Short CommentEmpress Ki: กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน (2014)สิ่งที่ปิดกั้นคนดูซีรีส์ยุคใหม่อย่างดูไปบ่นไปในการตัดสินใจดูซีรีส์พีเรียดย้อยยุครุ่นเก่าสักเรื่องส่วนหนึ่งคงจะเป็นจำนวนตอน เพราะซีรีส์ที่เดินทางข้ามเวลามาเกินสิบปีมักจะมีความมากด้วยจำนวนตอนจนกระทั่งเห็นแล้วสยดสยอง แต่สิ่งที่สามารถทำให้ความสยองนั้นกลายเป็นสิ่งที่มองข้ามผ่านได้คือความเข้มข้นของเนื้อหา ลูกเล่น ชั้นเชิงของยุคสมัยหรือตามเวลาที่ออกฉาย ด้วยเนื้อหาที่เล่ากันง่ายๆซื่อๆตรงๆและการขีดเส้นแบ่งทางหัวใจในมิติตัวละครทำให้เข้าถึงง่ายไม่ต่างจากละครหลังข่าวที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น แต่การเขียนบทที่ละเอียดและความสมจริงในเหตุการณ์ที่เล่าซึ่งต้องยอมรับว่าคนดูอาจไม่รู้เหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงยิ่งทำให้เร้าใจ จนทำให้จำนวนตอนที่มากมายทำอะไรไม่ได้พร้อมกับการไปต่อลำบากเพราะหาทางออกจากวังไม่เจอ และเมื่อผู้เขียนได้ผ่านการดูซีรีส์ทงอี จอมนางคูบัลลังก์ (2010) ที่มีหกสิบตอนมาได้ห้าสิบเอ็ดตอนของเรื่องนี้จึงมิใช่ปัญหากับตำนานของหนึ่งสตรีชาวโครยอที่กลายมาเป็นจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์หยวนนามว่ากีซึงนัง (ฮาจีวอน) ผู้มีจุดกำเนิดจากการเป็นบุตรของสตรีโครยอที่ถูกจับไปเป็นนางกำนัลให้กับราชสำนักหยวน แล้วได้เห็นแม่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมจากทหารหยวนแต่โชคชะตาทำให้ต้องเอาชีวิตรอดด้วยการแสร้งเป็นบุรุษ แต่ยุคสมัยแห่งราชวงศ์โครยอตอนนั้นกำลังอ่อนแอเพราะความฉ้อฉลของเชื้อเพราะวงศ์บางคนและการคอร์รัปชั่นของขุนนางขี้ฉ้อ โครยอจึงมิต่างจากเมืองขึ้นของหยวนที่พระราชาวังยู (จูจินมู) ผู้มุ่งมั่นก็มิอาจต้านทาน และถูกปลดจากราชบัลลังก์เพื่อส่งองค์รัชทายาทผู้ถูกเนรเทศ (จีชางอุค) กลับไปครองราชย์เป็นองค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวน แต่เมื่อจักรพรรดิอ่อนแอและแผ่นดินหยวนมีขุนนางขี้ฉ้อครอบงำองค์จักรพรรดิในการปกครองแผ่นดิน และยังมีพระพันปีที่จ้องจะมีอำนาจเหนือราชบัลลังก์ไม่ต่างกัน กีซึงนังและอดีตพระราชาวังยูจึงต้องมาเกี่ยวพันกับการแย่งชิงนี้เมื่อนี่คือซีรีส์ในอดีตที่ผ่านเวลามาแล้วแปดปีสิ่งที่พึงมีในความเป็นละครอิงประวัติศาสตร์ที่มีมาก่อนหน้านี้ก็ยังคงมี และเพิ่มเติมบางอย่างเข้าไปทำให้งานตามสูตรยังได้ผลและคนดูติดงอมแงมแม้ว่าจะมาดูตอนนี้ ก็ใช่ที่เมื่อดูแล้วยังเห็นว่ามีการใส่อะไรเข้าไปให้เหมือนเป็นส่วนเกินทำให้บางเรื่องบางประเด็นดูยืดเยื้อจนจำนวนตอนทะลุไปถึงครึ่งร้อย ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างจากงานที่ออกฉายมาก่อนหน้านั้นในแนวนี้ และสาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้เป็นงานดีที่ครองใจคนดูและกลายเป็นงานที่ทรงคุณค่าก็เพราะเหตุผลเหล่านี้ หนึ่งคือบทที่ละเอียดละเมียดทำให้พื้นฐานตัวละครมีความลึกจนทำให้คนดูเชื่อได้ในทุกตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นเรื่องของโชคชะตาที่แปรผันมิติตัวละครที่พื้นฐานลึกและแน่นจะช่วยให้คนดูเห็นจุดเปลี่ยนแม้ว่าบางเรื่องอาจไม่เต็มร้อย เช่นทำไมกีซึงนังที่เป็นนักสู้ที่เก่งตอนปลอมเป็นชายแต่บางครั้งกลับสู้ไม่ได้ ซึ่งต้องเข้าใจว่ามันคือเหตุผลต่อไปสองคือบทขีดเส้นความรักความชังชัดเจนให้ตัวละครไม่มีเทามีแต่ขาวกับดำ ซึ่งมันเนื่องจากจากเหตุผลก่อนหน้าเพราะบทละครต้องการให้คนดูสงสารเห็นใจฝ่ายดีอย่างกีซึงนัง , วังยู และองค์จักรพรรดิด้วยการโหมกระหน่ำให้ฝ่ายดีถูกกระทำอยู่เรื่อยแบบไม่มีเวลาให้พักหายใจ ซึ่งมันส่งผลให้คนดูรู้สึกเอาใจช่วยแม้จะรู้ทั้งรู้ว่ากีซึงนังจะเอาตัวรอดไปได้แต่คนดูก็ยังอยากรู้ว่าจะเป็นได้อย่างไรจนคนดูเทใจให้ทั้งหมด สามคือตัวละครฝ่ายดีสู้ทุกดอกและสู้ได้ทำให้เห็นการหักเหลี่ยมเชือดเฉือนที่เร้าใจลุ้นไปได้ตลอดทางการต่อสู้ของกีซึงนัง ประกอบกับระยะเวลาการให้รางวัลกับคนดูค่อนข้างยาวทำให้อารมณ์คนดูหงุดหงิดในการต่อสู้ที่ไม่จบไม่สิ้น แต่นั่นกับทำให้เกิดความอยากรู้ว่าชะตากรรมของคนร้ายพวกนี้จะเป็นอย่างไรเพราะเส้นความรังเกียจถูกขีดหนาไว้ใต้ตัวละครฝ่ายร้าย และเช่นดียวกันตัวละครฝ่ายดีก็กลายเป็นน่าเห็นใจและเอาใจช่วยเต็มที่ทำให้สะกดอารมณ์สามคือความอลังการที่ดึงดูดสายตาด้วยภาพมุมกว้างของฉากและเสื้อผ้าหน้าผม ส่งเสริมให้ตัวละครดูดีมีสง่าน่ามองเพราะนี่คือเรื่องของราชวงศ์และพระราชวังความอลังการจึงช่วยได้ แม้ว่าบางฉากบางสถานที่ยังดูคุ้นตาแต่การใช้มุมกล้องก็ช่วยได้ในฉากที่ต้องการทำให้บางฉากดูตื่นตาเพราะความแปลกตา แล้วเสริมด้วยเพลงประกอบที่ออกแนวปลุกเร้าและรีดเค้นอารมณ์ยิ่งทำให้อารมณ์ที่ถูกสะกดรู้สึกลึกไปกับตัวละครเพราะดราม่าก็มาบ่อยเนื่องจากระยะทางเล่าที่ยาว สี่คือเรื่องน้ำเน่าที่เล่ามาจนคุ้นเคยแต่ด้วยความที่บทออกมาไม่ดูเชยเลยเข้าถึงง่าย เพราะเรื่องนี้คือเรื่องของเกมอำนาจและการช่วงชิงการมีอำนาจเหนือราชบัลลังก์ที่เหมือนเป็นของตายที่ซีรีส์หรือละครแนวนี้ต้องมี แต่ด้วยความที่บทเล่าได้อย่างละเอียดตั้งแต่แรกทำให้เข้าถึงง่าย และการที่ตัวละครไม่โง่ก็ทำให้บทออกมาไม่ล้าสมัยจนจนเกินไปเรื่องที่เล่ามาแล้วซ้ำๆจึงยังคงได้ใจและสุดท้ายนักแสดงที่มีเสน่ห์และการแสดงที่จัดการได้ทุกอารมณ์ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้คือเรื่องของกีซึงนังความหลากหลายในตัวละครและพลังหลักต้องเป็นตัวละครกีซึงนัง และนักแสดงที่เสน่ห์จัดจ้านอย่างฮาจีวอนคือทุกสิ่งทุกอย่างของเรื่องแน่นอน ฮาจีวอนมอบบุคลิกที่สวยสง่าในเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เฉิดฉายสมกับการเป็นจักรพรรดินี ทั้งการที่เธอมอบมิติที่ถูกกำหนดได้อย่างไม่มีที่ติตั้งแต่เริ่มและมีพัฒนาการทั้งทางกายภาพ บุคลิก และหัวใจที่เป็นจุดเปลี่ยนข้างใน ฮาจีวอนมอบการแสดงที่เห็นได้ชัดเจนในทุกมิติที่เปลี่ยนแปลงของตัวละครที่เปลี่ยนจากหญิงสาวธรรมดาที่มีความแค้น มีความรัก พบความสูญเสีย จนเดินหน้าเข้าสู่วังวนของการแก่งแย่งอำนาจได้อย่างเนียนๆด้วยความสุขุมยากต่อการอ่านใจ และแน่นอนฮาจีวอนในเปลี่ยนผ่านจากบทนัง มาเป็นซึงนัง มาสู่กีนัง มาถึงพระสนมกี จนสุดท้ายเป็นจักรพรรดินีกีได้ชนิดที่คนดูเทใจให้ทั้งกระบุงแต่ใช่ว่าตัวละครอื่นจะแสดงได้ไม่ดีหรือเป็นจุดอ่อน ตัวละครแถวแรกยังได้รับการถ่ายทอดอย่างไม่มีที่ติเช่นเดียวกันทั้งจูจินมูกับจีชางอุคที่เป็นตัวแปรที่ยอดเยี่ยมในเรื่องของหัวใจ หรือกระทั่งตัวละครอื่นๆที่เป็นตัวกำหนดความเร้าใจในทุกเรื่องราวที่ถูกขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนในมิติทางใจคนดูก็ล้วนให้การแสดงที่สมบูรณ์ เพราะที่ควรรักก็รักที่ควรเกลียดก็เกลียดหรือคนที่ควรรังเกียจก็รังเกียจไปเลย ซึ่งถ้านับกันที่นักแสดงในบทเด่นที่เป็นแถวหน้าที่รับบทบาทในการจัดการอารมณ์ทุกคนให้การแสดงที่คุ้มค่า แต่เมื่อมันคือเรื่องใหญ่รายละเอียดเยอะตัวละครแถวสามเป็นต้นไปเลยกลายเป็นไม่สมบทบาท แต่เมื่ออารมณ์ของคนดูไปสู่จุดที่บทต้องการแล้วเรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่กลายเป็นของประกอบฉากไม่มีส่วนร่วมกับอารมณ์คนดูก็นับว่ามองข้ามไปได้ เพราะเจตนาของบทคือเร้าใจ บีบคั้นทางอารมณ์ และทำให้เรื่องน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ การที่จะกลายเป็นงานที่ทรงคุณค่าหรือกลายเป็นตำนานอาจไม่ใช่เพราะความสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเพราะงานนั้นสามารถครองใจคนดูและได้รับการกล่าวขานจึงกลายเป็นตำนานได้ เช่นกันกับเรื่องนี้ยังมีอะไรไม่จำเป็นอยู่บ้างทำให้ยืด บางตัวละครก็ถูกหลงลืมไปอย่างไม่น่าเชื่อ หรือกระทั่งความต่อเนื่องเนียนตาก็ยังมีบ้างที่ดูโดดหรือการลากยาวไปจนคนดูล้าที่จะรอรางวัลที่สาสมใจ ความจงใจสะกดอารมณ์เลยทำให้ไม่มีช่วงที่ผ่อนคลาย เรื่องเหล่านี้คือรอยแผลที่เห็นได้ในงานชื้นนี้แน่นอนเพราะนี่ไม่ใช่งานที่สมบูรณ์แบบ แต่ที่ทำให้กลายเป็นตำนานเพราะการเล่าเรื่องที่อาจดูเอื่อยในเรื่องไม่จำเป็นบ้างแต่ไปได้เรื่อยๆและมีพลังพอ ทำให้เรื่องนี้คือความสนุกและถึงอารมณ์คนดูเพราะคนดูมอบใจให้ตัวละครด้วยชั้นเชิงแบบเก่าที่เข้าถึงง่าย จนเมื่อหัวใจคนดูได้รับทุกอารมณ์ที่พึงได้จากเรื่องนี้ที่ไม่ได้จบสวยอย่างที่เคย คนดูก็พร้อมจะประทับใจและบอกต่อกันมาว่า นี่คืองานทีทรงคุณค่าที่คู่ควรดูดูสนุกจนมิอาจละสายตาดูไปบ่นไปNETFLIX , viu และ MONOMAXขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 5 จาก Facebook MONOMAXภาพที่ 1 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / จาก Facebook Viu Thailandเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !