ปัจจุบันสถานการณ์ "COVID-19" ได้ลุกลามไปทั่วโลก ทำให้มีการ "ล็อกดาวน์" ในหลายประเทศซึ่งส่งผลด้านลบทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก หลายธุรกิจจึงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบไปด้วยก็คือ ธุรกิจจิวเวลรี่นั่นเอง แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งชีวิตที่อยู่ในธุรกิจนี้เช่นกัน ในสถานการณ์ปกติ ประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิต และส่งออกอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว แต่ด้วยสถานการณ์ขณะนี้ประเทศคู่ค้าสำคัญอย่าง สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง ยุโรป กำลังวิกฤติอย่างหนัก ทำให้การสั่งซื้อลดลงอย่างมาก หลายบริษัทไม่มีออเดอร์ใหม่ในขณะที่ออเดอร์เก่าไม่สามารถส่งออกได้ หรือบางบริษัทถูกยกเลิกหรือระงับออเดอร์ไปก่อน จนขณะนี้บริษัทหลาย ๆ แห่งต้องออกมาตรการต่าง ๆ เช่น ลดจำนวนพนักงานด้วยการจ้างออกบ้าง ปรับลดเงินเดือนพนักงาน 50% บ้าง บางแห่งต้องหยุดพักกิจการกันเลย มีตั้งแต่ปิดทำการ 1-3 เดือน ไปจนถึง 6 เดือน บางแห่งก็ทำท่าจะปิดถาวรเพราะแบกรับภาระเงินเดือนพนักงานไม่ไหว บริษัทที่ผมทำงานเลือกใช้วิธีการลดเงินเดือนพนักงานลงเหลือ 75% แต่เปิดทำการตามปกติ แต่เพิ่มวันหยุดให้ แล้วแต่ทางบริษัทจะแจ้งวันหยุดให้พนักงานทราบ มีการบังคับให้ใช้วันลากิจ ลาพักร้อน มาใช้ทดแทน แล้วก็ไม่มีกำหนดสิ้นสุดของการลดเงินเดือนอีกด้วย แม้ว่าขณะนี้ทั้งภาครัฐ ภาคธนาคาร ภาคสมาคมที่เกี่ยวข้องกับจิวเวลรี่ ได้มีนโยบายออกมาช่วยเหลือ ด้วยการปล่อยเงินกู้ เพื่อเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ ซึ่งคงทำให้บริษัทเหล่านี้พอจะเอาตัวรอดไปได้ แต่ในส่วนของพนักงานตัวเล็ก ๆ นั้นกลับไม่ได้รับการช่วยเหลือที่มากพอ เขาเหล่านี้จะทำอย่างไร พนักงานในวงการนี้ มีทั้ง พนักงานเงินเดือน ที่ตอนนี้โดนจ้างออกบ้าง ลดเงินเดือนบ้าง บริษัทหยุดงานบ้าง ซึ่งพนักงานส่วนนี้จะอยู่ในระบบประกันสังคม พนักงานกินแบ่ง (Subcontract) ซึ่งรวมถึงบรรดาช่างนอก ที่มารับงานไปทำที่บ้านแล้วมีลูกน้อง พนักงานและช่างนอก รวมถึงลูกน้องที่บ้านเหล่านี้ 90% จะอยู่นอกระบบประกันสังคม ทำให้เวลาบริษัทไม่มีงานให้ก็จะขาดรายได้ พูดได้ว่าตกงานแบบกลาย ๆ แถมไปรับเงินว่างงานของประกันสังคมก็ไม่ได้อีก แต่ก็ยังสามารถรับเงินเยียวยา5000 จากรัฐบาลได้ แต่บางคนบริษัทก็ใส่ชื่อเข้าระบบประกันสังคมให้ ระบุตาม ค่าแรงขั้นต่ำซึ่งทำให้มีสถานภาพเป็นพนักงานเงินเดือนที่ไม่มีเงินเดือนจริงๆ พองานไม่มีก็ขาดรายได้ จะยื่นรับเงินเยียวยา 5000 ก็ไม่ได้เพราะเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทำให้เดือดร้อนมาก ๆ ส่วนบางบริษัทที่มีลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ที่อเมริกาก็ถึงกับต้องปิดกิจการชั่วคราว โดยที่พนักงานถูกบริษัทบังคับให้ยอมลดเงินเดือน ตั้งแต่ 50% จนถึง 75% บางที่ 25% ด้วยซ้้ำ ถ้าพนักงานไม่เห็นด้วยก็ให้ไปร้องเรียนเอาทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น พนักงานต้องรวมตัวกันไปติดต่อประกันสังคม แต่เรื่องก็เงียบไป แล้วก็ไม่รู้ว่าถ้าถึงกำหนดเปิดงานแล้ว จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกหรือเปล่า ตอนนี้มีพนักงานจิวเวลรี่ตกงานเป็นจำนวนมาก ที่ยังมีงานก็โดนลดเงินเดือน พวก (Subcontract) ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีงานไม่มีสวัสดิการรองรับ พวกเขาเหล่านี้กำลังรอคอยใครสักคนที่จะมาช่วยต่อลมหายใจของพวกเขาที่แผ่วลงไปทุกทีทุกที ภาพปกจาก pixnio ภาพประกอบ 1 จาก pixnio ภาพประกอบ 2 และ 3 โดยผู้เขียน