Short CommentSinkhole ฝ่าวิกฤต หลุมระทึก (2021)"สนุก ตื่นเต้น ลุ้นตามสูตร แต่การเลือกเล่าโทนเบาทำให้ไม่เครียด แต่ก็เหมือนขาดอะไรบางอย่าง"สิ่งที่ขายได้เสมอมาในโลกภาพยนตร์จนกลายเป็นสูตรสำเร็จเรื่องหนึ่งคือหนังแนวหายนะและการเอาชีวิตรอดจากวิกฤติ ซึ่งถ้าจะให้นับก็อาจจะลำบากเพราะเล่าบ่อยเล่าซ้ำจนไม่เหลือความยากให้คาดเดา แถมยังมีของมันต้องมีมากมายทั้งทางอารมณ์และความรู้สึกรวมถึงงานด้านเทคนิคที่มาขายเพื่อเร้าความตื่นเต้นในใจคนดู แต่อนิจจาพอเล่าบ่อยขึ้นทางที่ไปเริ่มเหลือน้อยหนังบางเรื่องจึงออกมาง่อยเพราะบทหนังไม่สามารถพาตัวเองหลุดพ้นไปจากทางเดิมๆ จึงเห็นบ่อยในช่วงหลังที่ไม่ค่อยมีหนังแนวนี้ที่ถึงพร้อมออกมานานจนจำไม่ได้แล้วว่าที่ทำได้ทำดีคือเรื่องไหน เอาที่นึกออกคือหนังเกาหลีอย่าง Tunnel ก็ย้อนไปตั้งปี 2016 ที่ดูดีในอารมณ์หม่นและกดดันซึ่งมันก็ยังเป็นไปตามสูตร แต่กับหนังเรื่องต่อไปนี้กลับมาแปลกด้วยการเอาสูตรของหนังแนวนี้มาปรับอารมณ์ใหม่ให้เป็นจุดขาย ด้วยอารมณ์ที่เบาลงทำให้ไม่เครียดแต่ไปเน้นความตื่นเต้นซึ่งมันดูแปลกดีเพราะบ้านคือวิมานของเราที่เฝ้าใฝ่ฝันของชนชั้นกลางในเมืองใหญ่ เมื่อฝันเป็นจริงพัคดองวอน (คิมซังคยุน) จึงมีความสุขและภูมิใจที่ได้พาภรรยาและลูกชายมาอยู่ที่บ้านใหม่เป็นอพาร์ทเม้นท์ที่สมฐานะ และเมื่อย้ายเข้ามาพัคดองวอนก็ต้องเจอกับเพื่อนบ้านที่น่ารำคาญคือจองมันซู (ชาซึงวอน) ชายผู้ทำสารพัดงานและเหมือนอยู่ในทุกที่ที่พัคดองวอนไป จนเมื่อพัคดองวอนได้เปิดบ้านต้อนรับเพื่อนร่วมงานในการกินเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ที่มีคิมซึงฮยอน (อีกวังซู) กับ ฮงอึนจู (คิมฮเยจุน) และเพื่อนร่วมงานอีกสองคน จนเมื่อถึงเวลาสองคนหลังก็กลับก่อนเหลือเพียงคิมซึงฮยอนกับฮงอึนจูที่เมาปลิ้นและค้างคืน แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันต่อมาตึกอพาร์ทเม้นท์หลังใหม่ยุบตัวลงในหลุมลึกกว่าสองร้อยเมตร คนที่ติดในนั้นต้องติดอยู่ในตึกและอยู่ลึกในหลุมเพื่อเอาชีวิตให้รอดก่อนที่ทีมกู้ภัยจะมาช่วย แต่มันจะง่ายปานนั้นหรือบอกแล้วว่านี่คืองานตามสูตรหนังเลยออกมาตรงเป๊ะไม่มีบิดเบี้ยวในเรื่องของเนื้อหา เริ่มต้นจากการปูพื้นฐานแนะนำตัวละครแล้วพาพวกเราเหล่ามาชุมนุมจนเกิดภัยพิบัติและติดอยู่กันเป็นกลุ่ม ระหว่างการเอาชีวิตให้รอดเพื่อรอการช่วยเหลือก็ต้องมีดราม่าส่วนบุคคลและการค้นพบตัวตนหรือเนื้อคู่ที่ต้องผ่านการเผชิญนาทีชีวิตร่วมกัน แล้วเล่าผ่านปัจจัยแทรกซ้อนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกให้ได้ลุ้นระทึกหรือการต่อสู้กับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจที่ดูสนุก ซึ่งของที่ต้องมีก็มาครบแต่เรื่องนี้กลับเลือกทางเดินที่เสี่ยงเมื่อเลือกเล่าในโทนเบาสมองด้วยการขายอารมณ์ขันในสถานการณ์คับขันซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเข้ากันแต่ก็เข้ากันได้ และมันเป็นไปแล้วเมื่อหนังไม่มีความตึงเครียดตามแนวทางของหนังแบบนี้อยู่เลยแต่กลับทำให้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะออกมาเป็นระยะ ซึ่งมันมาจากเจตนาของบทที่ต้องการให้หนังออกมาโทนนี้ไม่ใช่ตั้งใจจะเครียดแล้วดันหลุดขำหนังจึงทำได้ดีในความต่างแบบนี้เพราะคนดูสนุกไปได้เต็มที่เมื่ออารมณ์ไม่ถูกกดเหมือนที่เคยๆ หลังจากนั้นก็ใส่เหตุการณ์ที่เอามาขายความตื่นเต้นที่ยังคงเป็นสูตรเมื่อพ่อต้องไปช่วยลูกแล้วยิ่งทำอะไรก็ยิงถลำลึก ที่พาให้คนดูไปเห็นเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นและลุ้นแต่ก็อย่างว่ามันไม่ได้มีอะไรใหม่จนทำให้ตื่นใจความสนุกก็เลยเป็นความสนุกที่คุ้นเคย และจะด้วยความที่พยายามแหวกหรือไม่ก็ยากจะเดาเพราะอารมณ์ก็ถูกปรับแต่งไปแล้ว หลายเหตุการณ์จึงอยู่เหนือสามัญสำนึกของมนุษย์เช่นการเข้าไปอยู่ในแทงค์น้ำพลาสติกขนาดใหญ่แล้วปิดฝาจนสนิทซึ่งคนที่อยู่ในนั้นหลายคนไม่น่าจะมีอากาศให้หายใจพอ หรือการที่ลูกโดดลงไปช่วยพ่อที่ตกหลุมโคลนทั้งที่คนอื่นกำลังจะโยนเชือก มันเลยมองเห็นแรงจูงใจในการพยายามยัดความตื่นเต้นปนดราม่าพ่อกับลูก และมันเป็นเช่นนั้นไปจนถึงตอนท้ายที่ยังคงเป็นไปตามสูตรเมื่อต้องมีฮีโร่ผู้เสียสละแต่ถ้ามองจากอารมณ์หนังที่เป็นโทนเบาสมองมาตั้งแต่แรกแล้วคิดได้ว่านี่คือหนังขายขำสักเรื่องที่เน้นความตื่นเต้นบนแนวหายนะเอาชีวิตรอดก็พอรับได้ เพราะความเสี่ยงที่จะเบาบางทางอารมณ์ร่วมนั้นทำให้กลายเป็นหนังตลกในหายนะ ซึ่งอาจมีเจตนาในการสื่อให้เห็นถึงการมองโลกในแง่ดีแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน กระนั้นสิ่งที่หายไปเลยความความอึดอัดกดดันและความจับหัวใจซึ่งพอเข้าใจได้กับอย่างแรก เมื่ออารมณ์ถูกปรับให้เบาความหนักก็ต้องหายไปแต่มันดันมีความหนักที่ยังพยายามจะเอามาขาย คือความจับหัวใจที่เจตนาเรียกน้ำตาในเรื่องของแม่ผู้ชรากับลูกชายผู้แสนดีกับเด็กน้อยที่ไม่มีโอกาสกลับมาเจอกับแม่ผู้ทนลำบากในการหาเลี้ยง ซึ่งมันเห็นชัดเจนว่าถูกใส่มาเพื่อจับใจคนดูแต่กลับเบาบางเกินกว่าจะสัมผัสได้ และอย่างที่บอกคือเมื่อเลือกจะเบาสมองอะไรที่หนักๆแบบนี้เลยถูกมองข้ามตั้งแต่แรก เลยทำให้เมื่อถึงเวลาก็ไม่ได้ดังหวังเพราะคนดูไม่รู้สึกอะไร ด้วยความที่ไม่ได้เล่าให้เห็นมิติเพราะมัวไปปูเรื่องตัวละครหลักที่จะมาขายขำจนทำให้เรื่องที่ต้องการบีบหัวใจแบบนี้กลายเป็นส่วนเกิน หรือกระทั่งดราม่าพ่อกับลูกที่คราวนี้มีมาสองคู่แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้ปักเข้ากลางใจเพราะมีแต่จุดเปลี่ยนแต่คนดูไม่รู้จุดเริ่ม แต่สิ่งที่ยังทำได้ดีแม้จะเคยเห็นเคยเจอและง่ายแบบไม่มีอะไรพลิกผันเลยก็คือความตื่นเต้นระทึกใจ ที่เอาตามจริงก็เหมือนกับการหยิบนู่นนิดนี่หน่อยมาจากหนังแนวนี้มาใส่ทั้งของที่หล่นจากฟ้า การตกจากที่สูง การติดอยู่ในรถ หรือกระทั่งน้ำท่วมที่เล่าผ่านงานเทคนิค CGI ที่ได้แค่ระดับพอใช้ไม่ได้เนียนตาจนสังเกตไม่ออก และเมื่อหนังเน้นเหตุการณ์การเอาชีวิตรอดปฏิบัติการกู้ภัยและอารมณ์ของคนที่รอคอยอยู่ข้างบนด้วยความห่วงใยจึงกลายเป็นตัวประกอบ และทำให้มีหลายอย่างถูกลดทอนออกไปอย่างน่าเสียดายเพราะการเสี่ยงปรับจุดหมายทางอารมณ์และด้วยความที่หนังออกมาเบาสมองการแสดงของนักแสดงที่ยังมีมาตรฐานก็ช่วยทำให้หนังดูลื่นไหลและสนุกผ่านความเบาบางของบท เพราะบทแบบนี้นักแสดงที่มาเล่นโดยเฉพาะนักแสดงเกาหลีหลับตาเล่นก็คงได้ ทั้งระดับป๋าชาซึงวอนที่อยู่ในแถวหน้าของวงการทั้งพลังดาราและฝีมือ รวมถึงบทแบบนี้ก็ต้องได้นักแสดงแบบอีกวังซูและคิมซังคยุนมาเล่นเพราะแค่เห็นการแสดงทางสีหน้าก็ไม่เครียดแล้ว แถมยังได้อดีตพระมเหสีในซีรีส์ Kingdom มาเล่นแบบมอมแมมแต่ดูมีเสน่ห์ ซึ่งมันคือมาตรฐานของนักแสดงเกาหลีที่จะพาหนังเดินหน้าไปได้ทั้งที่มีริ้วรอยมากมายถ้าจะสังเกต แต่การแสดงที่เชื่อได้และความไหลลื่นรวมไปถึงความเข้ากันได้ดีของนักแสดงทุกคนก็ทำให้หนังเดินหน้าไปได้อย่างเพลิดเพลิน เพลินจนถ้าไม่ใช่คนที่ดูแบบเอาเรื่องเอาราวจริงๆอย่างดูไปบ่นไปก็อาจมองข้ามได้ทุกอย่างและสนุกได้เต็มที่เพราะหนังต้องการแบบนั้นเพียงแต่เมื่อหนังยังต้องการมีหัวใจและใส่อะไรที่เป็นหัวใจลงมามันเลยมองเห็นเจตนาที่ไม่ต้องมีก็ได้ เพราะดราม่าที่ใส่มาดูจงใจและไม่ลึกทำให้คนดูรู้สึกได้แค่เป็นผู้สังเกตการณ์ไม่ใช่รู้สึกมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นาทีชีวิตนั้น ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเป็นเพราะความเสี่ยงเปลี่ยนอารมณ์อย่างที่ว่าทำให้หนังออกไปทางขายความสนุกลุ้นกันมันส์ๆ แต่ถ้าจะให้สุดก็คือไปทางนั้นไปเลยไม่ต้องเหลียวหลังมองหน้ามาหาดราม่า เพราะดราม่ามันต้องมาพร้อมอารมณ์อึดอัดกดดันหายใจไม่ทั่วท้องซึ่งมันย้อนแย้งกับเจตนาหลักของบทเลยกลายมาเป็นไส้ติ่งที่ไม่ต้องมีหรือตัดทิ้งไปก็ได้ แต่ในความที่บทรั่วและริ้วรอยมากมายกลับถูกพาไปด้วยความลื่นไหลและสนุกกับการแสดงของนักแสดง ทำให้หนังเรื่องนี้เมื่อผู้เขียนดูจบอาจไม่ถึงกับประทับใจสุดๆแต่ก็เป็นหนังที่ดูสนุกได้ไม่เสียดายเวลา เพียงแต่เสียดายที่ยังขาดบางอย่างไปเท่านั้นถ้าตั้งใจมาสนุกเรื่องนี้สนุกแน่นอนดูไปบ่นไปviuขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook Viu Thailandภาพที่ 5 จาก Facebook tvN Moviesจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !