สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ^^คราวก่อนผู้เขียนได้พาทุกท่านไปเรียนรู้เก็บเกี่ยวคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมายในส่วนของกฎหมายอาญากันมาแล้วนะคะโดยสามารถเข้าไปติดตามได้ที่ คำศัพท์ออกสอบ...ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมายที่ควรรู้ ! [ด้านกฎหมายอาญา]สำหรับในวันนี้ผู้เขียนจะพาท่านผู้อ่านไปเรียนรู้และเก็บเกี่ยวคำศัพท์ภาษาอังกฤษในส่วนของ กฎหมายแพ่ง กันค่ะเนื่องจากข้อสอบตามสนามสอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามสอบผู้พิพากษา สนามสอบเข้ารับราชการ ก็มักจะต้องเจอคำศัพท์กฎหมายที่เกี่ยวกับกฎหมายแพ่งอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน เราจะต้องรู้ให้ครบทุกหมวดหมู่เลยนะคะ อย่างน้อยก็จะเป็นการเพิ่มคะแนนสอบให้กับเรามากยิ่งขึ้นได้ค่ะ !! แถมยังทำให้ได้เปรียบคู่แข่งอีกด้วย สำหรับวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับคดีแพ่งกันนะคะ มาเริ่มกันเลยค่ะ Let's go !! เตรียมกระดาษจดคำศัพท์กันนะคะ พร้อมแล้วไปลุยกันเลยดีกว่าค่ะ !!1. การใช้คำศัพท์ในส่วนของคดีแพ่ง ได้แก่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายแพ่ง และกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งก็จะใช้แตกต่างกันนะคะ ดังนี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ = Civil and Commercial Codeกฎหมายแพ่ง = Civil Lawกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง = Civil Procedure Law เห็นไหมคะว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กับกฎหมายแพ่ง จะใช้คำแตกต่างกัน ยังไงต้องระวังให้ดีนะคะแปลผิดชีวิตเปลี่ยนทันทีเลยค่ะ !!ตัวอย่างเช่น This law shall be called the Civil and Commercial Code แปลว่า กฎหมายนี้ให้เรียกว่า"ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์"2. ต่อมา คำว่า "ทนายความ" ซึ่งเราสามารถที่จะใช้ได้ทั้งสองคำนี้เลยค่ะ ก็คือ "Lawyer" หรือจะใช้คำว่า "Attorney" ก็ได้ เพราะได้ความหมายเดียวกันก็คือ ทนายความ นั่นเองค่ะ คำนี้ต้องจำให้ขึ้นใจ รับรองว่าเจอในข้อสอบอย่างแน่นอนค่ะ !!ตัวอย่างเช่น Attorney need both knowledge of law and courtroom skill to fulfill their duty as a representative for their clients.แปลว่า "ทนายความ" จะต้องมีทั้งความรู้กฎหมายและทักษะการว่าความในศาลเพื่อที่จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะผู้แทนของลูกความได้อย่างเต็มที่3. คำต่อไปนี้ มักจะเจอในข้อสอบที่เกี่ยวกับกฎหมายมรดก ได้แก่มรดก = Inheritance หรือจะใช้คำว่า legacy ผู้ไร้ความสามารถ = Incapacitated personผู้เสมือนไร้ความสามารถ = Person under disability หรือจะใช้คำว่า Quasi disability หรือจะใช้คำว่า Incompetent person เจ้ามรดกหรือผู้ที่ทำพินัยกรรม = Testatorผู้จัดการมรดก = Real representation หรือจะใช้คำว่า Administrator to estateผู้ปกครอง = Guardianผู้เยาว์ = Minor ผู้รับพินัยกรรม = Legatee หรือจะใช้คำว่า Deviseeทายาทโดยธรรม = Statutory heir หรือจะใช้คำว่า Heir at law หรือจะใช้คำว่า Legal heirผู้สืบสันดาน = Descendantตัวอย่างเช่น 1) A minor can do all acts which are strictly personal.แปลว่า "ผู้เยาว์" อาจทำการใด ๆ ได้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการต้องทำเองเฉพาะตัว2) An estate devolves on the heirs by statutory right or by will. Heirs who are so entitled by law are called "Statutory heir"Heirs who are entitles by will are called "Legatee" แปลว่า กองมรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยสิทธิตามกฎหมายหรือโดยพินัยกรรม ทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมาย เรียกว่า "ทายาทโดยธรรม" ทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรม เรียกว่า "ผู้รับพินัยกรรม" 4. คำว่า "สินส่วนตัว" กับ "สินสมรส" สองคำนี้จะใช้ต่างกันนะคะ ซึ่งจะเขียนได้ดังนี้สินส่วนตัว = Personal propertyสินสมรส = Marital property หรือจะใช้คำว่า Matrimonial property ตัวอย่างเช่น Properties of husband and wife except in so far as they are set aside as Personal property, are Marital property.แปลว่า ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา นอกจากที่ได้แยกไว้เป็นสินส่วนตัวย่อมเป็นสินสมรส5. คำว่า "คำฟ้อง" เราสามารถเขียนได้อยู่สองคำด้วยกัน ได้แก่ "Complaint" และ "Plaint" สองคำนี้ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ รับรองว่าเจอในข้อสอบกฎหมายอย่างแน่นอนเลยค่ะ !!ตัวอย่างเช่น a plaint shall set forth clearly the nature of the plaintiff’s claims and the relief applied for as well as the allegations on which such claims are based.แปลว่า "คำฟ้อง" ต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น6. คำศัพท์ที่เกี่ยวกับ "คดีครอบครัว" ได้แก่ศาลเยาวชนและครอบครัว = Juvenile and family courtการหย่า = Divorce หรือจะใช้คำว่า Divorcementตัวอย่างเช่น Divorce may be effected only by mutual consent or by judgment of the Court.แปลว่า "การหย่า" นั้น จะทำได้แต่โดยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายหรือโดยคำพิพากษาของศาล7. คำศัพท์ที่เกี่ยวกับเรื่องของ "กฎหมายค้ำประกัน" ได้แก่จำนำ = Pledge จำนอง = Mortgageเช่าซื้อ = Hire Purchaseผู้ค้ำประกัน = suretyตัวอย่างเช่น A pledge is a contract whereby a person, called the pledgor, delivers to another person, called the pledge, a movable property as a security for the performance of an obligation. แปลว่า อันว่า "จำนำ" นั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จำนำส่งมอบสังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจำนำ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ในส่วนของการสอบสนามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามสอบเนติบัณฑิต สนามสอบอัยการ สนามสอบผู้พิพากษา หรือสนามสอบราชการ ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนนั้น ผู้เขียนพบว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมายในการสอบสนามต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะมาในลักษณะของ1) ทักษะการอ่านจับใจความ หรือ Reading2) ทักษะการแปลภาษาจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย เป็นต้นซึ่งถ้าหากเราจำคำศัพท์ต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะช่วยลดระยะเวลาในการทำข้อสอบ เพราะในส่วนของ Reading หรือทักษะการแปลภาษา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการนำเอาคำศัพท์ทางกฎหมายจากประมวลกฎหมายมาใช้นั่นเองค่ะ เทคนิคที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ในการท่องจำคำศัพท์ให้เราจำเป็นกลุ่มของคำในแต่ละเรื่อง เช่น ถ้าเป็นในเรื่องของกฎหมายค้ำประกัน ก็ให้เราจำคำศัพท์ในส่วนของกฎหมายค้ำประกัน และให้อ่านกฎหมายค้ำประกันในภาคภาษาไทยควบคู่กันไปด้วย หรือกรณีเป็นเรื่องของกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เราก็จะต้องจำคำศัพท์ในประมวลกฎหมายวิธีความแพ่งและก็ให้อ่านกฎหมายในภาคภาษาไทยเช่นเดียวกัน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราสามารถทำข้อสอบภาษาอังกฤษในส่วนของวิชากฎหมายได้อย่างง่ายดายเลยล่ะค่ะ !!เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ? สำหรับคำศัพท์ออกสอบภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมายที่ควรรู้ ! [ด้านกฎหมายแพ่ง]ซึ่งในวันนี้ผู้เขียนก็ได้พานักกฎหมายทุกท่านไปเรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับคดีแพ่งกันแล้วนะคะแต่ถ้าหากใครอยากรู้คำศัพท์ในส่วนของกฎหมายคดีอาญา ก็สามารถไปติดตามอ่านต่อได้ที่คำศัพท์ออกสอบภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมายที่ควรรู้ ! [ด้านกฎหมายอาญา]อย่างไรก็ตาม อย่าลืมที่จะทบทวนคำศัพท์ทั้งกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญากันด้วยนะคะ เพราะเวลาที่เราเจอข้อสอบนั้นก็จะช่วยย่นระยะเวลาทำให้เราทำข้อสอบได้เร็วขึ้น เมื่อเห็น Choice ก็สามารถกาข้อสอบได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งคิดให้เสียเวลาอีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มคะแนนสอบของเราให้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ !!ขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก : Pixabay รูปหน้าปก / รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4