จับสลากออกมาเด็กหงส์ท่านไหนก็คงมีแต่จะลูบปาก ดูทรงแล้วถ้วยแชมป์ยุโรปใบเล็กอย่างยูโรป้าลีกปีนี้คงไม่แคล้วเสร็จหงส์เป็นแน่ ผนวกรวมเข้ากับแรงบันดาลใจในการส่งท้ายเจอร์เก้น คล็อปป์ ให้จบเส้นทางอาชีพผจก.ทีมฟุตบอล(ระดับสโมสร)อย่างสวยๆ มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราเหล่าสาวกหงส์แดงจะได้เห็นผลสกอร์แบบนี้ในบ้าน แพ้คาแอนฟิลด์ 0 - 3 บอกตามตรงครับผมก็เพิ่งเคยเห็นกับตาเป็นครั้งแรก! แพ้น่ะมีแน่มันก็เรื่องธรรมดาแต่ถึงขั้นระเบิดถังขี้แบบนี้ บอกเลยว่าก็รับได้ยากอยู่ครับ แมทซ์นี้ผู้เล่นผิดพลาดกันตรงไหน? อะไรที่เปลี่ยนให้ผลการแข่งสุดสำคัญกลายเป็นโศกนาฏกรรม? มาครับ! ผมจะคุยหลังเกมให้ฟัง! 1. เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดผู้เล่นตัวสำรองลงจากสิ่งนี้เห็นได้ชัดว่าลิเวอร์พูลน่าจะเน้นผลการแข่งมากกว่าเน้นเอ็นเตอร์เทนแฟนบอล เพราะผู้เล่นสำรองแม้จะเข้าใจระบบการเล่นแต่ความอันตรายหรือความดุดันก็ต่างจากกลุ่มผู้เล่นตัวจริงมาก บอลลีกดูจะเป็นสิ่งที่เจอร์เก้น คล็อปป์ทุ่มเทมากกว่า ส่วนบอลยุโรปถ้วยเล็กอย่างยูโรป้า ดูเหมือนแกจะแค่ต้องการประตูสัก 1 - 2 ลูก แล้วก็ประคองตัวเอาผลการแข่งไปแบบกระท่อนกระแท่น ซึ่งนักเตะก็ทำได้ดี ฮาวีย์ เอลเลียต ปั่นบอลไปชนเสาชนคานแล้วเด้งออก! ดาร์วิน นูนเญช ก็มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงแต่ก็เตะออกอย่างหน้าตาเฉย! ผมว่าถ้าฉวยโอกาสในวันที่เล่นไม่ดีจากลูกพวกนี้ได้สักลูก ทีมคงไม่แพ้เละเทะแบบนี้ 2. ลิเวอร์พูลมีปัญหาการจบสกอร์มาหลายนัดแล้วจากสิ่งที่เป็นอยู่นี้น่าจะเรียกว่าช่วง "ดวงตก" ก็เห็นจะได้ เพราะระยะหลังลิเวอร์พูลค่อนข้างจะมีปัญหาในการบวกสกอร์เพิ่ม กล่าวคือรูปแบบการเข้าทำของพวกเขายังคงดีเยื่ยม ยังคงมีระบบสอดประสานสวยงาม ทุกคนรู้ว่าใครจะต้องวิ่งไปตรงไหนและทำยังไงถึงจะได้ประตู หากแต่ช่วง 2 - 3 นัดที่ผ่านมาหลังจากที่ยิงลูกแรกได้แล้ว ประตูที่ 2 , 3 , 4 เพื่อปิดเกมมันกลับหายไปดื้อๆ! ก่อนจะกลายเป็นการเปิดโอกาสให้คู่แข่งได้ยิงประตูตีเสมอ แล้วก็แบ่งแต้มให้เขาไปอย่างน่าเจ็บใจ นั่นล่ะครับกับแมทซ์นี้ก็เช่นกัน แต่หนักหน่อยตรงที่ลิเวอร์พูลยิงลูกแรกเปิดหัวไม่ได้ด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำพอเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่เป็นตัวหลักอย่าง โม ซาล่าห์ , หลุยส์ ดิแอส ลงมา ก็ยังผลิตสกอร์ไม่ได้อีก ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่เคยยิงประตูได้เฉียบคมที่สุดและบาดเจ็บหายหน้าหายตาไปนานอย่าง ดิอาโก้ โชวต้า ก็ยังโหม่งบอลจ่อๆ สะบัดหลุดกรอบไปแบบไม่ได้ลุ้น แบบนี้มันยิ่งกว่าใช้โอกาสเปลืองอีกนะครับ ผมว่าราหูคงเข้าพระเสาร์คงแทรกดวงตกอย่างรุนแรง แล้วก็ดันมาเกิดในช่วงสำคัญตอนท้ายฤดูกาลซะได้ 3. อตาลันต้าทำได้ตามแท็คติกผมคิดว่าฝั่งทีมเยือนน่าจะวางหมากมาว่าให้เล่นอย่างเฉียบคมที่สุด พวกเขาน่าจะรู้ว่าลิเวอร์พูลต้องบุกใส่แน่จึงรอโอกาสตอนที่แนวรับของลิเวอร์พูลลอยสูงขึ้นมา พอมีช่องเกิดขึ้นปุ๊บ! พื้นที่ว่างตรงนั้นก็จะถูกเจาะเข้าไปเล่นงานทันที! เป็นเหตุให้เกิดประตูที่ 1 และประตูที่ 2 แล้วพอเสียประตู ด้วยความเป็นเจ้าบ้านหงส์แดงก็เลยต้องบุกเพื่อเอาคืน ต้องมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นตัวหลักลงมา พอโหมบุกหลังก็ยิ่งลอย รูหรือช่องว่างก็ยิ่งมากกว่าเก่า กลายเป็นทุกสิ่งเข้าทางแท็คติกที่อตาลันต้าวางมาทั้งหมด ศพก็เลยออกมาไม่สวย เละเทะส้วมระเบิดคาแอนฟิลด์ไปโดยปริยาย ยังไม่นับรวมจังหวะปิดพื้นที่ประกบตัวผู้เล่นของฝั่งอตาลันตาหลังขึ้นนำไปแล้ว เพราะยิ่งได้ประตูนำพวกเขายิ่งแพ็คกันแน่น ฝั่งเจ้าบ้านอย่างลิเวอร์พูลแทบจะหาโอกาสยิงจะแจ้งไม่ได้เลย แถมโซบอสไลน์ก็ดันมาเล่นพลาดเสียบอลตรงกลางอีก กลายเป็นประตู 0 - 3 อันเกิดจากความผิดพลาด ที่ฝั่งเจ้าบ้านถวายพานมาให้ หนักจริงครับ! ผมไม่เคยเห็นลิเวอร์พูลบอบช้ำขนาดนี้ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเองเลย 4. "Not Liverpool to night" คืนนี้ไม่ใช่วันของลิเวอร์พูลนี่คือประโยคที่ผมได้ยินจากผู้บรรยายภาษาอังกฤษ แล้วผมก็ค่อนข้างเห็นด้วยว่า "คืนนี้ไม่ใช่คืนของลิเวอร์พูลจริงๆ" เพราะไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่พยายาม พวกเขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะเอาประตูแล้ว แต่มันไม่เข้าจะให้ทำยังไง?! ชนเสา , ชนคาน , เข้าไปแล้วโดนจับล้ำหน้า , ลูกยิงอย่างแรงก็ติดเซฟ , ลูกที่ควรจะเข้าเหน่งๆก็ดันลอยหลุดกรอบไปไหนไม่รู้ คือในแง่องค์ประกอบอื่นๆของฟุตบอลลิเวอร์พูลทำได้ครบทุกอย่าง ขาดแค่ส่งบอลซุกก้นตาข่าย และคู่แข่งก็มาพร้อมกับความเฉียบคมเหลือเกิน แมทซ์นี้ก็เลยไม่มีอะไรจะให้ตำหนิ ทุกคนสู้สุดใจแล้ว เอ้อ! ถ้าเล่นแบบไม่วิ่งเลย เล่นแบบปล่อยจอย ปล่อยให้เขาครองบอลแล้วก็ลากเข้ามายิงครั้งแล้วครั้งเล่า ไอ้แบบนั้นผมจะบ่นแบบข้ามวันข้ามคืนเลยครับ แต่สำหรับแมทซ์นี้ก็ได้แต่ทำใจล่ะครับว่ามัน "Not Liverpool to night" จริงๆ แมทซ์หน้าค่อยว่ากันใหม่ สรุปสุดท้าย ผลการแข่งที่ขาดถึง 3 - 0 ในนัดแรก มากพอรึยังที่จะทำให้ลิเวอร์พูลทิ้งถ้วยใบนี้แล้วหันไปโฟกัสกับบอลลีกแบบเต็มรูปแบบ สำหรับผมๆว่ามันห่างเกินไปครับ นัดสองที่อิตาลีถ้าเป็นผมๆจะให้โอกาสผู้เล่นดาวรุ่งลงแทนดีกว่า แล้วเก็บตัวหลักไว้เล่นบอลลีกแทน 7 นัดสุดท้ายในลีกไม่คุ้มค่ากับการบาดเจ็บแน่นอน จริงอยู่ว่าอาจจะส่งท้ายคล็อปป์ได้ไม่สวย แต่ถ้าได้แชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย ยังไงก็ดีกว่าได้แค่แชมป์คาราบาวคัพเล็กๆแค่ใบเดียวนะครับคุณผู้อ่าน เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก 1 จาก FB : Liverpool Fcภาพหน้าปก 2 จาก FB : Liverpool Fc รูปที่ 1 จาก FB : Liverpool Fc รูปที่ 2 จาก FB : Liverpool Fc รูปที่ 3 จาก FB : Liverpool Fc รูปที่ 4 จาก FB : Liverpool Fc เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !