หากจะพูดถึงตลาดหุ้นแล้วนั้นก็คงไม่แปลกที่จะมีทั้งคนที่ไม่กลัวแล้วก็คนกลัวในสถานะการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในปัจจุบันซึ่งเป็นปัจจัยใหญ่และก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้เหตุผลก็คือเมื่อเกิดการแพร่ระบาดมาเป็นเวลานานแบบนี้ก็เป็นเหตุที่ทำให้หลายๆประเทศทั่วโลกต้องปิดประเทศตัวเองเพื่อให้ประชากรภายในประเทศหรือต่างชาติเดินทางเข้าปนะเทศเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศของตัวเองซึ่งก็แน่นอนสิ่งเหล่านี้ก็กระทบต่ออุตสาหกรรมการบินแบบเต็มที่และโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งก็ทำให้บริษัทสายการบินทั่วโลกไม่สามารถทำการขึ้นบินได้อย่างที่ควรจะเป็น....ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายๆบริษัทประสบปัญหาหนี้สินต่างๆตามมา ต่อมาก็เป็นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เหมือนแต่ก่อนซึ่งประเทศไทยเราที่จำเป็นจะต้องอาศัยจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นหลักก็กระทบโดยตรงและอย่างมากซึ่งก็เป็นปัจจัยใหญ่ที่ทำให้จีดีพีของไทยเราไม่ต่อไม่ได้แต่อย่างไรก็ตามอันนี้อาจจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเองเพราะโดยภาพรวมแล้วกระทบทุกอุตสาหกรรมทั่วทั้งโลกไม่ว่าจะเป็น ห้าง บริษัทต่างๆ ตลาดสด พ่อค้าแม่ค้าตามริมฟุตบาทเป็นต้นแต่ผมจะไม่พูดถึงประเด็นเหล่านี้นะครับผมจะพูดถึงความกังวลของคนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญของการที่ทำให้ดัชนีของตลาดแปรปวนด้วยความกลัวของนักลงทุนเองซึ่งที่จริงแล้วตลาดหรือแม้แต่ตัวของบริษัทเองก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือกระทบอะไรมากมายเท่าไรนักตลาดหุ้นหรือแม้แต่อารมณ์ของคนที่อยู่ในตลาดนั้นจะเป็นแบบอ่อนไหวง่ายมากเมื่อมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบในทางที่ไม่ดีนิดหน่อยบรรดาคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักลงทุนจะเทขายหุ้นกันออกมาทันทีโดยที่ยังไม่ได้วิเคราะห์หรือแม้แต่หาข้อมูลเลยแม้แต่น้อยซึ่งเมื่อมีการเทขายหุ้นออกมาแล้วเมื่อคนอื่นๆเห็นก็จะเกิดความกังวลและความคิดไปต่างๆนาๆอาทิเช่น กลัวติดดอยบ้าง กลัวออกไม่ทันบ้างเป็นต้นเมื่อเหตุต่างๆที่พูดมาทั้งหมดแล้วนั้นผู้คนก็จะแห่เทขายกันตามๆกันและสุดท้ายเมื่อมีการเทขายหุ้นออกมาก็ทำให้เกิดแรงกดดันตัวของดัชนีล่วงตามๆกันไปซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการเล่นเกมการเงินอะไรเลยจึงมีคำเปรียบเทียบกันในหมู่ของนักลงทุนว่า (เม่า)นั้นเองแต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงเราในฐานะของนักลงทุนเราต้องย้อนกลับมาถามตัวของเราเองว่าเราเข้ามาในตลาดหุ้นเพราะอะไรและด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้เราเดินเข้ามาในวงการนี้เมื่อถามตัวของเราเองและได้คำตอบแล้วเหมือนวันแรกเราก็ต้องยึดมั่นในหลักการของตัวเองไว้ให้ดี ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงก็อย่าเป็นวังวลหรือแม้แต่แห่ตามคนอื่นเขาเท่านั้นก็พอแล้วครับกังวลได้แต่ห้ามลืมความตั้งใจของตัวเองและอย่าวิตกกังวลมากจนเกินไปจนทำให้เราเทขายหุ้นออกมาเล่นเกมการเงินกับเขาเหล่านั้นก็พอครับ.....?เพราะว่ายิ่งคนในตลาดมีความกลัวความกังวลมากเท่าไรเราในฐานะนักลงทุนตัวน้อยๆอย่างเราหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาแล้วละก็ผมเชื่อได้เลยว่าเราเจ็บหนักแน่นอนดังนั้นเราอย่าไปกังวลหรือว่ากลัวมากจนเกินไปแต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือเราจะต้องไปศึกษาและหาข้อมูลพื้นฐานของบริษัทให้ลึกซึ้งและดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้วก็ควรอยู่นิ่งๆในเวลาที่ทุกคนในตลาดกำลังต่อสู้กันภายใต้ตลาดอันบ้าคลั่งเท่านั้นก็พอ.......!!!!ขอบคุณภาพจาก คุณชายต้น (ผู้เขียน)