ปัจจุบันนี้ไม่ว่าในชีวิตของคุณหรือผมล้วนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีทั้งสิ้น เทคโนโลยีนั้นสอดแทรกไปทุกจังหวะการใช้ชีวิตของเรา เราตื่นเช้าด้วยนาฬิกาปลุกจากแท็บเล็ตที่คอยบันทึกคุณภาพการนอนตลอดคืนของเรา เราไปทำงานด้วยรถไฟฟ้าที่อาศัยรูปแบบการชำระเงินที่รวดเร็วด้วยกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบต่างๆ การทำงานของคุณต้องอาศัยระบบคอมพิวเตอร์ในการทำและเสนอผลงาน แม้แต่เวลาอาหารเราก็ยังสามารถค้นหาร้านอาหารใกล้บ้านได้ด้วย app ต่างๆ ในมือถือ เห็นไหมครับว่าเทคโนโลยีแนบแน่นไปชีวิตของเราอย่างแยกไม่ออกเลยทีเดียวการพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของเรา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกๆ การพัฒนาทำให้เรา มนุษย์ ใช้ชีวิตได้สบายขึ้น ง่ายขึ้น และรวดเร็วขึ้น แต่ว่าเทคโนโลยีที่ถูกผลักดันให้พัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ยังมีผลลัพธ์ที่เราไม่ต้องการแอบแฝงมาด้วย ดังต่อไปนี้ ความเป็นส่วนตัวของลูกค้า - การที่เราใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น social media, search engine หรือ shopping mall เว็บเหล่านี้จะเก็บและพยายามที่จะเก็บข้อมูลของเราตลอดเวลา ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า cookies หรือ analytic แบบต่างๆ มันพยายามจะเรียนรู้และทำความเข้าใจคุณ ว่าคุณชอบอะไร ไม่ชอบอะไร กำลังค้นหาอะไรอยู่ มีเพื่อนแบบไหน กำลังซื้อของอะไรมากเป็นพิเศษ ข้อมูลเหล่านี้นอกจากจะมีประโยชน์ในการนำเสนอสินค้าและบริการที่มีแนวโน้มว่าจะทำเงินได้แก่คุณแล้ว (เพราะมันรู้ว่าคุณสนใจอะไร) นอกจากนั้นบริษัทเหล่านี้ยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปขายให้กับคู่ค้าเพื่อทำกำไร หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันอีกด้วย เมื่อคุณใช้อินเตอร์เน็ตคุณมีพลังที่จะควบคุมข้อมูลของตนเองน้อยมาก คนที่คอยเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณทีละเล็กทีละน้อยจะค่อยๆ เข้าใจคุณมากขึ้น ซึ่งนั่นทำให้ความเป็นส่วนตัวของคุณลดลงภาพจาก pixabay ความเป็นส่วนตัวของลูกจ้าง - ถ้าคุณเป็นลูกจ้างหรือพนักงานในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง โดยปกติบริษัทนั้นจะมีฝ่าย IT ซึ่งจะคอยเฝ้าดูการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ของคุณระหว่างทำงานเสมอ ไม่แค่การเฝ้าดูจากกล้องวงจรปิดนะครับ ปกติฝ่าย IT จะมีเครื่องมือที่แยบยลกว่านั้น เค้าสามารถจะดูได้ว่าหน้าจอของคุณกำลังทำไรอยู่ คุณส่งเมลให้ใคร พิมพ์อักษรหรือข้อความอะไรลงบนคีย์บอร์ด เข้าเว็บไซต์อะไร รวมถึงข้อมูลเงินเดือนที่แต่ละเดือนโดนหักค่าอะไรจากบริษัทไปบ้าง โดยปกติการที่ฝ่าย IT สามารถดูข้อมูลเหล่านี้ก็เพื่อคอยช่วยแก้ปัญหาด้านคอมพิวเตอร์ให้แก่คุณ แต่คุณก็ต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัวในระหว่างทำงานด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเวลาคุณจะทำธุรกรรมใดๆ ที่เป็นเรื่องส่วนตัวบนคอมพิวเตอร์ของสำนักงานพึงระวังไว้เสมอครับ ถ้าเป็นไปด้วยก็ควรใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของตัวเองทำดีกว่าครับภาพจาก pixabay เสรีภาพในการแสดงออก - อินเตอร์เน็ตทำให้เรามีเสรีภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน คุณจะบ่นเรื่องเงินเดือนของคุณที่ขึ้นน้อยกว่าเพื่อนร่วมงานบน social media ก็ได้ หรือ ไม่พอใจในคุณภาพสินค้าที่สั่งซื้อมาจากเว็บไซต์ คุณก็ review สินค้านั้นโดยการให้ 1 ดาวก็ได้ หลายๆ ครั้งเลยเถิดไปถึงกระทำความเสียหายให้คนอื่น เช่น โพสภาพอนาจารของคนอื่น ส่งเมล์หลอกลวงให้โอนเงิน หรือ โพสว่าตัวเองป่วยขอรับบริจาคเงินไปรักษาตัวทั้งที่ตัวเองนั้นปกติดี เรื่องเหล่านี้นอกจากการใช้กฏหมายมากำกับดูแลแล้ว ผู้ใช้งานเว็บไซต์ทุกคนก็ต้องมีวิจารณาญาณในการรับสารที่มากขึ้น และมีสติเสมอเมื่อจะแสดงออกอะไรบนอินเตอร์เน็ต ถ้าอะไรที่ยังไม่แน่ใจ ไม่ชัวร์จริง ก็อย่าโพสนะครับภาพจาก pixabay การก่อกวนออนไลน์ - เชื่อไหมครับว่าอีเมลที่เรารับส่งกันทุกวันนี้ กว่า 80% เป็นอีเมล Spam คุณเข้าเว็บไซต์ต่างๆ มีโฆษณามากมายดักรอคุณรอ บางเว็บถึงขนาดขึ้นมาเป็นป๊อปอัพปิดหน้าจอกันเลยทีเดียว บางทีคุณก็หลงคลิกแบนเนอร์ที่บอกว่าคุณเป็นผู้โชคดีให้ใส่เบอร์โทรศัพท์เพื่อรับของรางวัลแต่กลับกลายเป็นว่าโทรมาขายประกันให้คุณ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงเพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะคลิกหรือดาวโหลดโปรแกรมอะไรก็ควรจะดูให้ดีซะก่อนนะครับภาพจาก pixabayในโลกแห่งความเป็นจริงคนที่ใจดีไม่ทันคนมักถูกเอาเปรียบจากคนที่ใจหยาบช้าและชอบฉวยโอกาสเสมอ คุณต้องปกป้องตัวเองครับ อย่ารอคอยให้คนอื่นมาช่วยคุณ คุณต้องหาความรู้เพื่อที่จะดูแลตัวเองให้ได้ เช่นเดียวกันกับในโลกของอินเตอร์เน็ตครับหากคุณยังไม่เข้าใจในระบบคอมพิวเตอร์ ระบบอินเตอร์เน็ตมามันทำงานอย่างไร มันสอดส่องข้อมูลเราอย่างไร คุณก็ควรที่จะเรียนรู้มัน เมื่อคุณเข้าใจก็เหมือนกับคุณมีภูมิคุ้มกันที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณและไม่มีใครสามารถเอาเปรียบคุณได้ในโลกอินเตอร์เน็ตครับภาพหน้าปกจาก pixabay