คุณก็มีประตูวิเศษ … “4 วิธีอ่านหนังสือให้ Productive ในชีวิตประจำวัน”หากคุณเคยผ่านวัยเด็ก และรู้จักตัวการ์ตูนญี่ปุ่น หนูไม่มีหูตัวกลมๆ ที่มาพร้อมกับกระเป๋าวิเศษ ข้างใน,uอุปกรณ์มากมายไว้คอยช่วยเหลือ โนบิตะ เขียนมาถึงตรงนี้หลายคนคงร้อง อ๋อ.. ขึ้นมาในใจยาวๆ พร้อมเอ่ยชื่อเจ้าตัวการ์ตูนตัวนั้น พร้อมกันว่า“โดเรมอน”หนึ่งในของวิเศษที่ดูเหมือนว่า จะมีออกมาในทุกตอนของการ์ตูน ก็คือ “ประตูวิเศษ” ภากจาก Pixabay พลังของเจ้าประตูวิเศษ จะทำให้เรา ไปยังสถานที่ที่เรานึกคิด หรืออยากจะไปถึงโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เพียงแค่เราเอาประตูตั้งไว้ตรงหน้า และเปิด ก็จะเจอสถานที่นั้นในทันใด ตามที่ใจปรารถนาหลายคนคงอยากมีประตูวิเศษเป็นของตัวเอง เพื่อจะพาตัวเองไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง หรือหลุดไปในโลกแห่งจินตนาการ ที่ ไม่มีใครตามเรามาได้ เมื่อพบเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก, การเดินทางที่แสนจะยาวนานในชีวิตประจำวัน หรือการรอคอยบางอย่างที่เราจำเป็นต้องรอ แต่คุณรู้หรือไม่...คนที่มีหนังสือติดตัวตลอดเวลา หรือ คนจำพวกหนอนหนังสือ ... มักมีประตูวิเศษ สำหรับตัวเองเสมออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัย และถามว่า แล้วโทรศัพท์มือถือละ .... เป็น ประตูวิเศษไม่ได้หรือ? อาจจะใช่ แต่ โทรศัพท์มือถืออาจจะชี้บ่งสถานที่ ที่เราต้องการไปได้ไม่ชัดเจนนัก เพราะโทรศัพท์มือถือ มีสิ่งเร้าหลายทิศทาง คุณอาจจะอ่าน บทความใด บทความหนึ่งไม่จบ เพราะมีสมาธิ และ ความอดทนกับมันไม่มากพอ หรือ ระหว่างอ่านก็มีไลน์จากเพื่อนคุณเข้ามา ทำให้การอ่านขาดตอนไป สตีเฟ่น คิง นักเขียนนิยาย สยองขวัญชื่อดัง เคยกล่าวไว้ว่า “ผมมักมีหนังสือติดตัวไปเสมอ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เพราะหนังสือมักเป็นประตูวิเศษ ที่พาไปในทุกๆที่ ที่เราต้องการ”ประตูวิเศษนั้น มีอยู่มากมายหลายบาน และพาเราแต่ละคน ไปในสถานที่ ที่ แตกต่างกัน นั่นก็เพราะ ผู้อ่านแต่ละคน มีวัตถุประสงค์ในการอ่านแตกต่างกัน บางคนมี หนังสือนวนิยายในมือ เพื่อผ่อนคลายหลังงานที่วุ่นวายในแต่ละวันจบลง บางคนยังคงอ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเอง หรือความรู้รอบตัวเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำงาน ภาพจาก Pixabayนอกจากนี้ หนังสือยังช่วยให้เด็กมีสมาธิ และสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ดี พ่อแม่หลายคนมักไม่เล่นโทรศัพท์ต่อหน้าลูก และเลือกอ่านหนังสือแทน เพราะเด็กมักจดจำ ทำพฤติกรรมเลียนแบบพ่อแม่ นี่เป็นการสร้างนิสัยให้เด็กไม่ติดมือถือ เพราะมือถือ หลายครั้งที่ทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องสมาธิสั้น และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น ภาพจาก Pixabayสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มอ่านหนังสือ หรือกำลังอยากเป็นหนอนหนังสือ และอยากอ่านหนังสือให้ได้ประโยชน์มากที่สุด วันนี้มีวิธีดีดี มาแนะนำกัน1.เลือกหนังสือที่เราชอบ “ง่วง” ปัญหาที่เราหลายคนมักพบเจอ แม้แต่คนชอบอ่านหนังสืออยู่เป็นประจำก็ตาม ทำให้หลายครั้งการเปิดหน้าหนังสือผ่านเพียง สอง ถึง สามหน้า กลายเป็นยานอนหลับ วิธีแก้ คือ เบื้องต้น หากคุณกำลังที่จะเริ่มอ่านหนังสือ คุณควรหยิบ หรือเลือกซื้อหนังสือทีคุณสนใจมาจริงๆ เช่น ถ้าคุณสนใจหนังสือ นิยาย คุณก็ควรเลือกหนังสือนิยายอ่าน เช่น สืบสวนสอบสวน หรือ สยองขวัญ เบื้องต้นคุณไม่ควรเลือกหนังสือ ตามกระแสนิยม เพราะ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากอ่านจริงๆ 2.ประตูวิเศษ เรามีหนังสือได้ในทุกที่หลังจากอ่านมา คุณอาจจะตั้งคำถามว่า “แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาอ่าน” เมื่อต้องเดินทางไปทำงาน ต้องไปธุระ กลับบ้านก็เหนื่อยแล้ว จากที่กล่าวไปข้างต้น หนังสือ ไปกับเราได้ทุกที่ เมื่อ2ปีที่แล้วผมทำงานในเมือง ต้องออกจากบ้าน ตั้งแต่ ตีห้าครึ่ง แต่รู้ไหมว่า… ผมอ่านหนังสือจบได้หลายเล่มนั่นเพราะว่า ผมพกมันเป็น “ประตูวิเศษ” เมื่อต้องเดินทางทั้งบน รถไฟฟ้า หรือแม้แต่ ถ้าคุณไปธุระ หรือต้องใช้เวลารอนาน หนังสือที่คุณพกติดตัวมา ก็เป็นเพื่อนได้ดีในเวลานั้น ตอนที่ผมทำงานในเมืองที่ต้องใช้เวลาเดินทางเยอะๆ ผมอ่านหนังสือจบไปหลายเล่มมากกว่าตอนทำงานใกล้บ้านเสียอีก 3.เปลี่ยนเล่ม...บ้างก็ได้อาจจะมีบางครั้งที่คุณอ่านหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง แล้วรู้สึกเบื่อ เพราะเนื้อหา การเขียน หรืออะไรก็แล้วแต่ จนอยากจะเลิกอ่าน แต่...สิ่งที่อยากจะบอก ก็คือ “คุณไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือเล่มนั่น เล่มเดียวทุกครั้ง” คุณอาจจะแบ่งเป็นช่วงเวลา เช่น อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองในตอนเดินทาง แต่อ่านหนังสือที่มีความผ่อนคลาย เช่น นิยาย ก่อนเข้านอน 4.ขีดเขียน เก็บเนื้อหาข้อมูลถ้าจุดประสงค์ในการอ่านของคุณ อาจจะมากกว่าการอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน อยากแนะนำว่า ให้มีปากกาไฮไลท์ ติดตัวไว้ตลอด เพราะ ในหนังสือหนึ่งเล่ม มักมีเนื้อหาสำคัญ ซ่อนไว้เสมอ อันนี้รวมถึง หนังสือประเภท นวนิยายด้วย ถ้าคุณเป็นนักเขียน นวนิยาย เชื่อว่าคุณก็ต้องเป็น นักอ่าน นวนิยายเช่นเดียวกัน ในนวนิยายแต่ละเล่ม หรือแต่ละคนที่แต่ง ก็จะมีประโยค หรือ วลีเด็ดๆ ดังนั้นการใช้ปากกาไฮไลท์ ไว้จึงเป็นการเก็บข้อมูลของการเขียนอย่างหนึ่ง 5.หาเวลาที่ดีที่สุดการหาเวลาที่ดีที่สุด ไม่ได้หมายถึง การอ่านจบให้เร็วที่สุด แต่หมายถึง หาช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณสามารถอยู่กับหนังสือได้ หลายคนชอบอ่านหนังสือตอนเช้า เพราะ สมองโล่ง และสามารถอ่านและนำไปใช้ได้มากที่สุด หลายคนก็ชอบอ่านหนังสือก่อนนอน เพื่อความผ่อนคลาย พยายามมุมโปรดในการอ่านของคุณ อาจจะเป็นที่โซฟาที่บ้าน หลังทานข้าวเสร็จ หรือ อาจจะนั่งพิงกับเตียงอ่านก่อนนอน ถึงแม้โลกปัจจุบัน เราจะมีเทคโนโลยีที่ รวมถึงบทความมากมาย ที่สามารถอ่านทุกสิ่งอย่าง เพียงแค่นิ้วคลิกบนมือถือ แต่ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะพรั่งพรูออกมา ผู้เขียนก็ต้องผ่านการอ่านวิเคราะห์ และคัดสรร เช่นกัน ดังนั้น การอ่านจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้ หวังว่า 5 วิธีอ่านหนังสือให้ Productive จะทำให้นักอ่าน หรือผู้ที่เริ่มอ่าน อ่านหนังสือได้สนุกขึ้นนะครับ เครคิดภาพแบนเนอร์จาก Pixabayหนังสือ On Writing ของ Stephen KingPOD CAST : The Standard