จิบชา อย่างราชา ที่อินเดีย “ไม่รัก ก็เกลียดเลย” เป็นประโยคที่ใคร ๆ มักจะใช้พูดถึงอินเดีย ฉันมีเพื่อนคนอินเดีย และอยากไปเที่ยวอินเดียมานานแล้ว จนวันหนึ่งได้เดินทางไปอินเดียสมใจ แต่ฉันรู้ว่าตัวเอง ไม่ใช่คนที่ทนกับการท่องเที่ยวแบบสมบุกสมบันมากนัก ฉันจึงวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบ เที่ยวเมืองมุมไบครั้งนี้ ฉันเลือกพักย่านที่เรียกว่า บันดรา เป็นย่านที่คนมีอันจะกินอาศัยอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังเห็นความแตกต่างระหว่างคนจนและคนรวยอยู่ประปราย ฉันจ้างคนขับรถ เขาเป็นคนขับรถที่ดี มีมารยาท รถเขาสะอาด ทำให้การเดินทางไปไหนต่อไหน ไม่ได้ความรู้สึกอินดี้เหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นมากนัก เรามีเวลาในมุมไบไม่นาน ฉันเลือกที่จะเที่ยวแบบสบาย ชิมอาหารอร่อยในสถานที่สวย ๆ ระหว่างทาง คนขับรถก็ชี้ชวนให้ฉันดูถนนหนทาง เสียงแตรบนท้องถนน ทำเอาฉันเครียด รวมทั้งขอทานที่เข้ามาประชิดกระจกรถ และถึงแม้จะเป็นขอทานหน้าตามอมแมม แต่กลับพูดภาษาอังกฤษฉะฉาน ฉันเลือกที่จะไปทาน Afternoon Tea ที่โรงแรม The Taj Mahal Palace เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียง มีผู้นำจากหลายประเทศมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ และโรงแรมนี้ก็เคยมีการก่อการร้ายเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้การดูแลค่อนข้างเข้มงวด การดื่มชาและทานของว่างครั้งนี้ เขาไม่รับการจองโต๊ะ พวกเราเลยได้มีเวลามองวิวรอบ ๆ โรงแรม ระหว่างรอ ถ้าหากเรามาเพียงสองคน เรามีโอกาสได้นั่งริมหน้าต่าง ที่มองเห็นวิวด้านนอก มองเห็น Gateway of India และทะเล แต่ครั้งนี้เรามากันหลายคน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศภายในห้องอาหารอย่างดี เสียงบรรเลงเปียโน พร้อมกับการทานของว่าง ช่างเข้ากัน ของว่างที่เสิร์ฟคู่กับชา หรือกาแฟจะมีทั้งแซนวิช เค้ก แบบสไตล์ยุโรป แต่สิ่งที่ทำให้ฉันอยากมาที่นี่คือของว่างที่เรียกว่า Chaat คือของกินเล่นของอินเดียนั่นแหละ ฉันชอบ ปานิปุริ ที่สุด เป็นแป้งกรอบ ๆ เคาะให้แตกออกเป็นรูปถ้วย แล้วใส่เครื่องเคียงลงไป นอกจากนั้นก็มีเบอร์เกอร์แบบอินเดีย ของทอดแบบต่าง ๆ และชา กาแฟ เติมไม่อั้น ฉันประทับใจทุกอย่างสำหรับการบริการ รสชาติอาหาร และบรรยากาศของที่นี่ ราคาก็ราว ๆ พันกว่าบาทต่อคน ซึ่งสำหรับโรงแรมระดับนี้ ฉันถือว่าไม่แพงเลย ทานเสร็จเราก็เดินข้ามถนนไปชม Gateway of India ใกล้ ๆ ระหว่างทางเดิน ฉันเดินผ่านผู้คนที่ดูสกปรกมอมแมม คนขายอาหารข้างทางหรือบนพื้น ขยะเกลื่อนกลาด ฉันมองไปอีกฟากของถนน มองเห็นตึกสวยงามของโรงแรมที่ฉันเพิ่งไปทานอาหารมา ทำให้ฉันยิ่งเข้าใจคำว่าความแตกต่างคืออะไร การมาอินเดียครั้งนี้ ทำให้ฉันได้รู้จักตัวเองมากขึ้นไปอีก ฉันรู้ว่า ฉันชอบการเดินทางแบบไหน ฉันไม่ได้ไปทัวร์สลัมแบบที่หนังสือท่องเที่ยวอินเดียต่างแนะนำ เพราะสำหรับฉัน การท่องเที่ยวคือสิ่งที่จะทำให้ฉันผ่อนคลาย สบายตาและสบายใจ ฉันสงสารและเห็นใจคนจนในอินเดีย และทุกคนบนโลก แต่สิ่งเดียวที่ฉันจะทำได้คือ ดูแลตัวเองให้ดีด้านการเงิน สุขภาพ เพราะที่สุดแล้ว ก็คงไม่มีใครดูแลฉันได้มากกว่าตัวเอง “ไม่รัก ก็เกลียดเลย” ประโยคนี้กลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง ใช้คำว่า รัก หรือเกลียดกับอินเดีย ก็ดูจะสุดโต่งไปหน่อย เอาเป็นว่า ถ้าใคร อยากรู้จักตัวเองมากขึ้น ก็ลองมาอินเดียแล้วกัน จะมาแบบลุย ๆ ฉันก็ไม่ห้าม หรือจะมาแบบสบาย ๆ กินหรูอยู่แพงแบบฉัน ก็มาได้ เพราะยังไง อินเดียก็จะทำให้คุณได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ดี "ภาพปกและภาพประกอบ โดยผู้เขียน"