Short CommentDoctor Strange in the Multiverse of Madness: จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย (2022)"แปลกแต่สนุกอารมณ์ใหม่ กับหนังซุปเปอร์ฮีโร่สยองขวัญ"ดูไปบ่นไปเคยออกตัวมานานแล้วว่ามิใช่สาวก MARVEL แต่ดูได้ดูสนุกเพราะหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในแบบของ MARVEL คือความบันเทิงสำเร็จรูปที่มาเพื่อตอบโจทย์ความบันเทิงล้วนๆ ซึ่งมันทำให้คนดูดูสนุกได้ทุกเพศทุกวัยแต่จะสนุกมากน้อยก็สุดแท้แต่จะอินไปกับหนังมากน้อยเท่าไหร่เช่นกัน และสำหรับปัจจุบันที่ราคาตั๋วหนังค่อนข้างสูงครอบครัวผู้เขียนที่ต้องดูพร้อมกัน (สามหรือสี่คน) ก็ต้องคิดหนักเพราะการดูหนังแต่ละเรื่องก็คือราคาที่ต้องจ่ายที่สูง การจะเลือกจ่ายในระดับหลักพันเพื่อความบันเทิงสักเรื่องจำต้องเลือกและพินิจอย่างถ้วนถี่เพื่อการันตีความคุ้มค่า และเท่าที่ดูมาหนังที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายเสมอที่ดูได้อย่างสนุกพร้อมกันทุกคนมักจะเป็นหนังฟอร์มยักษ์ และจึงเป็นที่มาของการตีตั๋วดูหนังเรื่องนี้กันสามคนที่ความจริงคนรักหนังตัวเล็กอยากดูมาตั้งแต่ตอนเข้าใหม่ๆแล้วแต่เวลาของผู้เขียนและคุณแม่บ้านยังไม่สัมพันธ์กัน จึงมาได้ดูเอาเมื่อวันหยุดที่ผ่านมาแบบมาช้าหน่อยแต่ก็มานะกับหนังเดี่ยวเรื่องที่สองของคุณหมอ Stephen Strange (Benedict Cumberbatch) จอมเวทย์มหากาฬ ที่เปิดมากับฝันร้ายเมื่อ Doctor Strange ในลุคที่แปลกไปได้ร่วมต่อสู้กับอสุรกายต่างมิติเพื่อเข้าถึงคัมภีร์โบราณกับเด็กสาวคนหนึ่งแต่พลาดถูกสังหาร แล้วเมื่อเขาไปร่วมงานแต่งงานของ Christine Palmer (Rachel McAdams) อดีตคนรักแต่ต้องเจอกับความฝันทะลุมิติมายังโลกความจริง เมื่ออสุรกายตัวนั้นในความฝันออกมาตามล่าเด็กสาวนามว่า America Chavez (Xochitl Gomez) แล้ว Stephen ก็ต้องทิ้งงานแต่งมาพิทักษ์ประชาชนร่วมกับ Wong (Benedict Wong) เพื่อที่จะพบว่าแม่หนู America Chavez มีความสามารถในการเดินทางข้ามพหุจักรวาล (Multiverse) และมีจอมเวทย์ผู้ใช้เวทย์ที่แรงกล้าทะลุพหุจักรวาลเพื่อไปขโมยพลังของแม่หนู Stephen จึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้เวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก Wanda Maximoff (Elizabeth Olsen) ที่หลังจากเหตุการณ์ที่เวสต์วิวเธอได้กลายเป็น Scarlet Witch ผู้แข็งแกร่ง แต่เรื่องมันคงไม่ง่ายเพราะเบื้องหลังมีอะไรซับซ้อนกว่านั้นหนังยังคงเป็นหนัง MARVEL แถมยังชัดในความเป็น MARVEL ยุคหลังที่ได้เปิดพหุจักวาลเพราะอะไรที่พึงมีก็มี แต่ในความเป็นหนัง MARVEL จะมีข้อดีและข้อเสียในจุดเดียวกันคือการเล่าเรื่องเป็นจักรวาลขนาดใหญ่ที่จะมีอะไรแฝงไว้ผ่านการเล่าเรื่องก่อนหน้า ซึ่งมันจะไม่มีปัญหาถ้าบุคคลนั้นเป็นแฟนหนัง MARVEL อย่างเช่นลูกชายคนเล็กของผู้เขียน และคนที่ต้องดูไปกับเขาในทุกเรื่องอย่างผู้เขียนเพราะได้ดูมาทุกเรื่องจึงไม่พลาดจุดเล็กน้อย และเพิ่งมาเข้าใจว่าทำไมคนรักหนังตัวเล็กที่บ้านจึงคะยั้นคะยอให้ผู้เขียนดูการ์ตูนซีรีส์ What If ให้ได้ก็ตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ แต่ที่จะมีปัญหาคือคนค้างเคียงเพื่อนร่วมดูในโรงอย่างคุณแม่บ้านที่ไม่ได้ดูทุกเรื่อง ทำให้หลุดไปในเรื่องของพื้นฐานตัวละครและตัวละครบางคนที่มีมานางก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน และนั่นก็ทำให้ลดทอนความสนุกที่คนกลุ่มนี้จะได้รับที่ยังคงดูสนุกในความเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่แอ็คชั่นมันส์ๆแต่มันจะไม่อินแต่ถ้าว่ากันที่ความสนุกและความบันเทิงเรื่องนี้ถือว่าบันเทิงแต่อาจไม่เริงใจ เพราะการที่หนังอยู่ในมือของผู้กำกับ Sam Raimi เจ้าของงานสยองขวัญคลาสสิคอย่าง The Evil Dead (1981) ก่อนจะมาสุดปังกับไตรภาค Spider-Man และมีความสยองคลาสสิคตามมาอย่าง Drag Me to Hell (2009) นั่นหมายความว่า Sam Raimi รู้ทิศทางเป็นอย่างดีในการสร้างหนังสยองขวัญขั้นดีและยังมีประสบการณ์การสร้างหนังซุปเปอร์ฮีโร่ หนังภาคสองของหมอแปลกเรื่องนี้จึงแปลกสมชื่อเมื่อคนรักหนังตัวเล็กที่เอ่ยปากออกมาว่า "กลายเป็นหนังผีไปแล้ว" ซึ่งก็คือวามแปลกที่ว่าเพราะหนังออกมาในอารมณ์สยองขวัญที่มีทั้งกระตุกทั้งหลอนด้วยโทนของภาพและสถานการณ์สถานที่ ยิ่งดูไปก็ยิ่งเห็นว่า Sam Raimi มันมือในการปั้นหนังเรื่องนี้ให้ดูมีความต่างจนเป็นที่น่าจดจำ เพราะมีหลายอย่างที่ดูแล้วนึกถึงหนังสยองขวัญหรือหนังผีดีๆ และใครจะคิดว่าจะมีซอมบี้ในหนัง MARVELซึ่งถ้ามองกันที่เนื้อหาเรื่องของจอมเวทย์มหากาฬที่ต้องต่อสู้กับจอมเวทย์ที่มหากาฬกว่าคือแม่มดที่พลังแกร่งกล้า การใช้เวทย์สู้กันผ่านคัมภีร์โลกันตร์มันก็คือเรื่องไสยศาสตร์ และเมื่อเล่าผ่านการเดินทางข้ามพหุจักรวาลเพื่อไปเจอกับเหตุการณ์ ตัวเอง หรือบุคคลในจักรวาลอื่นที่อาจรักหรือชังกันในจักรวาลของตนเองเพื่อเรียนรู้ตนเองและเพื่อไม่ให้เป็นดั่งนิมิตก็คือเรื่องของวิทยาศาสตร์ และถ้ามองกันที่จุดนี้การเล่าเรื่องที่ไม่ได้ผูกปมให้วุ่นวายซับซ้อนจนหัวจะปวดทั้งที่โดดข้ามไปมามันก็คือความเจ๋งของบทที่วางเรื่องของไสยศาสตร์ลงบนวิทยาศาสตร์ได้อย่างเนียนๆ และที่ทำให้บทเดินหน้าไปได้เรื่อยๆไม่มีหลุดหรือสะดุดก็เพราะความเป็น MARVEL เองที่ได้ปูทางมาเรื่อยๆทั้งในทางทฤษฎีพหุจักรวาลของตนเองและในทางตัวละคร มันจึงเป็นหนังที่ดูง่ายเพราะไม่งงไปกับพหุจักรวาลทำให้สนุกสุดๆ เพียงแต่สำหรับผู้เขียนแล้วอาจมีหวังสูงไปหน่อยเท่านั้นที่ว่าหวังสูงเพราะการได้ดูการทะลุมิติจักรวาลของเหล่าไอ้แมงมุมมาแล้วและคิดว่าน่าจะไปไกลกล่านั้น แต่กลายเป็นเล่าเรื่องแนวตรงที่เอาความน่าจะซับซ้อนมารีดให้เรียบแล้วดูง่ายไปตรงๆซึ่งมันก็ทำให้เรื่องเดินหน้าไปได้แบบมีพลังตั้งแต่ฉากเปิด ทำให้เวลาฉายราวๆสองชั่วโมงเดินไปอย่างรวดเร็วชนิดลืมเวลาเพราะความตื่นตากับฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆและความตื่นใจกับตัวละครที่เขามามีส่วนร่วมในเหตุการณ์ทั้งที่บางคนอาจดูตลกมากกว่า