จากข้อความมากมายในโซเชียลมีเดียที่พูดถึงเรื่องของโรงงานระเบิด ผู้เขียนพบว่ามีไม่น้อยที่พูดถึงเรื่องของฝนกรด แต่ข้อมูลจากนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝนกรด แต่ให้งดการสัมผัสฝน ซึ่งทำให้เกิดความสับสนกับหลายๆคนที่เข้ามาถามผู้เขียนว่าฝนที่เกิดขึ้นเรียกว่าฝนอะไรกันแน่ ซึ่งผู้เขียนก็ได้รวบรวมข้อมูลมาเพื่อตอบคำถามทุกคนแล้วค่ะก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “ฝนกรด” คืออะไร? โดยปกติฝนที่ตกมาจากฟ้า จะมีสภาพเป็นกรดเล็กน้อยอยู่แล้ว เนื่องจากการรวมตัวกันระหว่างละอองฝนกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดเป็นกรดคาร์บอนิก แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่มีมลพิษมากในเมือง ทำให้ฝนที่ตกลงมามีความเป็นกรดมากขึ้น และมีอันตรายมากขึ้นจากการทำปฏิกิริยากับก๊าซออกไซด์ของโลหะบางชนิด เช่น Sulfur Dioxide : SO2 และ Nitrogen Oxide : NOx ที่ทำให้เกิดกรดซัลฟิวริก กรดไนตริก และสารพิษปนเปื้อนอื่น ๆ ซึ่งการเกิดฝนกรด จะเกิดขึ้นได้ 2 ลักษณะแบบแรก คือการสะสมของกรดแบบเปียก เป็นการรวมตัวกันของกรดซัลฟิวริกหรือกรดไนตริกเข้ากับเมฆบนท้องฟ้า ทำให้ฝน หิมะ หรือหมอกที่เกิดขึ้น มีความเป็นกรดแบบที่สอง คือการสะสมของกรดแบบแห้ง เป็นการตกลงมาของอนุภาคหรือละอองที่มีความเป็นกรด เช่น อนุภาคซัลเฟต และอนุภาคไนเตรต ที่ลอยอยู่ในอากาศ โดยไม่ได้รวมตัวกับก้อนเมฆ ละอองเหล่านี้มีความสามารถในการเลื่อนไปตามแรงลมได้หลายร้อยกิโลเมตรก่อนจะตกลงมา จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมในพื้นที่ชนบทถึงยังมีฝนกรดทั้งที่ไม่ได้ปล่อยมลพิษกลับมาที่เหตุระเบิดของโรงงานที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผู้เขียนขอพูดถึงในกรณีของโรงงานกิ่งแก้วนะคะ จากคำกล่าวของนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่าสารเคมีที่ทำให้เกิดควันพิษจากไฟไหม้โรงงานพลาสติก คือสารเคมีที่ชื่อว่า สไตรีนโมโนเมอร์ ที่สามารถกลายเป็นไอระเหยและติดไฟได้ที่อุณหภูมิเพียงแค่ 31 องศาเซลเซียส ซึ่งจากการเผาไหม้ก็ทำให้เกิดสารเคมีอื่นๆด้วย ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ควันดำหรือฝุ่น PM10 และ PM2.5 ซึ่งสารสไตรีนโมโนเมอร์มีฤทธิ์ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ ปวดศีรษะ มึนงง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ และมึนเมา หากได้รับสารพิษปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการหมดสติและเสียชีวิตได้ หรือถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง จะรู้สึกระคายเคืองผิว ทำให้ผิวแดง แห้ง และแตก ซึ่งสารสไตรีนโมโนเมอร์ยังเป็นสารที่อาจก่อให้เป็นมะเร็งได้อีกด้วย จากทั้งละอองไอระเหยของสไตรีน และสารเคมีที่เกิดจากการเผาไหม้ หากเกิดการรวมตัวกับเมฆฝน หรือลอยในอากาศแล้วตกลงมาเพราะฝน ไม่ว่าจะในรูปแบบใด แม้จะลดมลพิษในอากาศได้ แต่ก็ยังก่อให้เกิดความเสียหายมากมายในส่วนภาคพื้นดิน เนื่องจากสารพิษที่จะลงมาปนเปื้อนบนพื้นผิวและในแหล่งน้ำต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่น้ำใต้ดิน เพราะสารนี้ไม่ค่อยจับตัวกับดินค่ะ และการที่ฝนตกลงมาก็ไม่ช่วยในการดับไฟด้วย เพราะตัวสไตรีนนี้เบากว่าน้ำ ถึงจะฉีดน้ำไปบนสไตรีน ไฟก็จะยังลุกไหม้ และอาจลุกลามมากกว่าเดิม การฉีดน้ำเป็นฝอยเพื่อควบคุมไฟที่เกิดขึ้นจึงมักมีจุดประสงค์เพื่อลดอุณหภูมิและควัน วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการดับไฟที่เกิดขึ้นจึงเป็นการฉีดโฟมที่เบากว่าปิดไปบนผิวสไตรีน เพื่อไม่ให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงไฟได้และเรามาสรุปกันดีกว่าว่า ฝนที่เกิดขึ้นเรียกว่าฝนอะไรกันแน่ จากการวิเคราะห์ของผู้เขียนแล้ว ฝนที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากการรวมตัวของฝนกับสารที่เป็นกรด จึงสามารถยืนยันคำกล่าวของอธิบดีกรมควบคุมมลพิษได้ แต่อย่างไรก็ตาม ฝนที่เกิดขึ้นก็อาจปนเปื้อนสารพิษอื่นๆที่ไม่ใช่กรดอยู่ดี ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำฝนและระมัดระวังในการบริโภคน้ำมากขึ้นแม้จะเป็นน้ำจากใต้ดินค่ะ ขอบคุณข้อมูลจาก : webdb.dmsc.moph.go.thเครดิตภาพ : ภาพหน้าปก ภาพโดย Khusen Rustamov จาก Pixabayภาพประกอบที่ 1 ภาพโดย Hands off my tags! Michael Gaida จาก Pixabayภาพประกอบที่ 2 ภาพโดย Greg Bierer จาก Pixabayภาพประกอบที่ 3 ภาพโดย David Mark จาก Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !