ลีลาร่าเริงเพลง แสดงโดยชมรมผู้สูงอายุตำบลห้วยด้วน ทีมงานถ่ายทำวิดีโอซึ่งได้รับมอบหมายจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม มาจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในจังหวัด ณ บ้านกงลาด ตำบลห้วยด้วน อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม เมื่อวันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ มีนายบุญเรือง ปาแสนกุล ภูมิปัญญาชาวบ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยด้วน เป็นผู้ประสานงาน เมื่อทีมงานมาถึงก็ให้การต้อนรับตามสมควร เปิดการแสดงลีลาร่าเริงเพลง รำแคนเพลงย่ำแมงขี้เต่า เพลงไล่วัวขึ้นเขา เพลงนกเอี้ยงเหยียบก้อนขี้ไถ ปิดท้ายด้วยเพลงบาสโลบไทยลาวครั่ง จากนั้นก็พูดคุยกัน ทีมงานถ่ายทำวิดีโอ ทีมงานตั้งคำถาม "อยากให้เล่าที่มาที่ไปของชุมชนตำบลห้วยด้วน" นายบุญเรือง ปาแสนกุล อายุแปดสิบกว่าแล้ว เล่าว่า "ชุมชนลาวไทย เชื้อสายลาวคั่งที่บ้านกงลาด ตำบลห้วยด้วนนี้ เป็นชุมชนที่เก่าแก่ที่สุด ดูจากประวัติศาสตร์และตามตำนาน อพยพมาจากหลวงพระบาง ประวัติความเป็นมาตามประวัติศาสตร์ รัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ยกทัพไปปราบพวกที่เป็นขบถกับประเทศไทย คือประเทศลาวกับประเทศเขมร และประเทศเวียดนาม ในสมัยพระเจ้าตากสิน กรุงธนบุรี เมื่อยกทัพไปถึงก็ไปตั้งอยู่ที่เมืองคัง ของประเทศลาว ทีนี้ทางกรุงธนบุรีส่งข่าวไปบอกว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีอาการไม่ค่อยดี ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกรีบกลับมา ตอนนั้นท่านยกทัพไปปราบเมืองเดียนเบียนฟูของประเทศเวียดนาม ส่วนเขมรไม่ได้ไป ท่านก็ยกทัพกลับกรุง ส่วนทัพหลวงซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองคัง ที่มีลาวคั่ง เมื่อจะยกทัพกลับ ท่านถามชาวเมืองคังที่เป็นลาวคั่งว่า จะติดตามเรากลับไปด้วยไหม เพราะที่เป็นลาวโซ่งจากเดียนเบียนฟูก็มากับเราส่วนหนึ่งแล้ว ถ้าท่านอยู่ที่นี่พอเรายกทัพกลับไปแล้ว กองทัพของเวียดนามก็จะยกเข้ามาครอบครองพื้นที่ แล้วก็จะพูดกันไม่รู้เรื่องแต่เราภาษาเดียวกัน ในที่สุดก็ตกลงกันว่าลาวคั่งที่เมืองคังติดตามทัพของพระยามหากษัตริย์ศึกมาธนบุรี เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๓ ปลายปี สรุปแล้วออกมาทางแม่น้ำจังหวัดเลย เข้าอุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร สุพรรณบุรี มาสุดท้ายที่นครปฐม ที่โพรงมะเดื่อ แต่ชุมชนใหญ่อยู่ที่กงลาด วัดกงลาด ตำบลห้วยด้วน ที่ว่าชุมชนใหญ่ก็เพราะว่าตามประวัติศาสตร์ ที่โบสถ์หลังนี้อายุ ๒๕๐ กว่าปี ที่ว่ามาอยู่เป็นครั้งแรกที่กงลาด นับมีนามสกุลว่ากงลาดอยู่มาก เช่น มากงลาด ป้องกงลาด เหลืองกงลาด อยู่กงลาด อุ่นกงลาด ดีกงลาด และขยายออกไปรอบๆบริเวณ เมื่ออพยพกลับลาวไม่ได้ก็สืบสานสู่ลูกหลาน นำขนบธรรมเนียมประเพณีลาวคั่งอยู่ในพื้นที่ และยังคงรักษาไว้อย่างเหนียวแน่นจนถึงวันนี้ แต่บางอย่างก็เลือนหายไป ทีมงานตั้งคำถาม "ความโดดเด่นของที่นี่ เมื่อนักท่องเที่ยวจะได้มาพบเห็นวัฒนธรรม มีอะไรบ้างครับ" นายบุญเรือง ปาแสนกุล เล่าต่อว่า "อันดับหนึ่งพอมาถึง เราตั้งจุดที่ศาลาการเปรียญ จะมีรำชุดลาวคั่งต้อนรับผู้ที่มา อันดับสองให้ไปดูชุมชนที่เรารักษาธรรมเนียมประเพณีของลาวคั่งไว้ เช่น การทำธงสงกรานต์ นมัสการอุโบสถอายุกว่า ๒๕๐ ปี ซึ่งเก่าแก่ที่สุด ไปดูชุมชน ฉางข้าวเก่า พิธีสู่ขวัญข้าว พิธีทำบุญกลางบ้าน เป็นต้น แล้วกลับมาที่ศาลาการเปรียญอีกครั้ง เพื่อเลี้ยงอาหารลาวคั่ง ฟรี ๑ มื้อ" นายองอาจ ปิ่นพยอม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยด้วน กล่าวเสริมว่า "อบต. ได้สนับสนุนจัดสรรงบประมาณให้ตลอด ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้มาชมประเพณีลาวคั่ง" นายบุญเรืองเสริมว่า "นักท่องเที่ยวที่มา เราไม่เรียกร้องเลยซักบาท เลี้ยงอาหารฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เราต้อนรับอย่างดี เราอยากเผยแพร่ของดีในตำบล ประเพณีที่แปลกๆของเรายังมีอยู่ ก่อนจากก็บันทึกภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก สำหรับเราเอง รู้สึกยินดีที่มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ด้วยเราก็เป็นไทยลาวคั่ง เกิดและเติบโตที่บ้านกงลาดแห่งนี้ การแสดงลีลาร่าเริงเพลง เพลงบาสโลบไทยลาวครั่ง เราเป็นผู้แต่งคำร้อง ทำนอง มีเนื้อเพลงดังนี้ "เพลงบาสโลบ ลาว ครั่งไทย ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีลาวย้ายถิ่นมาจากภูคัง ดินแดนลาวเมืองหลวงพระบาง มาอยู่ประเทศไทยภาคกลาง ใช้ชีวิตอย่างพออยู่พอเพียง โดดเด่นสำเนียงน้ำเสียงสื่อสาร ลาวคั่งพูดกันเฉพาะเข้าใจ ผู้ชายได้ออกงานพิธี ผ้าขาวม้ามีคาดเอวเอาไว้ ผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นวิไล ถักทอต่อตีนจกเป็นลาย ประเพณีไทยตั้งใจสืบสาน สนุกสนานจัดงานนนท์นบ เต้นเพลงบาสโลบ ลาว ครั่งไทย ขยับไปซ้ายทีขวาที เข้าขากันดีลีลาลื่นไหล ความพร้อมเพรียงนับเป็นเยี่ยงพิไล เต้นตามเพลงเน้นครื้นเครงสุขใจ ประยุกต์สไตล์เต้นกันหรรษา จังหวะเพลงบาสโลบ ลาว ครั่งไทย ของลาวท่วงท่าดูเพาเป็นเจ้าสำราญ ไทยลาวคั่งยังวิถี ชอบการดนตรีสุนทรีย์เบิกบาน สืบวัฒนธรรมมานาน ยกธงประเพณีสงกรานต์ นี้คือชาติพันธุ์มีเอกลักษณ์ เว้าคำว่าฮักเฮือนเฮ็ดอีหยัง คือไทยลาวคั่งภาคกลางของไทย" บันทึกไว้ ณ วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ สวัสดี ชมรมผู้สูงอายุตำบลห้วยด้วนกับทีมงานถ่ายทำวิดีโอ (ภาพโดยผู้เขียน) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !