกเลยว่าเนียไม่มองเลย กลัวมาก บอกเลยว่าบรรยากาศที่ห้องหนาวมากจริงๆ แต่แล้วพระเจ้าก็กลั่นแกล้งเนียแม่เจาะไปแล้วแต่ไม่โดนเส้นเลือด เจาะใหม่สิคะแน่นอนว่ายังไม่โดนอีก คราวนี้หมอสองคนมายืนเจาะเนียเลยรวมแม่ด้วย สรุปโดยรวมแล้ว เนียโดนเจาะใหม่ไปสามรอบ แม่ถามเนียว่าเจ็บไหม แต่ทุกคนคะ เข็มแทงลงเนื้อนะคะจะไม่เจ็บได้ไง บอกเลยว่า เจ็บมาก แต่ทนได้ แต่ตอนเจาะไว้แล้วก็ปล่อยให้เลือดมันไหล ซึ่งเอาจริงๆ มันไม่เจ็บเลยคือปล่อยให้เข็มเจาะอยู่กับเนื้อของเนียแบบไม่รู้สึกเลยอะไรจริงๆ และแล้วเหมือนจะจบลงด้วยดีใช่ไหมคะ แต่เจาะไปได้ครึ่งถุงเส้นเลือดของเนี่ยดันขอดค่ะเลือดเลยหยุดไหลลงถุง แม่เนียเลยบอกว่าเจาะใหม่ไหมไหนๆ แล้วและยังไม่ได้ตกลงนะคะ แม่เนียไปเจาะแขนอีกข้างเลย ปัญหาเดิม หาเส้นเลือดไม่เจอ เหมือนเดิมเป๊ะกับเจาะครั้งแรกเลยโดนแทงและเจาะใหม่ไปหลายรอบ แขนซ้ายแขนขวาอย่างละครึ่งถุงค่ะ อาการของเนียระหว่างเจาะนะคะบอกได้เลยว่าหนาวจับใจมาก หนาวมากแบบตัวเนียเนี่ยสั่นได้อย่างเห็นได้ชัด มือก็สั่น ขาก็สั่น ปากก็สั่น คือจับอะไรก็รู้สึกเย็นไปหมด และแล้วเลือดใกล้จะเต็มถุงแล้ว แน่นอนว่าพระเจ้าคงไม่ปล่อยเนียผ่านไปอย่างง่ายๆ ชีวิตคนเราต้องมีอุปสรรค เส้นเลือดขอดอีกรอบ เลือดไม่ไหลลงถุง ดีที่แม่เนีบขยับเข็มนิดหน่อยและเปลี่ยนท่าแขนของเนียทำให้เลือดไหลลงถุง และจบแล้ว เนียได้เลือดตัวเองเต็มถุงแล้ว ดีใจเหมือนเกิดใหม่เลยค่ะตอนนั้น แบบรู้สึกว่าการบริจาคเลือดมันนานมากจริงๆ ภาพที่เห็นนะคะคือตอนที่แม่ของเนียกำลังเอาเลือดใส่หลอดแก้ว ได้ประมาณสามหลอดและดึงเข็มออกให้เนียให้พับแขนก่อนแล้วแปะพลาสเตอร์ หลังจากเจาะเสร็จ แขนขวาที่เจาะ แขนซ้ายที่เจาะ ก่อนกลับบ้านได้ถุงประคบเย็นกลับมาด้วย ภาพทั้งหมดที่เห็นคือภาพที่เนียถ่ายมาตอนไปบริจาคเลือดค่ะ กลัวเลือดทำอย่างไรถึงไปบริจาคได้ (จากประสบการณ์) ศึกษาก่อนว่า การบริจาคเลือดต้องทำอย่างไรบ้าง อ่านข้อดีและประโยชน์ของการบริจาคเลือด มีใจอยากบริจาคเลือด (สำคัญที่สุด) พาคนที่ไว้ใจไปเป็นเพื่อนให้กำลังใจ ก่อนบริจาคเลือด ดื่มน้ำให้มากๆ ระหว่างบริจาคเลือด หากกลัวเลือด พยายามอย่ามอง เพราะจะทำให้ใจเต้นมากเกินไป หลังบริจาคเลือด พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ ช่วยบำรุงเลือดที่เสียไป คุณสมบัติที่จะสามารถบริจาคเลือดได้ อายุตั้งแต่ 17- 60 ปี น้ำหนักต้อง 45 กิโลกรัมขึ้นไป สุขภาพร่างกายต้องแข็งแรง ไม่ป่วย ไม่มีโรคประจำตัว ต้องไม่อยู่ระหว่างที่รับประทานยาปฏิชีวนะ ใน 3 วัน ไม่ถอนฟันหรือมีบาดเเผลตามร่างกาย ใน 48 ชั่วโมง ไม่เจาะหู หากเจาะหูสามารถบริจาคได้หลังจากเจาะ 1 ปี เตรียมความพร้อมก่อนบริจาค นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารก่อนบริจาคประมาณ 2 - 4 ชั่วโมง สุดท้ายแล้วเนียอยากชวนทุกคนให้มาบริจาคเลือดเพราะเลือดที่ได้ของเราจะนำไปช่วยชีวิตคนอื่นต่อ ถือเป็นการสร้างผลบุญอีกแนวทางที่ยิ่งใหญ่