“คุณค่าของชีวิต จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แค่วันนี้ยังมีชีวิตอยู่ ก็ดีชิบหายแล้ว” นี่คือคำพูดของ “บู” เด็กมัธยมที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจนคิดฆ่าตัวตาย แต่สิ่งที่มาหยุดความ(อยาก)ตายคือกีฬา "สเก็ตบอร์ด" รวมทั้งแก๊งสเก็ตบอร์ดที่มีหัวหน้าแก๊งอย่าง "ไซม่อน" (จริง ๆ ชื่อใบหม่อน แต่อยากมีชื่ออินเตอร์ จากใบหม่อนกลายเป็นไซม่อนซะเลย) และ "หมอเบลล์" จิตแพทย์ฝึกหัดที่มองบูเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่ง และทั้งหมดนี้คือตัวละครหลักจากซีรี่ส์วัยรุ่นของค่าย GDH เรื่อง "SOS skate ซึม ซ่าส์" หนึ่งใน Project S the series เป็นโปรเจ็คที่นำเอาปัญหาวัยรุ่นมาเล่าผ่านกีฬาต่าง ๆ ซึ่งกีฬาเป็นเสมือนแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของตัวละคร ในบทความนี้จะหยิบซีรี่ส์เรื่อง "SOS skate ซึม ซ่าส์" และประเด็นโรคซึมเศร้ามาวิเคราะห์ในเชิงจิตวิทยา ต้องขออนุญาตสปอยล์เนื้อเรื่อง เนื่องจากต้องนำเนื้อหามาวิเคราะห์เบื้องหลังพฤติกรรมของตัวละคร หากทำให้คุณผู้อ่านที่ยังไม่ได้รับชมซีรี่ส์เรื่องนี้ต้องเสียอรรถรส ตะวันต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ* ในวันที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดี "บู (นำแสดงโดย เจมส์ ธีรดนย์ หรือ เจมมี่เจมส์)" เป็นเด็กที่โตมากับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เนื่องจากแม่เสียตั้งแต่ยังเด็ก (รวมทั้งย่าที่บูผูกพันธ์) เขามีพ่อที่เก่งและเข้มงวดเรื่องเรียน พ่อบอกว่าทุกวิชาต้องผ่าน 80% ถ้าวิชาไหนไม่ถึงเกณฑ์ ต้องนั่งคัดคำตอบวิชานั้นให้เต็มสมุด 1 เล่ม เวลาเขาได้คะแนนดี พ่อก็ไม่เคยชื่นชมเขา ไม่เคยแสดงออกว่าภูมิใจในตัวเขา ทำให้เขามองตัวเองในแง่ลบและเกลียดตัวเองที่ไม่ดีพอสำหรับพ่อ บวกกับบูไม่ค่อยมีเพื่อนที่โรงเรียน ด้วยความที่เขาเป็นคนเงียบ ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น เขาจึงไร้ตัวตนในสังคมเพื่อน ๆ แถมยังโดนรังแกอีก ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยทางสังคม (social) ที่มีส่วนทำให้บูเป็นโรคซึมเศร้า (เดี๋ยวเราจะมาพูดถึง 3 ปัจจัยที่ทำให้คนเป็นโรคซึมเศร้าในช่วงท้าย ๆ บทความ) แต่บูก็ต่อสู้กับสิ่งที่เขาเป็นด้วยการเขียนคำคมที่(ใคร ๆ ก็บอกว่า)ให้กำลังใจแปะติดผนัง เสิร์ชหาข้อมูลโรคซึมเศร้าและพยายามบอกพ่อว่าเขาป่วย แต่พ่อกลับพูดประมาณว่า "ก็แค่เศร้า ไม่เห็นต้องไปหาหมอเลย บูต้องรู้จักจัดการอารมณ์ของตัวเองให้ได้" นั่นทำให้บูมีอะไรก็ไม่กล้าบอกพ่ออีกเลย จนวันหนึ่งบูได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญด้วยการพาตัวเองไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่ปรากฎว่าเขาไม่สามารถพบหมอได้ เพราะเขาอายุยังไม่ถึง 18 ปี จะต้องมีผู้ปกครองพามาหรือเซ็นอนุญาตให้รักษา ในวันนั้นบูได้เจอกับ "หมอเบลล์ (นำแสดงโดย แพต-ชญานิษฐ์)" จิตแพทย์ฝึกหัด และบูก็เดินดุ่ม ๆ เข้าไปถามหมอเบลล์ว่า "สเก็ตบอร์ดช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้มั้ย ผมเสิร์ชหาในเน็ตไม่เจอ" * ในวันที่รู้สึกมีแรงบันดาลใจ และแล้ววันหนึ่งในขณะที่บูกำลังรู้สึกดาวน์ บูก็ได้เจอแก๊งสเก็ตบอร์ดที่แอบมาเล่นในโรงเรียนเขา การปรากฎตัวของ "ไซม่อน (นำแสดงโดย โทนี่ รากแก่น)" หัวหน้าแก๊งสเก็ตบอร์ดที่หัวเขียวและมีความเฟี้ยวฟ้าวในตัว (เห็นแล้วนึกถึง G-Dragon เลย) ไซม่อนที่เห็นบูแอบยืนมองดูเดอะแก๊งเล่นสเก็ตบอร์ดเกิดนึกสนุก เอาสเก็ตบอร์ดตัวเองให้บูลองเล่น บูรู้สึกดีและยิ้มได้เมื่อได้เล่นสเก็ตบอร์ด ด้วยความที่ไซม่อนตั้งใจจะแกล้งบูเรื่องพนันสเก็ตบอร์ด แต่พอเห็นบูดูเอาจริงเอาจังกับการเล่นสเก็ตบอร์ด ไซม่อนก็เลยแบบ "มาไอ้น้อง พี่จะสอนให้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยน (ไม่สปอย์ตรงนี้ อยากรู้ไปดูเอาเองเด้อ)" จากที่ตอนแรกเล่นไม่เป็นเลย พอเริ่มเล่นเป็น บูก็เริ่มสนุกและทุกครั้งที่ทำท่าใหม่ ๆ ได้ บูจะรู้สึกมีแรงบันดาลใจ สเก็ตบอร์ดทำให้บูได้ออกกำลังกายและเป็นกิจกรรมไม่กี่อย่างที่เขาทำได้ดี * ในวันที่รู้สึกว่าตัวเองห่วย! "ผมทำไม่ได้ ผมมันห่วย!" นี่คือคำพูดติดปากของบูเวลาที่ทำอะไรไม่ได้ โรคซึมเศร้าทำให้ผู้ป่วยมองตัวเองในแง่ลบและมองสิ่งที่กำลังเผชิญในแง่ร้าย สาเหตุมาจากสารเคมีในสมองไม่สมดุล เป็นปัจจัยทางชีวภาพ (bio) บูจึงเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ขี้วิตกกังวล ท้อง่าย ร้องไห้เก่ง เวลารู้สึกดาวน์หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย บูจะชอบเดินหนีออกไปอยู่คนเดียวซึ่งดาดฟ้าคือที่หลบภัยของบู* ในวันที่รู้สึกผิดและโทษตัวเอง มันมีเหตุการณ์ที่หมอเบลล์ถูกไล่ออกจากการเป็นจิตแพทย์ฝึกหัด เนื่องจากหมอเบลล์เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับบูมากเกินไปในสายตาคนเป็นพ่อ แต่สิ่งที่หมอเบลล์ทำก็ไม่ถูก จิตแพทย์ไม่ควรถลำลึกไปกับความรู้สึกของผู้ป่วย (หมอเบลล์มี sympathy หรือความรู้สึกสงสาร เห็นใจ อินกับผู้ป่วยมากเกินไป ซึ่งจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญจะมี "Empathy" หรือความเข้าอกเข้าใจ คือจะไม่ให้ตัวเองคล้อยตามความรู้สึกผู้ป่วย) แต่เนื่องจากหมอเบลล์มีปมในใจบางอย่าง (ปมนี้ส่งผลให้ตัวละครนี้เลือกที่จะเป็นจิตแพทย์ อยากรู้ว่าปมอะไร ต้องดู) ทำให้หมอเบลล์อินไปกับเรื่องราวของบู ทำให้เสียหน้าที่การงาน เมื่อบูรู้เข้าจึงโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุทำให้หมอเบลล์ถูกไล่ออก อีกเหตุการณ์หนึ่งที่บูรู้สึกผิดมากคือเหตุการณ์ที่ไซม่อนเกิดอุบัติเหตุระหว่างถ่ายคลิปกระโดดจากลานยักษ์จนทำให้เอ็นเข่าฉีก