เมื่อเอ่ยถึงนักเขียนในนามปากกา “ว.วินิจฉัยกุล” ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักอ่านว่านี่คือนามปากกาของนักเขียนชั้นครูที่มีผลงานนวนิยายออกมาสู่วงวรรณกรรมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งผลงานใหม่ ๆ ที่ได้รับความสนใจจากนักอ่านทุกครั้ง และผลงานเก่าหายากระดับขึ้นหิ้ง ที่บรรดาคอหนังสือต่างระดมทุนทรัพย์ไปบิทราคาแข่งกันในราคาที่สูงลิบลิ่วจากตลาดประมูล หลังจากที่สำนักพิมพ์ยอดนิยมที่รับผิดชอบการจัดพิมพ์ผลงานของ ว.วินิจฉัยกุล อย่างสำนักพิมพ์เพื่อนดีและสำนักพิมพ์ทรีบีส์ ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในเครือของนิตยสารสกุลไทยได้ปิดตัวลงเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมาจนกระทั่งล่าสุด นักเขียนได้ส่งผลงานนวนิยายเรื่องใหม่แกะกล่องออกมา นั่นก็คือนวนิยายเล่มหนาที่มีชื่อเรื่องสั้น ๆ ว่า “ร้าย” [2563] ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากนักอ่านเช่นเคย ซึ่งผลงานนวนิยายเรื่องล่าสุดนี่เอง ที่ทำให้นักอ่านหน้าใหม่หลายคนอยากจะทำความรู้จักกับผลงานเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นผลงานของนักเขียนระดับศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ผู้นี้อีก ดังนั้นบทความชิ้นนี้ จึงจะพานักอ่านย้อนกลับไปรู้จักและทบทวนผลงานเรื่องอื่น ๆ ของนักเขียนท่านนี้อีกครั้ง โดยเฉพาะผลงานนวนิยายเรื่องแรกของ ว.วินิจฉัยกุล นั่นก็คือ มิถิลา-เวสาลีมิถิลา-เวสาลี [2514] (ตอนนั้นใช้นามปากกา รักร้อย จิรัฐิติกาล) เป็นผลงานนวนิยายเรื่องแรกของ ว.วินิจฉัยกุล ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2514 โดยสำนักพิมพ์แพร่พิทยา หลังจากที่ได้ตีพิมพ์เป็นตอน ๆ จนจบในนิตยสารสตรีสารรายสัปดาห์ในช่วงปี พ.ศ. 2513-2514 หรือเมื่อราว 50 ปีที่แล้วนั่นเองเนื้อเรื่องโดยสังเขปของ มิถิลา-เวสาลี กล่าวถึงเรื่องราวของ “คุณมิก” หรือ มิถิลา กับ “วาว” หรือ “เวสาลี” สองสาวจากตระกูลนฤเบศรมนตรี ที่แตกต่างกันราวกับดวงสุริยันและจันทรา “คุณมิก” หรือ มิถิลา ที่แววนภาผู้เป็นพี่สาวคนโตของเวสาลีกล่าวลำดับญาติให้ฟังว่า “ลูกสาวของลุงโกศลน่ะหรือคะ...โตเร็วจัง เผลอนิดเดียวเป็นสาวใหญ่แล้ว อายุเท่ายายวาวเท่านั้นใช่ไหมคะคุณแม่ ทำไมดูเป็นผู้ใหญ่กว่ายายวาวตั้งกอง”ใช่แล้ว มิถิลา และ เวสาลี ไม่ใช่พี่น้องท้องเดียวกัน เพราะทางฝ่ายเวสาลีนั้น เธอมีพี่น้องร่วมกันทั้งหมด 4 คน นั่นก็คือ แววนภา เวสาลี วีรพันธุ์ และ วรรณมาศ ส่วนทางฝ่าย มิถิลา นั้น เธอมีพี่ชายเพียงคนเดียวนั่นก็คือ สีวี พี่ชายแท้ ๆ ที่เจ้ากี้เจ้าการจัดหาคู่หมั้นให้กับเธอ นั่นก็คือ “บังสูรย์ รังสิกร” เพื่อนชายของสีวีนั่นเองเมื่อสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี มิถิลา ก็เดินทางกลับมาอยู่เมืองไทย ในขณะที่แม่กับพี่ชายซึ่งกำลังเรียนปริญญาโทยังคงพำนักอยู่ที่ต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เองที่ มิถิลา มาขอให้ เวสาลี ย้ายไปอยู่เป็นเพื่อนเธอที่บ้านนฤเบศวรมนตรี ซึ่งที่บ้านหลังใหญ่โตราวกับคฤหาสน์ของมิถิลานี่เอง ที่เวสาลีได้รู้จักกับตัวจริงของ บังสูรย์ คู่หมั้นของมิถิลา หนุ่มเจ้าเสน่ห์ผู้มีข่าวในสังคมหนาหูว่าเขาคือชายหนุ่มเพลย์บอยผู้อยู่เบื้องหลังของธุรกิจสีเทาที่หากินกับผู้หญิงสาว ๆ สวย ๆ และในฐานะผู้เข้ามาอยู่อาศัยกึ่งญาติกึ่งคนรับใช้กลาย ๆ ที่บ้านนฤเบศวรมนตรีนี่เอง ที่ทำให้เวสาลีรู้ถึงเบื้องลึกในความสัมพันธ์ระหว่างมิถิลาและบังสูรย์ ว่านอกจากผลประโยชน์ทางธุรกิจแล้ว ทั้งสองคนไม่ได้มีความรักใคร่ใยดีกันเลยแม้แต่น้อยเวสาลี มีเพื่อนชายในวัยเดียวกันที่เธอคบหาดูใจกันมาตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ นั่นก็คือ รมย์ หนุ่มฐานะปานกลางค่อนข้างไปทางยากจนที่มีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกันกับเธอ ด้วยความคิดอ่าน การมองโลก และฐานะทางบ้านที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ทั้งรมย์และเวสาลีติดต่อคบหากันอยู่ได้เป็นเวลานาน จนแม้กระทั่งเวสาลีย้ายไปอยู่ที่บ้านนฤเบศวรมนตรีของมิถิลา รมย์ก็ยังหมั่นเทียวไปมาหาสู่อยู่เสมอ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งบานปลายระหว่าง รมย์ กับ มิถิลา ในที่สุด “รมย์มีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้หญิงที่เขาเห็นว่าดีที่สุด” “ดีที่สุด บ้าบ่ะซิ มันเลือกเงินต่างหากเล่าคุณก็ ถ้าเลือกคนดีมันต้องเลือกคุณมากกว่า เดี๋ยวนี้ไม่มีใครสนใจผู้หญิงดี ๆ มากกว่าผู้หญิงรวย ๆ หรอกน่ะ ไม่ว่าหล่อนจะเลวยังไงก็ตาม ดูแต่ผมซิ ไม่เคยรักคู่หมั้นเลยสักนิดเดียว แต่อยากแต่งงานด้วย เพราะอะไรรู้ไหมล่ะ เพราะสีวีต้องการ เพราะผมทำตามหัวสมองตนเอง แต่งงานเสร็จ...ผมก็เป็นนายบังสูรย์ นฤเบศวรมนตรี ตำแหน่งที่แฟนคุณอยากได้นักไงล่ะ”ว.วินิจฉัยกุล เขียนนวนิยายเรื่องนี้ในตอนปิดเทอม ก่อนที่จะขึ้นชั้นปีที่ 3 แต่กว่าที่นวนิยายจะได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารสตรีสารก็ต่อเมื่อเธอเรียนจบแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะเคยบอกกับเพื่อน ๆ ของเธอว่าอาย ไม่กล้ากลับมาอ่าน เพราะรู้สึกว่าเป็นนวนิยายที่ตนเองเขียนในตอนที่ไม่ค่อยประสีประสากับโลก แต่เชื่อแน่ว่าในมุมมองของแฟนหนังสือ ว.วินิจฉัยกุล นี่คือนวนิยายเรื่องเยี่ยมที่มีพลอตเรื่องและเนื้อหาที่งวด กระชับ และเข้มข้นอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยแง่มุมของการสะท้อนภาพพฤติกรรมรัก โลภ โกรธ และหลง ของคนทั้งในระดับสูงลงไปจนถึงระดับกลาง และล่าง ที่ไม่ล้าสมัยไปตามกาลเวลาน่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่มีผู้จัดละครจากค่ายไหนเลือกนำเอานวนิยายเรื่องนี้ไปสร้างสรรค์ต่อเป็นละครโทรทัศน์ ทั้ง ๆ ที่ มิถิลา-เวสาลี เป็นนวนิยายที่มีครบรสชาติเลยทีเดียว ทั้งเรื่องของการรักลูกไม่เท่ากันอย่างมิถิลากับสีวี เรื่องของพี่น้องท้องเดียวกันสายเลือดเดียวกันแต่กลับมีความคิดที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วอย่างเวสาลีกับวรรณมาศ เรื่องของลูกชู้ลูกชังอย่างกรณีของบังสูรย์ - พระเอกสายเทาของเรื่อง เรื่องราวชีวิตของผู้หญิงที่เลือกจะเป็น ‘บ้านเล็ก’ ของผู้ชายมีฐานะสักคนหนึ่งเพื่อแลกกับความสุขสบายอย่างกรณีของแววนภา – พี่สาวคนโตของเวสาลี เรื่องราวแนวรักซ้อนซ่อนชู้ระหว่างณารัน (บิดาแท้ ๆ ของบังสูรย์) เจ้าคุณราชรังสี (บิดาบุญธรรมของบังสูรย์) และคุณหญิงเรียม (มารดาแท้ ๆ ของบังสูรย์) เรื่องราวของสาวน้อยใจแตกผู้หลงระเริงในวงการมายาอย่าง วรรณมาศ – น้องสาวของเวสาสีเอง เรื่องราวระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้อย่างคุณหญิงเรียมกับเวสาลี หรือแม้กระทั่งเรื่องของผู้ชายที่ยอมทิ้งอุดมคติและ‘ขายตัว’เพื่อแลกกับการขยับฐานะทางสังคมอย่างรมย์ – ผู้ชายที่เป็นรักแรกของเวสาลีนั่นเองถึงแม้ว่าสำนักพิมพ์ที่เคยจัดพิมพ์ผลงานของ ว.วินิจฉัยกุล อย่างสำนักพิมพ์เพื่อนดีและสำนักพิมพ์ทรีบีส์จะปิดตัวไปแล้ว แต่คอนวนิยายสร้างสรรค์ของ ว.วินิจฉัยกุล ก็ไม่ต้องกังวลไปว่าจะหาอ่านงานของศิลปินชั้นครูผู้นี้ไม่ได้ เพราะตอนนี้ผลงานเก่า ๆ และผลงานใหม่ของเธอทั้งในนามปากกา ว.วินิจฉัยกุล และ แก้วเก้า กำลังทยอยพิมพ์ออกมาให้นักอ่านได้จับจองกันแล้ว โดยนักอ่านสามารถติดต่อสอบถามได้ทั้งจากสำนักพิมพ์อรุณ ทางเพจ บ้านอรุณ และทางเพจของนักเขียนเองคือ Kaewkao and V.Vinicchayakul Updated Stories ได้เลยภาพประกอบ โดย ผู้เขียน จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !