ภาพประกอบโดยผู้เขียน นี่เป็นการเล่าประสบการณ์ที่ได้จากใช้จริง ที่ได้สัมผัสคลุกคลีกับเจ้าอุปกรณ์ ที่จะเรียกว่านาฬิกามันก็คือนาฬิกา แต่ความสามารถมันเหนือกว่านาฬิกาทั่วไป ศัพท์แสง เทคนิคที่เจาะลึกผมจะไม่ขอลงรายละเอียดนะครับ เล่าแบบบ้านๆ นี่แหล่ะ ผมไม่ได้ออกกำลังกายอะไรจึงจะไม่เน้นเนื้อหาตรงนี้ และตัว smart watchกับwear osที่นำมารีวิวกันก็ใช้ตัวที่ถือว่ามีชื่อเสียงพอตัว ไม่ได้เอาตัวราคาถูกๆ มา และไม่ได้เทียบเรื่องราคาเท่ากันจะต้องมีความสามารถเหนือกว่า แต่อยากให้รู้ในข้อเด่น ข้อด้อยเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อนะครับ และจะขอพูดแบบรวมๆ นะครับเพื่อให้สามารถดูได้หลายรุ่นถ้าสุดท้ายตัดสินใจได้ว่าคุณเหมาะกับSmart WatchหรือWear OSSmart Watch - ถ้าให้นิยามSmart Watchสำหรับผม มันคือนาฬิกาที่ฉลาดกว่านาฬิกาทั่วๆไป คือมีความสามารถที่ติดมากับเครื่องเยอะแยะ แต่ไม่สามารถเพิ่มความสามารถได้อีก (อธิบายเท่านี้ก่อนครับ ค่อยไปขยายเพิ่มตรงส่วนข้อดี) ตัวที่นำมาเล่าให้ฟังคือ Mi Band4 (ที่จริงมันคือสายรัดข้อมือหรือที่เรียกว่าSmart Bandแต่ความสามารถเหมือนกัน)ได้มาในราคา 650 บาทครับจุดเด่น1.การใช้งานด้านการออกกำลังกายค่อนข้างครบ วัดการเดิน การวิ่ง การว่ายน้ำ การนอน วัดอัตราการเต้นหัวใจ ซึ่งถือว่าค่อนข้างแม่นเลยทีเดียว...แต่ผมไม่ใช่สายออกกำลังกาย อันนี้ไม่จำเป็นสำหรับผมครับ2.มีการแจ้งเตือนที่ค่อนข้างเร็ว เตือนได้น่าจะทุกแอพแล้วแต่เราอยากให้มันแจ้งเตือน หรือใช้แจ้งเตือนเวลามีสายเรียกเข้า เปลี่ยนเพลงได้ (บางรุ่นลงเพลงเพิ่มได้ ส่วนนี้Wear OSก็ทำได้ครับ)3.แบตอึดมาก อภิมหาอึด สอง-สามสัปดาห์หรือเป็นเดือนๆ ใช้จนทำที่ชาร์จหายก็มีครับ ฮ่าๆๆข้อสังเกต1.ดูได้แค่ข้อความแจ้งเตือนเท่าไม่สามารถตอบกลับได้ ( แต่อันนี้Wear OSทำได้นะ )2.ลงแอพอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ ใช้ได้แค่ความสามารถเท่าที่ติดมากับเครื่องWear os - มันคือSmart Watchที่ได้รับการอัพเกรดจากSmart Watchอีกที คือมีระบบปฏิบัติการในตัวที่ใช้ชื่อว่า "Wear OS"ได้รับการพัฒนาโดยGoogle เพราะนอกจากจะมีความสามารถที่ติดเครื่องมาเยอะแยะ เหมือนSmart Watchแล้ว ยังสามารถลงแอพเพิ่มได้เหมือนกับSmart Phone แต่จะให้ใช้แทนSmart Phone ตรงนี้ในความคิดผม ยังไม่สามารถทดแทนได้(ขอเอาไปอธิบายในส่วนข้อดีนะครับ) ที่จริงในท้องตลาดเท่าที่ผมทราบ Smart Watchที่มีระบบปฏิบัติการนอกจากWear OSที่เป็นของGoogle ก็ยังมีTizen OSที่ใช้กับSmart Watchบางรุ่นของSamsung หรือApple Watch ที่ใช้ระบบปฏิบัติการIOS ตรงนี้ที่ต่างกันคือจำนวนแอพพลิเคชั่นครับ อยู่ที่ชอบเลยครับจุดเด่น1.ก็เหมือนSmart watch บางรุ่นโทรได้ รับสายได้ (Smart watchบางรุ่นก็ทำได้นะ) วัดการออกกำลังกายนู่นนั่นนี่ ที่ถือว่ามีความแม่นยำพอตัว เอาไปใช้งานได้ แต่ที่เพิ่มมาคือสามารถลงแอพ เช่นเครื่องคิดเลข ปฏิทิน ไฟฉาย แอพช่วยจดโน้ต Web Browserที่ให้เราสามารถเข้าเว็บได้จากในSmart Watch ฯลฯ หรือจะลงเกมแบบที่ไม่หนักเครื่องไม่กินสเปคก็ทำได้ครับ ตรงนี้น่าจะเป็นจุดขายของอุปกรณ์ตัวนี้เลย2.ความสามารถด้าน Google Assistant คือดีงามล้ำค่า ถามอะไรไป พี่บอกได้เกือบหมด โดยที่เราไม่ต้องล้วงมือถือขึ้นมา ทั้งถามเรื่องทั่วไป เช่น “1หยวนเท่ากับกี่บาท” “รถที่แพงที่สุดในโลก” “9,7650+758เท่ากับเท่าไหร่” พี่Googleตอบได้เกือบหมด หรือสั่งโทรออกด้วยเสียง สั่งเปิด Google MapจากWear OSได้เลย (เวลานำทางใช้ฟังเสียงเอานะครับ ดูจอไปด้วยไม่ค่อยจะไหว จอเล็กเกิน ฮ่าๆๆ)ที่ผมชอบที่สุดคือให้มันเป็นล่ามแปลภาษาได้ เช่นเวลาเราเจอฝรั่ง เราพูดอังกฤษไม่คล่องหรือไม่ได้เลย เราก็ใช้คำสั่ง “ช่วยเป็นล่ามภาษาอังกฤษ” ทีนี้เจ้า Wear OS ก็จะกลายร่างเป็นล่ามแปลภาษา เรียกได้ว่าแปลแบบประโยคต่อประโยค เราพูดไทยไป มันก็จะแปลเป็นอังกฤษให้ สามารถพูดไทยแบบรัวๆ ให้ฝรั่งฟังได้เลย และที่เด็ดก็คือพอฝรั่งเค้าพูดอังกฤษมาก็ไม่จำเป็นต้องมาเปลี่ยนให้มันเป็นภาษาอังกฤษ เจ้า Wear OS มันจะแปลที่เค้าพูดเป็นภาษาไทยให้เราทันที เค้าอังกฤษมา เราไทยไป เข้าใจกันแน่นอน ทลายกำแพงทางภาษาลงอย่างราบคาบไปเลยทีเดียว พี่กูเกิ้ลจึงเป็นสิ่งที่ผมคิดว่านี่แหล่ะสมกับเป็นความลำ้หน้าอีกขั้นของSmart Watchที่ใช้ระบบWear OSข้อสังเกต1.ราคาแพงเอาเรื่องครับ ตัวถูกที่สุดเท่าที่ผมจะหาได้ ราคาก็ 5พันกว่าบาทแล้วครับในขณะที่พวกSmart Watchแบบดีๆหน่อยก็ประมาณ6-7ร้อยขึ้น จนถึงหลักพัน หลักหมื่นเรียกว่าSmart Watchที่ไม่มีระบบปฏิบัติการมีให้เลือกหลายราคากว่า2.แบตหมดเร็วมาก ตรงนี้ถือเป็นจุดที่Wear OSเสียเปรียบ Smart Watch ที่สามารถอยู่ได้หลายอาทิตย์หรือเป็นเดือนๆ อย่างเจ้า Ticwatch E ที่ผมใช้ สามารถใช้ได้แค่หนึ่งวันเท่านั้น ชาร์จตอนเช้า เย็นหมด หรือรุ่นที่แพงกว่าก็ไม่เคยเห็นรุ่นไหนที่เกิน1สัปดาห์(ขอพูดในแง่ที่เปิดทุกความสามารถที่มีนะครับ ไม่งั้นก็จะไม่ต่างกับ Smart Watch)3.แอพที่ลงได้อย่าคิดว่ามันจะดีเหมือน Smart Phoneนะครับ มันใช้ได้ส่วนหนึ่งแต่ทดแทนไม่ได้ อย่าง Facebook Messenger เราทำได้แค่กดเข้าไปดูว่าใครทักมาก็จะเห็นบทสนทนา รูปภาพ สติกเกอร์ที่ผู้สนทนาส่งมา และตอบกลับได้เท่านั้น แต่ถ้าจะเป็นฝ่ายทักไปหาก่อนยังไม่สามารถทำได้ครับ บางแอพมีบั๊กอยู่ มีเครื่องค้าง มีอืดบ้าง เหมือนSmart Phoneนั่นแหล่ะสรุป- เอาแค่วัดเรื่องการออกกำลังกาย แบตอึด ดูแจ้งเตือน เน้นราคาประหยัด ก็เอาSmart Watchครับ- อยากลงแอพเพิ่มเพื่อให้มีลูกเล่นหลากหลาย ต้องการผู้ช่วยอัจฉริยะอย่างGoogle Assistant รับได้กับแบตหมดเร็ว มีเวลาชาร์จเยอะ ให้เลือกWear OS ครับ ยังไงสุดท้ายก็เลือกเอาที่เหมาะกับไลฟ์ สไตล์เรานะครับ