คำนวณค่าไฟฟ้าด้วยตัวเอง บรรเลงเลย ง่าย ๆ ชิล ๆ อากาศในช่วงเดือนเมษายน ของประเทศไทยผู้เขียนอยากให้มีฝนตกเกือบทุกวันถ้าเป็นไปได้ จะได้ช่วยคลายความร้อนลง เพราะอากาศมันร้อนอบอ้าวเสียเหลือเกิน แต่ถ้าฝนตกทุกวัน มันจะทำให้เจ้าเชื้อไวรัสโควิด-19 เจริญพันธุ์ได้ดี เป็นอันว่าร้อนเปิดแอร์ หรือเปิดพัดลมเอาดีกว่า การเปิดแอร์หลาย ๆ ชั่วโมง จะกินไฟมากกว่าการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น การเปิดแอร์เพียงตัวเดียว 6 ชั่วโมง ก็กินไฟเกิน 800 หน่วยแล้ว เนื่องจากการคิดค่าไฟ เป็นการคิดแบบอัตราก้าวหน้า บ้านไหนใช้ไฟมาก ค่าไฟก็จะสูงตาม ค่าไฟจะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับแต่ละบ้านด้วยว่าใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทใดบ้าง บ้านของผู้เขียนใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทุกประเภท มี แอร์ตัวใหญ่ 1 ตัว ตัวเล็ก 1 ตัว เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ พัดลมตั้งพื้น เครื่องดูดฝุ่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ไมโครเวฟ เตารีด กาต้มน้ำ ฯ ล ฯ ช่วงเปิดแอร์หนัก ๆ ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ถึงเวลา 05.00 น.รวม 6 ชั่วโมง ค่าไฟฟ้าทะลุไปเกือบ 3 พันกว่าบาทต่อเดือน วิธีการ คำนวณค่าไฟฟ้าด้วยตัวเอง ในเบื้องต้น นั้นไม่ยากเลย ซึ่งก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนั้น ๆ มีกำลังไฟฟ้าที่มีหน่วยเป็นวัตต์เท่าไร และ ใน 1 เดือน เปิดใช้งานประมาณกี่ชั่วโมง จากนั้นนำมาคำนวณ ค่าใช้ไฟฟ้าด้วยสูตรดังต่อไปนี้ กำลังไฟฟ้า (วัตต์ ) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า ÷ 1000 x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน = จำนวนหน่วยต่อวัน (ยูนิต) หากต้องการใช้ไฟอย่างประหยัดไม่ให้เกิน 800 หน่วย ก็ต้องมาพิจารณาว่า เราควรจะต้องลดการใช้เครื่องไฟฟ้าตัวไหนลง ที่เห็นได้ชัดคือ แอร์ เปิดแอร์ตัวเดียว 6 ชั่วโมง กินไฟถึง 936 หน่วย เราอาจลดการเปิดแอร์ลง จาก 6 ชั่วโมง เหลือเพียง 3 ชั่วโมงต่อวัน แทน แล้วสลับเปลี่ยนเป็นเปิดพัดลมตั้งพื้นแทน ทั้งนี้ เราสามารถคำนวณค่าไฟฟ้าด้วยตัวเองได้ในเบื้องต้น และยังสามารถควบคุมการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ ไม่ให้ค่าไฟโด่งสุดโต่งด้วย หลักการง่าย ๆ คือใช้เครื่องไฟฟ้าที่สามารถทดแทนกันได้ ลดจำนวนชั่วโมงในการเปิดใช้งานลง ซึ่งผู้อ่านสามารถศึกษาการคำนวณค่าไฟฟ้าด้วยตนเองได้ จากบทความของผู้เขียน ที่เขียนไว้จาก 2 บทความนี้ 1.https://cities.trueid.net/post/129684 2.https://cities.trueid.net/post/130993 หมายเหตุ : ภาพปก และภาพลำดับที่ 1-5 ถ่ายโดยผู้เขียน นามปากกา : สมภัสสร (Sompussorn)