“ทำไมฉันทำอย่างนี้ รู้อย่างนี้น่าจะทำแบบนั้น” “ชีวิตฉันมันช่างล้มเหลว” “มันแย่มาก ครั้งหน้าฉันจะลองวิธีอื่น” “ฉันยังไม่ดีพอ” เครดิตภาพ https://pixabay.com/images/id-4782696/ คำพูดที่เต็มไปด้วยข้อความเชิงตำหนิติเตียน จมอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดในอดีต การเปรียบเทียบเส้นทางชีวิตความสำเร็จของตัวเองกับบุคคลอื่น ความรู้สึกเสียใจในสิ่งทำลงไป เสียดายในสิ่งที่ไม่ได้ตัดสินใจทำ ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดอันเกิดจากการทำงาน การเรียน หรือการสอบ ส่งผลให้เกิดความรู้สึกกล่าวโทษตัวเองอยู่บ่อยครั้ง (Self-Criticism) จนคุณไม่กล้าที่จะลองทำสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น หลีกเลี่ยงแสดงความคิดเห็นของตัวเอง คิดว่าความเห็นคุณน่าเบื่อเกินกว่าจะนำมาถกเถียงกัน คุณไม่เชื่อในความสามารถของตัวเอง (Self-Doubt) ถ้าสมมติว่าทำพลาด กังวลอาจจะถูกล้อเลียน เป็นต้น เครดิตภาพ https://pixabay.com/images/id-389944/ บ่อความคิดกล่าวตำหนิตัวเอง (Self-blame) ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดที่มีผลมาจากปัจจัยทางจิต (Emotional Pain) เช่น ความเครียด (Stress) ความวิตกกังวล (Anxiety) ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง (Low Self-Esteem) มองเห็นคุณค่าในตัวเองลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ จนคุณกลายเป็นคนที่ไม่เรียนรู้จะรักตัวตนของตัวคุณเองอีกต่อไปแล้ว ก่อนที่จะกลายเป็นอย่างนั้น เราลองมาใจดีกับตัวเองขึ้นอีกสักนิดกันดีไหม (Self-Compassion) ประกอบด้วย 3 หลักการของ Kristin D. Neff ดังนี้ 1.เมตตาปราณีต่อข้อบกพร่องและความผิดพลาด ถือเป็นบทเรียนชีวิต (Self-kindness) 2.เรียนรู้ที่จะโอนอ่อนกับจิตใจมากขึ้น (Common Humanity) 3.ถอยหนึ่งก้าวมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และเดินหน้าสู่ปัจจุบันอย่างมีสติ (Mindfulness) เครดิตภาพ https://pixabay.com/images/id-4752400/ ลองกล่าวชมเชยตัวเองบ้าง (Positive Messages) เช่น “คุณกล้ากว่าที่คุณเชื่อ, แข็งแกร่งกว่าที่คุณเห็น, และฉลาดกว่าที่คุณคิด ถ้ามีข้อผิดพลาดคุณอย่ากล่าวโทษตัวเอง จงตระหนักไว้ว่าไม่มีใครที่ไร้ที่ติไปทุกอย่าง” หรืออีกวิธีการฝึกให้เรายอมรับและเข้าใจตัวเอง เรียกว่า จดหมายถึงตัวฉัน เพื่อสำรวจความมีเมตตาในตนเองผ่านการเขียนจดหมาย สิ่งที่ตกผลึกอยู่ในวังวนความคิด ห้วงอารมณ์ ความรู้สึก หรือเสียงวิจารณ์ภายใน (Critical Inner Voice) 1.สำรวจข้อบกพร่องอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ หรือสิ่งที่ไม่ชอบเกี่ยวกับตัวเอง เขียนอย่างละเอียดว่าระหว่างสำรวจตัวเองคุณรู้สึกอย่างไร 2.จินตนาการถึงเพื่อนคนที่รักคุณอย่างไม่มีเงื่อนไขว่า เพื่อนคุณมองเห็นจุดแข็ง ข้อปรับปรุง สามารถยอมรับข้อบกพร่องในตัวคุณ ให้อภัยในเรื่องไม่ดีที่คุณเคยทำ พวกเขาตำหนิที่คุณรู้สึกไม่มั่นคงหรือรู้สึกตัวเองบกพร่องหรือไม่ หรือสนับสนุนคุณในแบบที่คุณเป็นเสมอ 3.เมื่อเขียนจดหมายเสร็จ วางจดหมายไว้ และพาตัวเองออกไปผ่อนคลายข้างนอกสักพัก จากนั้นค่อยกลับมาอ่านจดหมายที่ได้รับจากเพื่อนรักที่เขียนถึงคุณอย่างตั้งใจ ปล่อยให้ถ้อยคำเหล่านั้นปลอบประโลมคุณ ซึมซับเข้าไปในใจ จนกลายเป็นความเห็นอกเห็นใจที่คุณมีต่อตัวคุณเอง เครดิตภาพ https://pixabay.com/images/id-591576/ หากคราวที่คุณรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ หวังว่าจดหมายจากคนที่คุณรักอย่างไม่มีเงื่อนไขจะช่วยเติมพลังให้คุณได้ ไม่เป็นไรหรอกที่บางครั้งคุณจะรู้สึกไม่โอเค ความผิดพลาด หรือความไม่สมบูรณ์แบบเองก็เป็นส่วนหนึ่งในธรรมชาติมนุษย์ เรามาเรียนรู้ที่จะเข้าใจในความไม่สมบูรณ์แบบนี้ เปิดใจยอมรับสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว มองทุกอย่างด้วยสติ และเมตตาต่อตัวเองกันเถอะ Be kind to yourself a little more every day. =) อ้างอิงข้อมูลจาก: https://self-compassion.org/the-three-elements-of-self-compassion-2/#3elements https://positivepsychology.com/self-compassion-exercises-worksheets/ ขอบคุณภาพปกจาก: https://pixabay.com/images/id-2979107/