เราเกิดมาและใช้ชีวิตอย่างที่มันควรเป็น ไปกินข้าว เที่ยว ทำงาน มีความรัก แต่เมื่อวันหนึ่งเรากลับมาพบว่า ชีวิตของเราทั้งหมดคือรายการโชว์ที่ถูกสร้างขึ้นมา เรื่องบางเรื่องเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ความจริงแล้ว มีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แหละนี่คือ ภาพยนต์ที่มีชื่อว่า " the truman show ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์" www.m.media-amazon.comthe Truman show ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์ กำกับโดย Peter Weir ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้เข้าชิงออสการ์ได้ถึง 3 รางวัล ทั้ง สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดยอม และ บทภาพยนต์ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในหนัง Top Rated Movies ของ Imdb อีกด้วย www.bfi.org.uk-------------------------------------------------------------------------เนื้อเรื่อง-----------------------------------------------------------------------TRUMAN เป็นผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีชีวิตที่แสนเรียบง่ายมีภรรยาที่ดี มีเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษา มีงานทำ เหมือนชีวิตจะดีไปหมด แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดมีสปอร์ตไลท์ตกลงมาจากฟ้าก็เลยทำให้เกิดความสงสัยว่ามันตกจากฟ้าได้ยังไง เขาก็เก็บความสงสัยเรื่อยมาว่าชีวิตมันดูจะลงล็อกไปหมดตั้งแต่สมัยเรียนทำไมเขาต้องมาแต่งงานกับคนที่เป็นภรรยาคนปัจจุบันทั้งทีเขารักผู้หญิงอีกคน เขาไม่เคยออกจากเมืองนี้เลย จะต้องเกิดเหตุทุกครั้งไม่ว่าเป็นเกิดพายุ ไม่มีตั๋ว รถพังบ้างล่ะ คือมันมีเหตุการณ์แปลกๆตลกๆแบบภรรยาก็ชอบพูดคำแปลกๆเหมือนโฆษณาตลอดเวลา "ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีคุณดื่มโกโก้ยี่ห้อนี่สิ" หรือเพื่อนพระเอกทุกครั้งที่เจอมักจะติดเบียร์กระป๋องมาด้วยแล้วก็ถือโชว์ แล้วถามว่า อยากดื่มกับฉันไหม? ถ้าหากถามว่าแล้วพระเอกไม่เคยรู้สึกสงสัยเลยเหรอ? ความจริงแล้วมนุษย์ทุกคนต่างก็มีความสงสัยกันทั้งนั้นและพระเอกก็เป็นหนึ่งในนั้นพระเอกค่อนข้างเป็นคนขี้สงสัยและชอบความผจญภัยทำให้อยากออกเดินทางออกไปนอกเมือง แต่อย่างที่เคยเล่าว่าพอพระเอกจะออกจากเมืองทีไรก็จะถูกกีดกันทุกครั้งและในตอนที่พระเอกเป็นเด็กได้แล่นเรือออกทะเลไปพร้อมกับพ่อซึ่งแน่นอนว่าพ่อพระเอกตายในตอนนั้นเป็นการสร้างบาดแผลในใจให้กับพระเอกและในช่วงวัยรุ่นพระเอกเคยตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผู้หญิงคนนั้นเป็นตัวประกอบที่ไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นนางเอกตั้งแต่แรกทำให้ถูกกีดกันต่อไปและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่พระเอกพยายามหานางเอกเรื่อยมา ซึ่งการดำเนินเรื่องก็จะมีให้สนุกๆให้เราดู เหมือนค่อยๆเผยความลับออกมาเรื่อยๆว่าความจริงแล้วพระเอกเป็นเด็กกำพร้าและถูกนำมาเลี้องและถ่ายทอดชีวิตให้คนติดตามชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง พูดง่ายๆคือเมืองที่พระเอกอยู่่เป็นโรงุถ่ายนั่นเอง ทุกตัวละครในเมืองตั้งแต่พ่อแม่เพื่อนแฟนเจ้านายรวมไปถึงสัตว์เลี้ยงทุกๆสิ่งคือตัวประกอบทั้งสิ้น บทสรุปสุดท้ายอะไรเป็นเหตุให้พระเอกรู้ความจริงและกล้าที่จะเผชิญออกจากเมืองนี้ลองไปดูหนังเรื่องนี้ได้ https://images-na.ssl-images-amazon.com การให้คะแนนคะแนน: 4/5ในช่องท้ายๆที่พระเอกพยายามหาความจริงเรื่องค่อนข้างเอื่อยๆไปสักนิดบางทีขัดใจที่คนเขียนบทคือจะเก่งไปไหนคือบางครั้งมันโป๊ะแตกแต่ก็ยังแสดงกันต่อไปภาพค่อนข้างสวย แนวเรื่องค่อนข้างสดใสชอบบทมากเป็นพิเศษเพราะบทเหมือนเขียนขึ้นมาเพื่อเสียดสีสังคม หลังดูหนังแล้วมาคุยกัน www.newagora.ca หลังจากที่เราได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ เราอาจจะได้รับความสนุก หรือ มักจะขำไปความตลกร้ายที่เรื่องนี้พยายามจะแสดงออกมาให้เราได้เห็นกัน แต่ถ้าเราลองมองอีกมุมหนึ่ง เราได้อะไรจากหนังเรื่องนี้บ้างภาพที่ถูกถ่ายทอดออกมา- ถ้าหากเราเริ่มดูหนังตั้งแต่ต้น หนังจะพยายามถ่ายทอดมุมมองที่ไม่เหมือนภาพยนต์อื่นๆ เพราะจงใจที่จะให้คนดูได้สัมผัสและรับรู้ได้แต่แรกเลยว่านี่ไม่ใช่การถ่ายภาพยนต์แต่เป็นมุมมองแบบรายการทีวี หรือ มุมมองแบบแอบถ่าย เพื่อเป็นการให้คนดูเป็นเหมือนกับผู้ชมรายการวาไรตี้ก็ว่าได้ทำไม?เราถึงรู้สึกไปกับสิ่งที่ TRUMAN ได้เจอ- ไม่ว่าจะเป็นคนดูในภาพยนต์เอง หรือ คนดูนอกจออย่างเรา ต่างก็รู้สึกและอินกับสิ่งต่างๆที่ถูกถ่ายทอดออกมา อาจเป็นเพราะ ในหนังพยายามสื่อในสิ่งดีๆ ทั้งบริบทสังคม บริบทของผู้คนในเมือง ต่างเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบที่ใครหลายคนต่างตามหา ไม่ว่าจะเป็น การมีครอบครัวที่ดี ทำงานที่รัก แต่งงาน ในบางครั้งที่มักจะเกิดปัญหาจุดจบของมันมักสวยหรูเสมอ ซึ่งเราไม่สามารถหาได้จากโลกความจริง พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นสิ่งที่เราฝันถึง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ใครหลายคนอินกับเรื่องนี้นั่นเองความจริงของสังคม- อะไรคือความจริงของสังคม แม้ว่าหนังจะออกฉายตั้งแต่ปี 1998 แต่เหมือนโลกและสังคมจะไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก คนดูยังคงสนุกและหาความสุขจากการดูชีวิตของคนอื่น อย่ามาบอกว่าไม่จริงไม่เชื่อ คุณลองเปิดทีวีและดูรายการโทรทัศน์ในทุกวันนี้สิ รายการส่วนใหญ่มักเป็นรายการการเล่าชีวิตของคนที่มาร่วมรายการ และถ้ายิ่งคุณเปิดเผยชีวิตของคุุณมากเท่าไหร่ เรตติ้งก็ยิ่งดีขึ้นไปด้วย แต่อะไรที่ทำให้เราได้เห็นมุมนี้ หนังเรื่องนี้เมื่อดำเนินเรื่องมาถึงตอนจบ TRUMAN ได้ค้นพบความจริงรายการก็ต้องถูกจบลง คนดูที่เคยอินถึงขนาดร้องไห้ ก็พูดออกมาได้อย่างง่ายๆเลยว่า เปลี่ยนช่องสิ , ต่อจากนี้จะดูอะไร มันแสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจจริงๆด้วยซ้ำเขาแค่รู้สึกอินกับบทบาทที่แสดงและสิ่งที่เขาอยากจะเห็นเท่านั้นเป็นหนังตลกจริงหรือ?-แม้หนังจะพยายามเลือกนักแสดงที่เป็นตลกหรือบทต่างๆของหนังจะพยายามให้เราเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังตลกนะ แต่ถ้าเราลองมาคิดว่า ถ้าเป็นตัวเราเอง เรายังจะตลกกับมันอยู่ไหม? ทุกความห่วงใย ความรัก ที่เราเคยเชื่อว่าเคยเกิดขึ้นจริงเป็นเพียงบทที่ถูกเขียนขึ้นมา คุณไม่มีโอกาสในการเลือกชีวิตของตัวเอง ทุกการดำเนินชีวิตของคุณถูกสร้างขึ้นเพื่อความตลกของคนดู มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอีกเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ และสุดท้าย เราชอบหนังที่พยายามสื่อออกมาให้ตั้งคำถามกับสังคมว่า พระเจ้าเป็นคนกำหนดชีวิตจริงๆหรือ? เราสามารถกำหนดชีวิตของเราได้ สามารถชมตัวอย่างหนังได้ที่ > https://youtu.be/loTIzXAS7v4 ขอบคุณภาพหน้าปกจาก : https://hr.tcdc.or.th/media/article_image/3556/the_truman_show_01_copy.jpg