จากสถานการณ์ COVID-19 หรือ โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในประเทศไทยนั้น กระทรวงสาธารณสุข หารือกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพื่อเตรียมพร้อมยกระดับเป็นระดับ 3 เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคนั้น สร้างความกังวลใจและความตื่นตระหนกให้กับคนไทยมากพอสมควร ส่วนหนึ่งของการแพร่ระบาดนั้น มาจากการไม่ให้ความร่วมมือของประชาชนด้วยเช่นกัน เช่น หลีกเลี่ยงการสุ่มตรวจ หรือพบอาการเสี่ยงที่จะเป็นโรคแต่ไม่ยอมเข้ารับการรักษา การยกระดับเป็นระดับ 3 และการประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตรายนั้น ทำให้สามารถใช้กฎหมายเข้าไปควบคุมดูแลบุคคลต้องสงสัยได้อย่างทันท่วงที ขอบคุณภาพประกอบ Macau Photo Agency / unsplash.com การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ แต่ละระดับต่างกันตามสถานการณ์ ระดับที่ 1 คือสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ โดยผู้ติดเชื้อนั้นเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศอื่นที่มีการแพร่ระบาดของโรคนั้น ๆ อย่างเช่น คนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศจีน แล้วพบว่าติดเชื้อกลับมาด้วย ระดับที่ 2 คือสถานการณ์ที่มีการติดเชื้อจากคนสู่คน ติดต่อกันภายในประเทศ แต่การแพร่เชื้อยังอยู่ในการควบคุม อยู่วงจำกัด ประเทศไทยตอนนี้ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ 2 เท่านั้น ระดับที่ 3 คือสถานการณ์ที่มีการลุกลามระบาดและแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว การติดต่อขยายวงกว้างเกินการควบคุมดูแลได้ทัน ระดับที่ 3 นี้ อย่างเช่น ประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน ขอบคุณภาพประกอบ Macau Photo Agency / unsplash.com ประเทศไทยในส่วนของภาครัฐ ได้ประกาศ 2 มาตรการเร่งด่วน เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 หรือ โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา นั่นก็คือ ลดการแพร่เชื้อเข้าสู่ประเทศไทยและภายในประเทศ คัดกรองและเฝ้าระวังเชิงรุกอย่างเข้มข้น ทั้งในสถานที่สาธารณะต่าง ๆ สถานประกอบการ โรงเรียน โรงพยาบาล ชุมชน เรือนจำ ค่ายทหาร ฯลฯ ด้วยการเพิ่มสถานที่คัดแยกผู้ป่วยให้มีมากขึ้น ให้ความรู้เรื่องการสังเกตอาการมากขึ้น ให้หยุดงานเพื่อเฝ้าดูอาการได้ เพิ่มมาตรการให้มีการทำงานที่บ้าน ปิดสถานที่ที่พบการระบาด ให้งดการชุมนุมในที่สาธารณะ และรัฐบาลอาจจะพิจารณาประกาศพื้นที่ประสบภัยในบางพื้นที่เพื่อควบคุม อีกมาตรการหนึ่งก็คือ เตรียมความพร้อมและการร่วมมือกันของโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ กำหนด และวางแผนพื้นที่ ดูแล จัดหา ทั้งยาและอุปกรณ์การรักษาให้เพียงพอ ขอบคุณภาพประกอบ pxhere อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญในเบื้องต้นก็คือการดูแลสุขภาพ ป้องกันตนเองในเรื่องความสะอาดและสุขอนามัย ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน งดเว้นการเข้าไปในที่ชุมนุมชน ที่สาธารณะต่าง ๆ ที่มีผู้คนมากมาย แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ให้ระมัดระวังเรื่องการสัมผัส โดนตัว โดนสิ่งของต่าง ๆ ระวังเรื่องการเอามือมาสัมผัสใบหน้าตนเอง ขยี้ตา เช็ดจมูก ปาก ควรล้างมือบ่อย ๆ หรือใช้เจลล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ปรุงไม่สุก ไม่สะอาด และออกไปให้ห่างไกลจากผู้ที่มีการไอ หรือจาม และหากพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูกไหล หรือมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจแรง หรือมีอาการคล้ายกับจะเป็นไข้หวัด อย่าชะล่าใจควรไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์โดยทันที ขอบคุณภาพประกอบ freepik.com สถานการณ์ COVID-19 ทั้งประเทศไทยและทั่วโลกในขณะนี้ เป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนต้องใส่ใจดูแล และช่วยกันศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องจากเว็บไซต์ที่เป็นทางการและมีความน่าเชื่อถือ ช่วยกันสังเกตเฝ้าระวังในชุมชนของตนเองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดลุกลาม ขณะนี้การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่ 2 ที่ถือว่าการติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำ แต่การเตรียมพร้อมรับมือก็ต้องทำอย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแต่ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน อย่าตื่นตระหนก ดูแลตัวเอง และคนรอบข้าง คนใกล้ชิด ให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ขอบคุณภาพปกจาก Bicanski / pixnio.com