ฟุตบอลบิ๊กแม็ทซ์นัดกลางสัปดาห์ที่เตะกันดึกดื่นตั้งแต่ตี 2 ระหว่างไอ้ปืนโตอาร์เซน่อลกับอริร่วมมหานครอย่างสิงห์บูลเชลซี ว่ากันด้วยชื่อชั้นแล้วต่อให้ไม่ใช่แฟนบอลตัวยงของทั้งสองทีมก็ยังถือว่าน่าดู แม็ทซ์นี้น่าจะเป็นอีกหนึงเกมไฮไลท์ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับบอลพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ได้เลย มิหนำซ้ำด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่อาเซน่อลกำลังลุ้นแชมป์เต็มตัว พวกเขาจะแพ้เกมนี้ไม่ได้เด็ดขาด แมนซิตี้ที่แข่งน้อยกว่ากำลังทำแต้มจี้ตูดตามมา จึงประเมินได้ว่าเราน่าจะได้ดูเกมที่สนุกตื่นเต้น คู่คี่สูสีเบียดแบบไหล่ต่อไหล่ไม่มีใครยอมใคร เสียงเชียร์ในสนามคงจะกระหึ่มและคงเป็นอีกหนึ่งแมทซ์ห้าดาวที่จะบันทึกไว้ในความทรงจำ แต่ทว่าก็อย่างที่เรารู้กันครับ! ว่าสิงห์บูลเชลซีกลับเพลี่ยงพล้ำอย่างเละเทะ สกอร์ 5 ประตูต่อ 0 เป็นอะไรที่ขาดลอยชนิดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แม็ทซ์นี้อาร์เซน่อลเล่นดีขนาดไหน เชลซีไปตายน้ำตื้นได้ยังไง มาครับ! เรามาคุยย้อนหลังเกมนี้กัน! 1. อาร์เซน่อลดุเมื่อเล่นในบ้านเสมอที่จริงความรู้สึกนี้น่าจะเกิดขึ้นเมื่อสัก 2 - 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว เอมิเรตส์สเตเดียมกลายเป็นนรกทีมเยือนไปอย่างชัดเจน บรรยากาศเสียงเชียร์สุดจะเร่งเร้า ซึ่งนั่นก็เป็นผลมาจากการเล่นเพลสซิ่งวิ่งใส่ไม่ยั้งของพวกนักเตะ ทุกครั้งที่บอลออกเราจะได้เห็นผู้เล่นอาร์เซน่อลปลุกเร้าแฟนบอลตลอด และกับแม็ทซ์นี้ที่ผู้มาเยือนเป็นอริร่วมเมืองอย่างเชลซี บรรยากาศเสียงโห่ฮาต่างๆจึงเป็นอะไรที่ข่มขวัญผู้มาเยือนเป็นเท่าทวี เชลซีตกอยู่ในอาการเล่นไม่ออกงัวหัวไม่ขึ้น ตั้งแต่นกหวีดปรี๊ดแรกยันปรี๊ดสุดท้าย ผมเห็นมีแต่อาร์เซน่อลที่ขย่มโครมๆอยู่ข้างเดียว ความสูสีไม่มี เหมือนบอลคนละชั้นกันเลย 2. ทัศนคติยิงเยอะยิงตุนไว้ทำให้อาร์เซน่อลน่ากลัวคุณผู้อ่านครับถ้าเป็นกีฬามวยไทยเมื่อถึงยก 5 จะมีการแตะนวมเกิดขึ้น ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะเป็นอันรู้กันว่าผลการแข่งได้จบลงแล้วและใครเป็นผู้ชนะ ไม่จำเป็นต้องมาสาดอาวุธใส่กันให้เจ็บตัวอีกต่อไป รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีแล้วกลับไปซ้อมมาแข่งใหม่ดีกว่า ซึ่งหลายครั้งในการแข่งขันฟุตบอลเราก็เห็นสิ่งนี้เหมือนกัน นั่นก็คือการเล่นบอลแบบ "ติ๊ดชึ่ง" เล่นแบบรักษาสกอร์เมื่อนำขาด เล่นแบบถนอมตัวไม่ให้ตัวเองบาดเจ็บ และบางครั้งก็เป็นการรักษาน้ำใจคู่แข่งไม่ให้มอบช้ำทางจิตใจมากเกินไป แต่ไม่ใช่สำหรับอาร์เซน่อลชุดนี้ครับ! ด้วยความที่พวกเขากำลังไล่ล่าแชมป์ จำนวนประตูได้เสียจึงมีผล ยิ่งยิงเยอะยิ่งเพิ่มโอกาส เราจึงได้เห็นนักเตะอาร์เซน่อลวิ่งเป็นม้าอยู่ตลอดเวลา เชลซีคอตกไม่เหลือจิตใจจะแข่งแล้ว เกมมันขาดไปตั้งแต่ 3 - 0 แล้ว แต่ทัพสีหนาทปืนไฟก็ไม่ได้เพลาแสงยานุภาพลงเลย ปูพรมยิงแล้วยิ่งอีกยิงไปเรื่อยๆอย่างเลือดเย็น มิหนำซ้ำบอลเจ้ากรรมก็ดันเป็นใจดีเหลือเกิน กลายเป็นยิงยังไงก็เข้า 