สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน วันนี้ Jejune’scape ก็จะมาบอกเล่าความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจครอครัวให้ผู้อ่านทั้งหลายกันนะคะ ในประเทศไทยเนี้ย บอกได้เลยว่าทุกคนก็คงคุ้นเคยกับคำว่าธุรกิจครอบครัวมาพอสมควรแล้วเนอะ ยิ่งถ้าพูดถึงธุรกิจครอบครัวในประเทศไทย หลายๆท่านคงต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เครือ CP (ตระกูลเจียรวนนท์) หรือ Central (ตระกูลจิราธิวัฒน์) แน่นอนเลยค่ะ นอกจากนี้ ความจริงที่ว่าธุรกิจครอบครัวนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ประเทศในฝั่งเอเชีย แต่รวมไปถึงทวีปอื่นๆด้วย โดยภาพรวม ธุรกิจครอบครัวนั้นครอบคลุมมากว่า 70% ของธุรกิจทั้งหมดทั่วโลกเลย เมื่อผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็เริ่มเข้าใจและอยากทราบถึงความสำคัญของธุรกิจครอบครัวกันแล้วใช่ไหมคะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะคะ ว่าธุรกิจครอบครัวคืออะไร และมีความแตกต่างจากธุรกิจแบบอื่นยังไงPicture credit: https://bit.ly/3a4e8Rx ธุรกิจครอบครัว คือ ธุรกิจที่คนในครอบครัวบริหารและจัดการร่วมกัน โดยครอบครัวที่บริหารร่วมกันอาจจะมีตั้งแต่คนในครอบครัวโดยตรง สายเลือดเดียวกัน หรือญาติทางกฎหมายเลยก็ได้ ซึ่งจะตรงกันข้ามกับธุรกิจทั่วไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากโดยปกติแล้วบริษัทจำกัดหรือมหาชนมักจะเริ่มต้นมาจากบุคคล 1 คนขึ้นไปที่มีความสนใจในการลงทุนในอุตสาหกรรมนั้นๆร่วมกันมาร่วมกันเปิดบริษัท เมื่อบริษัทขยายใหญ่โตเรื่อยๆ บริษัทก็จะมีการจ้างหรือเลื่อนระดับพนักงานที่มีความสามารถสูงมาเป็นฝ่ายบริหารเพื่อให้การบริหารงานในบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของผู้ถือหุ้นภายนอกสูงสุด ทว่า ธุรกิจครอบครัวนั้นจะมีแนวทางที่ต่างออกไป คือ ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ของบริษัทนั้นมักจะเป็นบุคคลที่อยู่ในครอบครัวเพื่อให้ผลประโยชน์สูงสุดในการบริหารเป็นของครอบครัวตนเองและเพื่อง่ายต่อการควบคุมนั่นเอง ประโยชน์ของธุรกิจครอบครัวPicture credit: https://bit.ly/2Ui3DDNคนส่วนใหญ่จะมีมุมมองในการบริหารไปในทางเดียวกัน กล่าวคือ ความมุ่งมั่นตั้งใจในการบริหารก็จะมีมากขึ้นเนื่องจากไม่ค่อยมีข้อโต้แย้งในทางความคิดการทุจริตที่เกิดภายในบริษัทจะน้อยกว่าบริษัทประเภทอื่น เนื่องจาก พนักงานส่วนใหญ่ในบริษัทจะเป็นบุคคลภายในครอบครัว ซึ่งต่างจากบริษัทอื่นๆที่มีบุคคลภายนอกเข้ามาบริหาร ต้นทุนทางธุรกิจจะน้อยกว่าบริษัทประเภทอื่น เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวบริหารกันเอง สามารถต่อรองกันได้ในเรื่องของผลประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อมีวิกฤตมีความมั่นคงมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น การดำรงตำแหน่งของผู้บริหารภายในบริษัท เนื่องจากธุรกิจประเภทอื่นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารสม่ำเสมอตามวาระการดำรงตำแหน่ง แต่ธุรกิจครอบครัวนั้น ผู็บริหารค่อนข้างที่จะมีโอกาสในการดำรงตำแหน่งมากกว่า ซึ่งก็จะส่งผลทำให้ผู้บริหารในธุรกิจครอบครัวมีความสามารถและความรู้ทางธุรกิจมากกว่า เพราะมีระยะเวลาในการเรียนรู้ที่มากกว่าบุคคลภายนอกที่เพิ่งจะมาดำรงตำแหน่งต่างๆ ข้อเสียของธุรกิจครอบครัวPicture credit: https://bit.ly/2WpyqB6การบริหารงานที่ไม่เป็นระบบ เนื่องจากธุรกิจครอบครัวมักจะมีญาติหรือคนในครอบครัวาบริหารบริษัทเป็นส่วนใหญ่ทำให้การบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ อาจมีการเอื้อผลประโยชน์ซึ่งและกัน ยกตัวอย่าง การดำรงตำแหน่ง บริษัทที่บริหารโดยครอบครัวมักจะเลือกคนในครอบครัวตนเองมารับตำแหน่งระดับสูงแทยที่จะเลือกบุคคลภายนอกที่มีความสามารถทางการบรหารมากกว่า ซึ่งการทำแบบนี้ อาจจะให้บริษัทตกที่นั่งลำบากได้ในที่สุดความขัดแย้งที่เกิดภายในครอบครัว อาจจะนำมาถึงความพินาศในธุรกิจได้ สำหรับบุคคลภายนอกเมื่อมีปัญหาขัดแย้งภายในบริษัท บุคคลนั้นสามารถที่จะหลีกหนีปัญหาเหล่านี้ได้โดยการย้ายงานหรือย้ายบริษัท ทว่า ในธุรกิจครอบครัวนั้นไม่สามารถที่จะทำได้ เมื่อคนในครอบครัวมีปัญหากันสามารถทำให้ส่งผลต่อการตัดสินใจในทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความเป็นครอบครัวก็เป็นได้ เป็นไงกันบ้างคะท่านผู้อ่านทุกท่าน ฟังดูแล้วธุรกิจครอบครัวก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ เนื่องจากข้อดีที่มากมายที่มาจากการทำธุรกิจครอบครัว ทำให้ธุรกิจมากมายในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่มาจากครอบครัวเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ทว่า การทำธุรกิจครอบครัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายบริษัทก็อาจะล้มละลายได้เหมือนกันเนื่องจากความไว้ใจกันมากเกินไปหรือแม้กระทั่งการผิดใจกันจนทำให้ธุรกิจพินาศ ฉะนั้นแล้ว การทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตามเราควรที่จะมีข้อตกลงกันอย่างชัดเจน และไม่เอื้อผลประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษนะคะ สำหรับบทความนี้ เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยของ Jejune’scape จะมีประโยชน์กับทุกท่านนะคะ ขอบคุณค่าา ภาพปกถ่ายโดย fauxels จาก Pexels: https://bit.ly/3akKisj