ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก คืนวันพุธที่ผ่านมา หงส์แดงเปิดสนามแอนฟิลด์รับการมาเยือนของตราหมี แอตแลนติโก มาดริด ก่อนจะเอาชนะไป 2-0 และนี่คือบทสรุปหลังเกมที่ลิเวอร์พูลเอาชนะแอตฯ มาดริดไปได้ และบทความนี้คือความคิดเห็นในฐานะแฟนบอลคนหนึ่งไม่ใช่มุมมองของนักวิเคราะห์แต่อย่างใด 1. เกมนี้มีความทรงจำที่เจ็บปวดของแฟนหงส์แดงอยู่นั่นคือเกมล่าสุดที่ แอตฯ มาดริด มาชนะลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ได้นั่นคือเกมที่ลิเวอร์พูลแพ้ไป 3-2 ซี่งโดนยิงในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดนแอตฯมาดริด เขี่ยตกรอบไปอย่างเจ็บปวด หรือถ้าพูดว่า เกมที่โมราต้าสวัสดี หลายๆคนก็คงจะนึกออก 2. นาทีที่ 13 และ 20 ดิโอโก้ โจต้า และ ซาดิโอ มาเน่ ก็มาทำประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 2-0 ซึ่งทั้งสองลูกถูกแอสซิสต์โดยบุรุษที่มีชื่อว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ หลังจากนั้นแอตฯมาดริดก็บุกอย่างบ้าคลั่งเพื่อหวังประตูคืน เทรนต์ก็ยังสุดยอดเหมือนเดิมเรื่องเปิดบอล วันนี้ก็จัดไปอีก 2 แอสซิสต์ 3.นาทีที่ 34 เมื่อแอตฯมาดริดโหมบุกใส่ลิเวอร์พูลซึ่งนี่ก็เข้าทางหงส์เลยเพราะเกมที่ลิเวอร์พูลถนัดคือเกมสวนกลับนี่แหละ เมื่อเกมสวนกลับของลิเวอร์พูลน่ากลัวแอตฯมาดริดจึงต้องตัดเกมเพื่อหยุดแนวรุกของลิเวอร์พูล เพราะพวกเขารู้ว่าถ้าโดนอีกลูกโอกาสกลับมาชนะก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่การหยุดเกมครั้งราคาที่ต้องจ่ายคือใบแดงของฟิลิปเป้ จังหวะนี้ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะถึงไปแดง แต่เพราะฟิลิปเป้ไม่มารับฟังคำเตือนของกรรมการ กรรมการจึงตีดสินให้เป็นใบแดงไปเลย 4.ถ้าย้อนกลับไปในเกมที่ลิเวอร์พูลเจอไบรตัน กองกลางลิเวอร์พูลถูกวิจารณ์อย่างหนักในเกมนั้นเรื่องการครองเกม แต่ในเกมนี้กองกลางลิเวอร์พูลครองเกมได้อยู่หมัดไร้ที่ติ เวลาเสียบอลก็ช่วยกันดี จนคู่แข่งมีโอกาสง้างเท้ายิงตรงกรอบได้ 0 ครั้งถ้วน นั่นแสดงให้เห็นว่าคล๊อปปรับปรุงทีมให้ดีขึ้นไม่ให้พลาดได้ง่ายๆอีก 5.ในนาทีที่ 57 ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นกับแฟนบอลลิเวอร์พูล เมื่อ คิงหลุยส์ หลุยส์ ซัวเรซ มาซัดประตูใส่ลิเวอร์พูล ในฐานะแฟนบอลลิเวอร์พูลคนนึงเมื่อได้เห็นก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา เพราะนี่คือนักเตะที่แฟนบอลลิเวอร์พูลรักก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายออกไป ด้านซัวเรซก็คงรู้สึกผิดเช่นกัน แต่แล้วเมื่อเจ้า VAR ทำงานก็ตัดสินว่าลูกนี้เป็นลูกล้ำหน้า จบเหตุการณ์นี้ไปแบบไม่มีใครรู้สึกอัดอัดต่อกัน 6. ช่วงท้ายเกมมีเรื่องเซอร์ไพร์สแฟนลิเวอร์พูลอีก เมื่อฟีร์มิโน่ (ที่เปลี่ยนลงมาแทนมาเน่ตั้งแต่ครึ่งหลังเริ่ม) บาดเจ็บเล่นต่อไปไหวและต้องเดินออกจากสนามไป เชมเบอร์เลนเองก็บาดเจ็บจนต้องไปคุยกับเจเคและเปลี่ยนตัวออกไปในท้ายที่สุดเช่นกัน และคนที่ลงมาแทนคือ มินามิโนะ และ โอริกี้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ตัวเจ็บของลิเวอร์พูลมีมากซะเหลือเกิน เจเคจะทำยังไงต่อจากนี้ที่จะบริหารนักเตะให้ไปจนจบฤดูกาล 7. นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2021-22 มา ลิเวอร์พูลยังไร้พ่ายทั้งในเกมลีกและแชมป์เปี้ยน ลีก ฟอร์มร้อนแรงแบบสุดๆ แถมตอนนี้ยังการันตีตั๋วเข้ารอบต่อไปได้แล้วด้วย ใครว่ากลุ่มนี้เป็น กรุ๊ป ออฟ เดธ หึ!! ก็ไม่เท่าไหร่ (555) สุดท้ายนี้ ลิเวอร์พูลในถ้วยหูใหญ่นี้จะไปจบที่รอบไหน ก็คงเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่มีใครรู้ แต่สำหรับเกมนี้ลิเวอร์พูลทำได้สุดยอด เอาชนะแอตฯมาดริด ชำระแค้นที่ฝากเอาไว้ได้สำเร็จ โดยการชนะไปกลับได้ทั้ง 2 นัด และการันตีแชมป์กลุ่มได้แล้ว และคาดว่าอีก 2 เกมที่เหลือในรายการนี้คงเป็นโอกาสของดาวรุ่งและตัวสำรองที่จะได้โชว์ฟอร์ม เพื่อที่จะชนะใจคล็อปป์ให้ได้ เครดิตภาพ ขอขอบคุณ ภาพหน้าปก จาก Facebook : Liverpool FC ขอขอบคุณ ภาพที่ 1 จาก Facebook : Atlético de Madrid ขอขอบคุณ ภาพที่ 2 จาก Facebook : Liverpool FC ขอขอบคุณ ภาพที่ 3 จาก Facebook : beIN SPORTS Thailand ขอขอบคุณ ภาพที่ 4 จาก Facebook : Liverpool FC ขอขอบคุณ ภาพที่ 5 จาก Facebook : Liverpool FC ขอขอบคุณ ภาพที่ 6 จาก Facebook : Liverpool FC-Liverpool Echo ⚽️ แชร์ประสบการณ์ก่อนและหลังรับชมแมตช์สุดมันส์ใน TrueID Community ได้เล้ย😆✨ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !