หากใครเป็นแฟนหนังของ Spielberg มาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ถึงความคล้ายๆ กันของหนังหลายๆ เรื่อง ว่ามักจะเป็นเรื่องของการต่อสู้เพื่อความถูกต้องของคนตัวเล็กกับผู้ที่มีอำนาจหรือมีกำลังที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้านี้ The Post หรือจะเป็น Bridge Over Spies ซึ่งทั้งสองเรื่องล้วนแสดงโดย Tom Hanks หรือจะเป็นหนังในตระกูลของ Indiana Jones ในทุกภาค รวมถึงหนังเรื่องนี้ด้วย Ready Player Oneหนังพูดถึง เวด วัตส์ ตัวเอกของเรื่องที่ใช้ชีวิตอยู่กับป้า ในย่านที่เปรียบได้กับสลัมของยุคอนาคตปี 2045ในส่วนของสารที่หนังต้องการสื่อที่เป็นแกนหลักของเรื่อง RPO เป็นหนังที่พูดถึงเรื่องของอนาคต ที่โลกทั้งโลกผ่านวิกฤตมา จนกลายเป็นโลกที่หดหู่ มีแต่ความยากจน และตกงาน เต็มไปด้วยปัญหาจนผู้คนต่างก็วิ่งเข้าหาโลกสมมติที่เรียกว่า โอเอซิส ซึ่งเป็นโลกที่พัฒนาขึ้นโดย .... ที่จะสามารถเข้าถึงโลกนี้ได้ผ่านทาง VRในโลกสมมติ ทุกคนสามารถที่จะสร้างตัวตนใหม่ ในแบบที่ตัวเองอยากจะเป็น อยากเป็นคนหน้าตาอย่างไรก็ได้ หรืออาจจะอยากเป็นหุ่นยนต์ หรือตัวละครดังๆ ที่ชอบบางครั้งวิ่งหาความสุขด้วยการเข้าสู่โลกสมมติ โลกที่สร้างขึ้นมาใหม่ ให้ทุกคนอยากเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น โลกที่ทำอะไรก็ได้แต่แล้วโลกสมมติ ก็เล่นตลกด้วยการสร้างกฎขึ้นมาใหม่ ให้ใครที่อยากครอบครองโลกนี้ อยากเป็นผู้คุมกฎในโลกใบนี้ พูดง่ายๆ ก็คือจะมีทั้งอำนาจและเงินจำนวนมากมาย จะต้องแก้ปริศนาที่ถูกผู้ออกแบบสร้างเอาไว้ 3 ข้อ ใครสามารถไขปริศนาได้ ก็จะได้โลกสมมตินี้ไปครองและตอนที่สำคัญอย่างมากสำหรับผม ก็เป็นตอนที่มีการ Hack ระบบของโลกสมมติ จนสามารถเชื่อมต่อภาพของคนบนโลกจริง กับภาพของคนบนโลกสมมติให้โลดแล่นอยู่ในโลกเดียวกัน จนทำให้เกิดคำถามว่าอันไหนเป็นโลกที่แท้จริงกันแน่หนังจบด้วยข้อสรุปที่ชัดเจนว่า ถึงแม้เราจะพยายามแสวงหาความสุขจากโลกสมมติอย่างไรก็ตาม แต่ถึงที่สุดแล้ว มันก็ไม่ใช่ความจริง มันไม่ใช่ความสุขที่แท้ เพราะทุกอย่างล้วนถูกสมมติขึ้น เพื่อตอบโจทย์บางอย่างเท่านั้นเหมือนกับคำพูดทิ้งท้ายของหนังเรื่องนี้ที่ว่า “โลกแห่งความจริงเท่านั้น คือสิ่งเดียวที่เป็นความจริง”ระหว่างที่นั่งเขียนบทความนี้ ผมนั่งอยู่ที่สนามบินแห่งหนึ่ง ก็อดหันไปมองรอบๆ ด้วยความสงสัยไม่ได้ว่า ตอนนี้เราอยู่ในโลกของความจริง หรือโลกสมมติกันแน่เครดิตภาพ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3