ในโลกไร้พรมแดนปี ค.ศ. 2020 องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีแขนงต่างๆ ได้รับการพัฒนาต่อยอดตลอดเวลา และประเทศหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษก็คือ จีน ทุกวันนี้จีนแสดงศักยภาพของตนเองในการพัฒนาด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ทั้งในระดับชาติและภาคส่วนต่างๆ อย่างน่าทึ่ง เรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนทราบและมีส่วนร่วมโดยบังเอิญก็คือ เทคโนโลยีเพื่อการจดจำและเรียนรู้ใบหน้ามนุษย์ ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูลก่อนหน้านี้ทำให้ทราบว่า จีนเป็นประเทศนำร่องในการต่อยอดเพื่อการใช้เทคโนโลยีด้านนี้ตั้งแต่ปี 2017 เทคโนโลยีเพื่อการจดจำและเรียนรู้ใบหน้ามนุษย์ หรือ facial recognition เป็นการวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะภาพโครงสร้างใบหน้ามนุษย์ทัังหมดจากภาพถ่ายวิดีโอของกล้องดิจิตัล แล้วบันทึกข้อมูลเก็บไว้วิเคราะห์กับสังเคราะห์เป็นแม่แบบ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับภาพตัวอย่างในเวลาใช้งานจริง เบื้องต้นถูกนำไปใช้ประโยชน์ในงานรักษาความปลอดภัย ป้องกันอาชญากรรมหรือก่อการร้าย ต่อมาจึงมีความพยายามที่จะพัฒนาให้รองรับการใช้งานด้านอื่นๆ เช่น ธุรกิจ การเงิน การธนาคาร การท่องเที่ยวรวมทั้งการจัดการชุมชนด้วย มีตัวอย่างการใช้ความรู้นี้ในการจัดการชุมชนเรื่อง การคัดแยกขยะในครัวเรือนที่เขตซีเฉิง กรุงปักกิ่ง เมื่อกลางปีที่แล้ว คือการออกแบบกล้องติดไว้ที่ถังขยะเพื่อสแกนใบหน้าคนที่นำขยะไปทิ้งลงถัง ถ้ายืนยันตัวตนสำเร็จ ฝาถังก็จะเปิดรับขยะ เท่ากับป้องกันไม่ให้คนอื่นฉวยโอกาสขนขยะไปใส่ถังหน้าบ้านคนอื่น ความตื่นตัวและความมุ่งมั่นของจีนในการใช้เทคโนโลยีให้คุ้มค่าที่สุด เห็นได้จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งของบริษัท Suzhou Fanhan Information Technology ของจีนที่มีการเก็บรวบรวมภาพสีหน้าแสดงความรู้สึกของคนหลายๆ ชาติใน 28 ลักษณะ เช่น ยิ้ม โกรธ หัวเราะ อ้าปากกว้าง ทำปากจู๋ ขมวดคิ้ว กลอกตา เศร้า ขยะแขยง กลัว เบะปาก ภาพด้านข้างใบหน้าทั้งซ้ายและขวา ฯลฯ ซึ่งแผนกงานวิจัยของบริษัทได้แถลงการณ์รับรองว่า จะนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนางานด้านการฝึกอบรมพนักงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยขอข้อมูลจากอาสาสมัครเฉพาะชื่อตัว อายุ และเพศเท่านั้น สำหรับคนไทย ขณะนี้ก็คืออีกกลุ่มตัวอย่างหนึ่งที่อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลจากอาสาสมัครจำนวน 300 คน ไม่จำกัดเพศและวัย โดยให้อาสาสมัครแต่ละคนลงทะเบียนและทำรายการตามขั้นตอน เพื่อบันทึกภาพถ่ายของตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น Fanhantech เมื่อได้ส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว อาสาสมัครเหล่านี้จะได้รับค่าตอบแทนด้วย รายละ 105 บาท (ผู้ที่สนใจเป็นอาสาสมัคร โปรดติดต่อคุณกิฟท์ ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ไอดี : this.is.me.gift) นับว่าเป็นนวัตกรรมอีกก้าวหนึ่งของจีนสำหรับการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจดจำและเรียนรู้ใบหน้ามนุษย์ในธุรกิจการตลาดโดยตรง (ภาพถ่ายทั้งหมดคือ screenshort ของผู้เขียนที่นำมาจาก ไฟล์ 28_1 emotion photos collection Project_V1.pdf และ facebook คุณกิฟท์) แหล่งข้อมูล 1. ตัวอย่างการนำเทคโนโลยีการจดจำใบหน้ามาใช้กับการตรวจสอบความปลอดภัยในสนามบินของจีน และคัดแยกขยะในปักกิ่ง, www.adslthailand.com, 25 กันยายน 2562 2. เจ้าของร้าน, เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า หรือ Facial Recognition คืออะไร ?, www.ZKTecosecurity.net 3. นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์, ระบบจดจำใบหน้า อาวุธพลิกเกมค้าปลีกดั้งเดิม, www.posttoday.com, 10 ธันวาคม 2560 4. 28_1 emotion photos collection Project_V1.pdf, ไฟล์เอกสาร 5. Statement of Project Department, Suzhou Fanhan Information Technology Co., Ltd., 2020-03-23