5 - 0 ทั้งช้ำทั้งอับอาย! เผินๆความเจ็บปวดในจิตใจอาจจะทำให้สปิริตในทีมเชลซีพังไปเลยก็ได้ นี่จึงเป็นทัศนคติการเล่นฟุตบอลที่แสนจะน่ากลัวครับ 3. นักเตะอาร์เซน่อลมีความกระหายแชมป์ + ตัวผู้เล่นฟูลทีมการพลาดท่ามอบแชมป์ลีกให้กับแมนซิตี้เมื่อฤดูกาลก่อน น่าจะทำให้ลูกทีมของอาร์เตต้าเดือดดานดั่งไฟสุมทรวง พวกเขาคงอยากจะเอาคืนเต็มประดา และปีนี้ก็มีการเสริมทีมเข้ามาหลายคนทำให้ขุมกำลังของไอ้ปืนโตค่อนข้างจะไร้ช่องโหว่ มาตรฐานการเล่นของพวกเขาสูงขึ้นทุกปี และปัจจุบันจำนวนลูกที่ยิงได้ก็อยู่อันดับ 1 จำนวนลูกที่เสียก็น้อยที่สุดในลีก เรียกได้ว่าทั้งรุกและรับ No.1 หมดทุกด้าน คำถามคือแล้วเชลซีจะเอาอะไรมาสู้? ความกระหายในการเล่น การวิ่งสู้ฟัดแบบกัดไม่ปล่อยชนิดไม่มีเวลาให้แดนกลางเชลซีเล่นกับบอลได้ด้วยซ้ำ และที่สำคัญครับคุณผู้อ่าน! ด้วยรูปแบบการเล่นสุดโหดนี้ ตัวผู้เล่นของอาร์เซน่อลกลับไม่มีคนเจ็บเลย ณ ปัจจุบัน พวกเขาอยู่ในช่วงฟูลทีม ทำให้อาร์เตต้าจัดทีมขย่มคู่แข่งได้อย่างเมามันส์ "กำไร" ของคนดูแต่เป็น "กรรม" ของเชลซีไปครับงานนี้ 4. เชลซีถอดใจเร็วเกินไปผมคิดว่าถ้าการหลุดเข้าไปยิงของแจ็คสันเป็นประตู เราอาจจะได้เห็นเกมที่พลิกกลับขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็นั่นล่ะครับ! เมื่อกองหน้าไม่ทำงานเพื่อนที่เป็นคนปั้นมันก็ท้อ แล้วยิ่งไม่มีเดอะแบกคนสำคัญอย่างโคล พาร์เมอร์ด้วยแล้ว พอเจอการยิงเป็นเข้าไหลเป็นน้ำของอาร์เซน่อลเข้าไป เชลซีก็เลยเป๋แบบกู่ไม่กลับเลย กุนซืออย่างปอร์เชตติโน่ก็ไม่สามารถกระตุ้นลูกทีมได้ สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง ไม่ใช่จะใช้เงินซื้อนักเตะแพงๆใส่ทีมแล้วทีมจะเก่งขึ้นมาเลย ฟุตบอลยังมีองค์ประกอบหลายอย่าง และอาร์เซน่อลก็กำลังค่อยๆทำให้พวกเราได้เห็น อย่าลืมนะครับว่าทีมๆนี้เคยมีม็อบประท้วงไล่เจ้าของทีมมาแล้ว มาถึงตอนนี้พวกเขากลับขยี้เชลซีได้อย่างสบายเท้า อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าทั้งแมนซิตี้และลิเวอร์พูลซะอีก ดูดีมีอนาคตมากๆเลยครับสรุปสุดท้าย นับจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ผมกำลังพิมพ์บทความนี้อยู่ ลิเวอร์พูลคู่แข่งลุ้นแชมป์อีกหนึ่งทีมได้หลุดวงโคจรไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่เมนซิตี้เพียงทีมเดียวที่มีภาษีพอจะแย่งแชมป์กับอาร์เซน่อล ซึ่งนี่จะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ทั่งสองทีมกลายเป็นม้าสองตัวสุดท้ายที่จะแย่งกันเข้าป้าย ผมคิดว่าอาร์เซน่อลคงไม่ทำตัวเองให้พลาดอีก ลองเหลือบตาดูตารางคะแนนตอนนี้สิครับ ยิงก็เยอะมากสุด เสียก็เสียน้อยสุด ตัวเลขทุกอย่างอยู่เหนือแมนซิตี้หมดเลย ขาดแค่ตัวเลขแต้มคะแนนในคอลัมป์สุดท้าย แค่ช่องเดียว เหนื่อยอีกแค่นิดเดียวผมว่าอาร์เซน่อลทำได้ครับ! เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก 1 จาก FB : Arsenalภาพหน้าปก 2 จาก FB : Arsenalรูปที่ 1 จาก FB : Arsenalรูปที่ 2 จาก FB : Arsenalรูปที่ 3 จาก FB : Arsenalรูปที่ 4 จาก FB : Arsenal