เล่นสเก็ตบอร์ดไม่ได้ไปอีกหลายเดือน ความจริงเหตุการณ์นี้บูมีส่วนผิดอยู่เหมือนกัน เพราะบูเดินดุ่ม ๆ เข้าไปในจังหวะที่ไซม่อนกระโดดลงมาพอดี ไซม่อนโกรธบูมากที่ทำให้เขาเล่นสเก็ตบอร์ดไม่ได้ไปอีกนาน คนอื่น ๆ ในแก๊งก็เริ่มไม่ชอบบู บูรู้ว่าตัวเองผิดจึงเข้าไปขอโทษ ไซม่อนจึงหลุดพูดประโยคที่บาดใจคนเป็นโรคซึมเศร้าประมาณว่า "เพราะเป็นไอ้โรคนี้ ก็เลยทำอะไรไม่ผิดงั้นเหรอ!?" เมื่อคนที่บูรักและเคารพไม่ให้อภัยเขา เขาจึงรู้สึกแย่กับตัวเองที่เป็นต้นเหตุ แล้วบูก็เอาเรื่องหมอเบลล์กับเรื่องไซม่อนมาขมวดรวมกัน จนทำให้ตัวเองดาวน์ถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย!* ในวันที่รู้สึกเจ็บปวดกับความรักเพราะถูกหักอก "ใบเฟิร์น (นำแสดงโดย แพรว นฤภรกมล)" เป็นน้องสาวของไซม่อน เป็นผู้หญิงที่ทำให้บูตกหลุมรักด้วยการบอกว่าชอบบูแล้วก็เป็นฝ่ายจูบบูก่อน (จูบดูดดื่มมากแม่) ทำให้บูถลำลึกไปไกลจนขอเฟิร์นเป็นแฟน แต่เฟิร์นปฏิเสธ ประมาณว่าไม่อินกับคำว่าแฟน ไม่อยากมาคอยหึงหวง เป็นแบบเดิมแหละดีแล้ว บวกกับบูเห็นเฟิร์นไปเที่ยวกับแฟนเก่า บูจึงเฮิร์ทหนักมากถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย เพราะรู้สึกตัวเองไม่มีค่าพอ รู้สึกไม่เหลือใคร ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ความเจ็บปวดนี้ยิ่งตอกย้ำว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ* ในวันที่รู้สึกไม่ไหวจนต้องทำร้ายตัวเอง เมื่อปัญหาถาโถมจนไม่เจอทางออก ทั้งเรื่องพ่อ เรื่องเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก ทำให้คนเป็นโรคซึมเศร้าอย่างบูทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยการใช้คัตเตอร์กรีดแขนขา เพื่อระบายความเจ็บปวดทางใจไปสู่ทางกาย บูไม่ได้ทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ (อย่างที่ใครหลายคนมองผู้ป่วยโรคซึมเศร้าว่าชอบเรียกร้องความสนใจ) เพราะบูซ่อนบาดแผลไม่ให้ใครเห็น การทำร้ายตัวเองทำให้ความเจ็บปวดใจทุเลาลงไปได้บ้าง* ในวันที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ความรู้สึกผิดบวกกับความรู้สึกไม่เป็นที่ต้องการ ทำให้บูอยากจบชีวิตตัวเอง สัญญาณ SOS ของบูคือการคืนสเก็ตบอร์ดพร้อมจดหมายที่เขียนถึงไซม่อนประมาณว่า "ช่วงเวลาที่อยู่กับพีี่ ผมมีความสุขมาก ขอบคุณจริง ๆ" หนึ่งในสัญญาณที่คนคิดฆ่าตัวตายจะทำคือ การส่งคืนหรือแจกจ่ายของที่ตัวเองรักพร้อมจดหมายลาตาย การทำพินัยกรรม หรือพูดทำนองสั่งลา ก่อนที่บูจะฆ่าตัวตาย บูได้แสดงออกว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว ไม่เศร้าแล้ว บูกินยาตามหมอสั่งนะ แต่ความจริงแล้วบูไม่ได้กินยา บูแอบเก็บสะสมยาเพื่อที่จะใช้ฆ่าตัวตาย อีกหนึ่งสัญญาณที่คนคิดฆ่าตัวตายบางคนแสดงออกมาคือการเปลี่ยนอารมณ์หรือพฤติกรรมแบบสุดขั้ว จากที่ซึมเศร้า ไม่พูดไม่จา มาอีกวันคือพูดเจื้อยแจ้ว หัวเราะร่าเริง ทำเหมือนตัวเองหายเป็นปกติแล้ว เพื่อซ่อนความคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งบูก็ทำให้ทั้งพ่อและจิตแพทย์เชื่อว่าบูดีขึ้นแล้ว แต่ความจริงแล้วบูกำลังวางแผนฆ่าตัวตาย!* ในวันที่ฟื้นจากความตายและพบกับชีวิตใหม่ที่มีคนรอบข้างเข้าใจ ไซม่อนกับพ่อมาเจอบูที่กินยาเกินขนาด จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล หมอทำการล้างท้องจนบูปลอดภัย พ่อมานอนเฝ้าและดูแลบูอย่างดี พ่อที่เคยเข้มงวดและไม่เข้าใจบู เหตุการณ์นี้ได้ทำให้พ่อพยายามปรับตัวเพื่อที่จะทำความเข้าใจลูกตัวเอง พ่อยอมรับในตัวบู และทำให้บูรู้ว่าบูสำคัญสำหรับพ่อ เมื่อพ่อหรือแม่ที่เป็นคนใกล้ชิดที่สุดเข้าใจผู้ป่วย นั่นทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคนี้ บูกับเฟิร์นปรับความเข้าใจกัน (แม้บูจะไม่อยากเข้าใจสักเท่าไหร่ ก็แหม่ มาบอกว่าชอบ มาจูบดูดดื่ม แต่บอกว่าเป็นได้แค่เพื่อนกัน อิหยังว้า) ไซม่อนให้อภัยแล้วกลับมาคุยกับบู บูกลับมาเล่นสเก็ตบอร์ดเหมือนเดิม เมื่อปัจจัยทางสังคม (social) ซึ่งคือพ่อและเพื่อน ๆ เข้าใจและยอมรับสิ่งที่บูเป็น บูกลับมาดูแลตัวเองด้วยการกินยาตามที่หมอสั่งเพื่อที่จะทำให้ปัจจัยทางชีวภาพ (bio) คือสารเคมีในสมองกลับมาสมดุล การที่บูกลับมาเล่นสเก็ตบอร์ดซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักและทำได้ดี ทำให้เขามีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและมองเห็นสิ่งดี ๆ ในตัวเองว่าฉันก็ทำได้นะ ฉันก็มีดีนะ ฉันเท่ชะมัดเลย ความสามารถพิเศษหรือกิจกรรมที่เราทำได้ดีจะส่งเสริมปัจจัยทางจิตใจ (psycho) ให้เรามีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่เราชอบและมองเห็นคุณค่าของตัวเอง อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าตอนท้ายจะมาพูดถึง 3 ปัจจัยที่ส่งผลให้คนเราเป็นโรคซึมเศร้าหรือมีอาการป่วยทางจิต ซึ่งก็แอบสอดแทรกในเนื้อหาซีรี่ส์ที่วิเคราะห์ไว้บ้างแล้ว แต่จะมาขยายความให้เข้าใจกันมากขึ้น1. ปัจจัยทางชีวภาพ (bio) คือปัจจัยที่มาจากร่างกาย ได้แก่ พันธุกรรม โครงสร้างสมอง สารสื่อประสาทในสมอง เช่น ในผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะมีสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (serotonin) ต่ำ หรือบางคนที่ป่วยเพราะได้รับพันธุกรรมมาจากพ่อแม่ เป็นต้น2. ปัจจัยทางจิต (psycho) คือปัจจัยที่มาจากจิตใจ ได้แก่ อารมณ์ ความคิด ทัศนคติ การมองโลก เช่น เป็นคนชอบโทษตัวเอง มองโลกในแง่ร้าย หรือเกิดเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ เช่น อยู่ในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง ถูกทารุณกรรมทั้งทางกายและจิตใจ ถูกคุกคามทางเพศ สูญเสียบุคคลซึ่งเป็นที่รัก อกหัก ตกงาน เป็นหนี้ เป็นต้น3. ปัจจัยทางสังคม (social) คือปัจจัยที่มาจากสภาพแวดล้อมและคนรอบข้าง ได้แก่ ครอบครัว ญาติ เพื่อน แฟน คนในชุมชน เป็นต้น ในบทความนี้ที่ตะวันตั้งใจเขียนวิเคราะห์และสอดแทรกความรู้ทางจิตวิทยา เพราะมีจุดประสงค์อยากมีส่วนช่วยให้คนในสังคมได้มีความรู้ทางจิตวิทยาและเข้าใจเบื้องหลังความคิดของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือผู้ที่ป่วยทางจิต ซึ่งตะวันมองว่าการป่วยทางจิตใจนั้นมันส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง เนื่องมาจากระบบความคิดที่ผิดปกติ สภาวะอารมณ์ที่ไม่มั่นคง ส่งผลถึงพฤติกรรมการแสดงออกที่ไม่ปกติ อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อตัวเองและสังคมในบางราย ตะวันเห็นว่าปัจจุบันนี้มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้ารวมถึงโรคทางจิตเวชอื่น ๆ จากหลาย ๆ ช่องทาง การศึกษาความรู้เกี่ยวกับโรคทางจิตเวชจะทำให้เรารู้เท่าทันโรคนี้ เพื่อคอยสังเกตตัวเองและคนรอบข้าง เพื่อช่วยกันหาทางรักษา (ซึ่งมีหลากหลายวิธี ทั้งกินยา การพูดคุยปรับทัศนคติ การทำจิตบำบัด) หากคุณรู้สึกเครียด ซึมเศร้า หรือมีปัญหาที่หนักอกหนักใจ พูดกับใครไม่ได้ อยากปรึกษา อยากเล่าระบาย โทรหาสายด่วนสุขภาพจิตได้นะ เบอร์ 1323 หรือทางเพจเฟซบุ๊ก "1323 ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต" การหาคนพูดคุยเล่าระบายคือทางออกแรกที่เราสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สุดท้ายนี้ต้องขอชื่นชมนักแสดงและทีมงานซีรี่ส์เรื่อง "SOS skate ซึม ซ่าส์" ที่นำเรื่องผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามาเล่าให้คนดูเข้าใจได้ง่ายขึ้นผ่านกีฬาสเก็ตบอร์ด (มีทริคการเล่นสเก็ตบอร์ดด้วยนะ) เจมส์แสดงได้สมจริงมาก โดยเฉพาะฉากกินยาแล้วอ้วกออกมา (คือดูแล้วอยากจะอ้วกตามเลย 555) ถ้าใครยังไม่เคยดู ไปหาดูได้ใน Line TV มีทั้งหมด 8 EP. ตอนท้ายมีบทสัมภาษณ์จิตแพทย์มาให้ความรู้เรื่องโรคซึมเศร้าด้วยนะ เดี๋ยวบทความหน้าจะมาเขียนวิเคราะห์เรื่อง "side by side พี่น้องลูกขนไก่" เกี่ยวกับเด็กออทิสติก ขอบคุณนะที่อ่านบทความของตะวันจนจบ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าเด้อ "ถ้าชอบก็กดแชร์ ถ้าแคร์ก็กดติดตามได้นะจ๊ะ ^^"---------------------------------------------------------------------------------------------ตามไปอ่านบทความอื่น ๆ ของตะวันซันชายน์ได้ที่ >> creators.trueid.net/@25346----------------------------------------------------------------------------------------------ขอบคุณภาพประกอบ >> ภาพปก canva, pixabay, Youtube: Official Trailer 'Project S The Series | SOS skate ซึม ซ่าส์' / pic 1-18 Youtube: Official Trailer 'Project S The Series | SOS skate ซึม ซ่าส์' / pic 19 1323 ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต