ทริปนี้ เราเดินทางสู่ 3 จังหวัด ที่เรียกกันว่า "กลุ่มจังหวัดสนุก" ซึ่งประกอบด้วยจังหวัด นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร สำหรับ EPแรก ขอเปิดด้วยจังหวัดนครพนม โดยเราเลือกนั่งเครื่องบินจากดอนเมือง ลงที่สนามบินนครพนม พอมาถึงปุ๊บจัดแจงเรื่องรถเช่าที่ติดต่อไว้ก่อนหน้าแล้ว และมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองนครพนมกันเลย จุดมุ่งหมายที่ 1 : เป๋นปลาเป็น ใครๆก็ว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดังนั้นมาถึงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง ขอกินก่อนเลยแล้วกัน "ร้านเป๋นปลาเป็น" เป็นอีกหนึ่งร้านดังของที่นี่ โดยมีเมนูเด็ดคือ "ปลาจุ่ม" ขอบอกเลยว่าที่ร้านใช้ปลาคังสดๆ น้ำซุปกลมกล่อม และบรรยากาศสบายๆริมแม่น้ำโขง เป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆ (ปล.คนท้องถิ่นบอกว่า ถ้ามานครพนมแล้วไม่ได้กินปลาแม่น้ำโขงจุ่ม ถือว่ามาไม่ถึง!!) จุดมุ่งหมายที่ 2 : หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม หลังจากท้องอิ่ม ก็พร้อมลุย เราขับรถมุ่งหน้าสู่ "หมู่บ้านมิตรภาพไทย - เวียดนาม" แทบไม่อยากจะเชื่อว่า อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเวียดนาม เคยลี้ภัยสงครามมาพำนักอยู่กับเพื่อนชาวเวียดนามที่มีครอบครัวเป็นคนไทย ที่บ้านนาจอก จังหวัดนครพนม ในช่วงปี 2467-2474 โดยในปัจจุบันบ้านลุงโฮ ยังถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดีโดยลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งในบริเวณหมู่บ้านมิตรไทย-เวียดนาม ยังมีการสร้าง "อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์" เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประธานโฮจิมินห์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ อีกด้วย จุดมุ่งหมายที่ 3 : เส้นทางจักรยานริมฝั่งโขง เมื่อถึงเวลาแดดร่ม ลมตก เราเลือกเช่าจักรยานจากในตัวเมืองนครพนม ในราคา 60 บาท เพื่อที่จะปั่นเล่นในตัวเมือง และเส้นทางจักรยานริมฝั่งโขง ที่นครพนมมีเส้นทางจักรยานที่สวยงามมากๆแห่งหนึ่ง โดยเริ่มต้นจากบริเวณหน้าลานพญาศรีสัตตนาคราช ลัดเลาะลิมโขง ชมวิวทิวเขาที่สวยงามของฝั่งประเทศลาว ผ่านจวนผู้ว่าราชการหลังเก่า, โบสถ์นักบุญอันนา หนองแสง, บ้านกูบา, และหากใครกระหายน้ำ หรือต้องการคาเฟอีน ก็สามารถแวะพักที่ร้านกาแฟชิคๆ อย่างร้าน "76a" ปั่นต่อไปอีกนิดจะพบกับ "อุโมงค์นาคราช" อีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด สำหรับคนที่ไม่รีบร้อนและยังมีแรงเหลือ แนะนำให้ปั่นต่อไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 รับรองว่าได้เห็นวิวสวยๆ คุ้มค่ากับพลังงานที่เสียไปแน่นอน (ระยะทางจากบริเวณหน้าลานพญาศรีสัตตนาคราช ไปจนถึงสะพานมิตรภายไทย-ลาว แห่งที่ 3 รวมแล้วประมาณ 14 กิโลเมตร) จุดมุ่งหมายที่ 4 : ปากหม้อเจ้าเก่า และถนนคนเดิน ปั่นจักรยานไป-กลับ รวมแล้วกว่า 28 กิโลเมตร ท้องก็เริ่มหิวขึ้นมาอีกครั้ง เราปั่นเข้าในตัวเมืองหาของกินอร่อยๆ และมาสะดุดตากลับร้าน "ปากหม้อเจ้าเก่า" ซึ่งเราก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าตั้งอยู่ตรงไหน แต่คร่าวๆก็คืออยู่ในตัวเมือง ข้างร้าน 7-11 ฮ่าๆๆๆ ปากหม้อของที่นี่มีหลักๆด้วยกัน 4 แบบ คือ แบบธรรมดา, แบบไข่ดาว, แบบใส่ไข่ และแบบข้าวเกรียบ เราเลือกสั่งแบบธรรมดา โดยรวมแล้วถือว่าเด็ด ตัวไส้เข้มข้น ตัวแป้งเหนียวหนึบหนับ แต่เราขอกั๊กท้องไว้ไปเดินหาของกินที่ตลาดถนนคนเดินอีกหน่อย (ถนนคนเดินของที่นี่มีทุกวัน ศุกร์ - อาทิตย์) จุดมุ่งหมายที่ 5 : ปากหม้อศรีเทพ หลังจากนอนพักผ่อนที่โรงแรมแถวๆริมแม่น้ำโขง 1 คืน ตื่นเช้ามาก็ยังคงติดใจรสชาติของปากหม้อ และอยากไปลอง "ปากหม้อศรีเทพ" ปากหม้อร้านดังของนครพนม ที่เปิดตั้งแต่เช้าตรู่ เราไปถึงประมาณ 7 โมงกว่า คนยืนรอคิวเต็มหน้าร้านเลย คราวนี้เราลองสั่งแบบใส่ไข่ และแบบข้าวเกรียบ จุดมุ่งหมายที่ 6 : วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จุดหมายสุดท้ายของจังหวัดนครพนม ก่อนจะมุ่งหน้าสู่มุกดาหาร (จังหวัดที่ 2 ในกลุ่มจังหวัดสนุก) นั่นคือ"วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร" โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในอำเภอธาตุพนม ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ ที่จริงแล้วพระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีวอกและผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ แต่สำหรับเราผู้ที่ไม่ได้เกิดทั้งปีวอก และวันอาทิตย์ ก็ขอแวะสักการะเพื่อเป็นศิริมงคลด้วยคนจ้า สำหรับผู้ที่มีเวลามากกว่านี้ จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีพระธาตุประจำวันเกิด ครบทั้ง 7 วันเลยทีเดียว หากใครสนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อไปสักการะ ขอความเป็นศิริมงคลกันได้ ส่วนเรามีเวลาไม่มากนัก ขอเดินหน้าต่อไปยังจังหวัดมุกดาหารก่อนจ้า เครดิตภาพทั้งหมดโดย ผู้เขียน