แต่เอาจริงคือเหมือนจับยัดมาใส่เพื่อเอาใจคนดูและเป็นความพลิกผันบ้างในความเป็นหนัง MARVEL ที่นอกจากเรื่องตัวละครลับเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องหลบสปอยล์ เพราะเรื่องถูกรีดเรียบแล้วเลยกลายเป็นไปตามทำนองเมื่อตัวเอกต้องหาวิธีเอาชนะจนได้และแน่นอนว่าตัวร้ายแบบนี้ทางออกต้องบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นซึ่งก็จัดว่าทำได้ดี เพียงแต่จะว่าง่ายก็ง่ายแค่ระหว่างทางที่ผ่านมาการเล่าเรื่องและความสนุกยังจัดการคนดูอยู่เพราะนอกจากความสนุกมันส์และบันเทิงนอกนั้นเป็นไปตามสูตรเป๊ะ เพราะถ้าว่ากันที่เชิงลึกทางหัวใจเรื่องนี้ไม่มีอะไรหลุดไปจากทางเมื่อยังเป็นเรื่องของชีวิตฮีโร่ที่ต้องแลก ความเสียสละทางหัวใจเพื่อกอบกู้โลกแล้วเมื่อใดที่เลือกกอบกู้หัวใจโลกก็พินาศ หรืออาจรวมไปถึงมิติของความต่างของตัวบุคคลที่จะชี้วัดความเป็นฮีโร่ในตัวคุณว่าจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่หรือฮีโร่มัยซิน การแสดงจึงไม่มีอะไรล้ำไปกว่าการเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ขายแอ็คชั่นและงานด้านเทคนิคที่ยังคงตื่นตา ประกอบกับการที่ MARVEL ได้แผ้วถางทางมาแล้วเรื่อยๆทำให้คนดูติดภาพตัวละครแบบฝังลงในจิตใต้สำนึก การแสดงจึงไม่มีอะไรให้อวยถ้าจะมีคงเป็นความหลากหลายของ Elizabeth Olsen ที่ลึกชนิดดีก็ได้ร้ายก็เป็นและมีทั้งดูอบอุ่นแต่ถ้าจะหลอนแบบผีญี่ปุ่นใน The Ring ก็ทำได้ จนทำให้มีอารมณ์หนังสยองขวัญเข้ามาเป็นความแปลกใหม่ที่ถึงใจดีนักแลแต่ถ้าจะถามว่าหนังดีหรือไม่ในส่วนตัวผู้เขียนคงตอบลำบากเพราะอยู่ที่ตัวชี้วัด แต่ถ้าใช้ความเป็นหนัง MARVEL มาวัดเรื่องนี้อยู่ในทำเนียบหนังดีแน่นอน เพราะความเป็น MARVEL จะไม่ซับซ้อนให้ระทมกบาลและมันมีสูตรให้ต้องสนุกที่อาจทำให้หนังบางเรื่องที่พยายามแหวกแล้วไม่โดนใจ แต่กับเรืองนี้คือแหวกแล้วโดนเพราะการเลือกเอาความเป็นหนังสยองขวัญที่ลุ้นระทึกปนหลอนจนอึดอัดแถมมีตุ้งแช่บ้างบางคราวมาใส่ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ ทำให้อารมณ์ของหนังดูแปลกเพราะโทนหนัง ภาพ สี แสงและเงา รวมถึงดนตรีประกอบของ Danny Elfman ทำให้อารมณ์นั้นยิ่งชัด แต่ในความเป็นหนังสยองขวัญก็ไม่ได้น่ากลัวจนเด็กดูไม่ได้เพราะมันมาแค่อารมณ์ไม่ได้มาให้อุจาดตา ทำให้หนังดูสนุกได้อย่างที่ต้องการเพราะแม้จะไม่รู้รายละเอียดของพื้นฐานหรือไม่รู้ที่มาของตัวละครเช่นคุณแม่บ้านก็ยังดูสนุก แค่อาจจะไม่สุดเท่าคนรักหนังตัวเล็กที่สนุกสุดๆสมการรอคอยและพยายามหลบสปอยล์มาจนวันนี้เท่านั้นคุ้มค่าราคาตั๋วทุกบาททุกสตางค์ และหนังได้อรรถรสอย่างสูงสุดเมื่อดูในโรงผ่านระบบเสียงที่สมบูรณ์ดูไปบ่นไปวันนี้ในโรงภาพยนตร์https://www.facebook.com/MarvelThailand/videos/364088805783806ขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 จาก Facebook Marvel Studiosภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 และ VDO จาก Facebook Marvel จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !