อยู่อุดรธานี เมื่อมีแขกไปใครมา ถ้าไม่ใช่เขาขอ ก็เราเสนอ ที่จะพาไปกราบสักการะ - ชมบารมี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่ วัดป่าบ้านตาด...ครั้งนี้จึงขอนำประสบการณ์สด ๆ ร้อน ๆ มาแชร์ เผื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับเจ้าบ้าน เอาไว้ต้อนรับผู้เยี่ยมเยือน และสำหรับคนต่างถิ่นที่อยากแวะเวียนไปเช็กอินกันเองโดยไม่มีเจ้าบ้านไปด้วย...การเช็กอินครั้งนี้เป็นเวอร์ชันแบบมีหลายที่ต้องไปต่อ ใช้เวลานานที่สุดไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่รับรองว่าครบทุกจุดไฮไลต์ ทำให้ได้รับความสงบและประทับใจมาก ๆ ค่ะจุดที่แนะนำให้ตั้งเป็นจุดหมายใน Google Maps มี 2 จุดหลัก ๆ คือ 1. พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และ 2. วัดป่าบ้านตาด ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันค่ะ...เราจะไปเช็กอินพิพิธภัณฑ์ฯ ก่อน แล้วถึงเข้าไปเช็กอินวัดฯ...เพื่อความสะดวกสำหรับเราผู้ไปเยือน สำหรับผู้ดูแลสถานที่ และไม่ให้เป็นการรบกวนกิจของพระสงฆ์ภายในวัดฯ ขอเสนอให้ไประหว่างเวลา 10:00 - 16:30 น. ค่ะก่อนเข้าสู่บริเวณพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ตามทางหลวงชนบท อด. 1076 ซึ่งเป็นถนน 4 เลน ใครได้ใช้เส้นทาง คงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมบารมีขององค์หลวงตาฯ ที่ทำให้เหล่าศิษยานุศิษย์สามารถสร้างถนนดี ๆ มาตรฐานสูง ตัดตรงจากถนนมิตรภาพเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งเป็นแหล่งธรรมที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่อนุชนรุ่นหลังค่ะ...ก่อนเข้าสู่เขตพิพิธภัณฑ์ฯ เราจะสังเกตเห็นแผ่นโลหะรูปพระธรรมเจดีย์ พร้อมลายมือชื่อขององค์หลวงตาฯ ติดไว้ตามรั้วอย่างสวยงาม...เมื่อเข้าไปในเขตพิพิธภัณฑ์ฯ ภาพความงดงาม - อลังการที่เรามองเห็นได้แต่ไกล ก็สามารถบ่งบอกถึงบารมีขององค์หลวงตาฯ ได้อย่างชัดเจนค่ะ...จากพื้นที่จอดรถ เราต้องเดินบนสะพานข้ามคลองสวยน้ำใสเข้าสู่พื้นที่ภายใน ผู้เขียนแนะนำให้สังเกตที่ราวสะพาน จะเห็นเขาแกะสลักชื่อขององค์หลวงตาฯ และลายดอกบัวเอาไว้อย่างสวยงามค่ะโถงต้อนรับหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์โถงทางเข้าบริเวณพิพิธภัณฑ์ฯ เราจะเห็นรูปเหมือนองค์หลวงตาฯ โดดเด่นเป็นสง่า พร้อมคติธรรมสำคัญของท่าน ส่วนหนึ่งกล่าวว่า "เราเกิดมาชาตินี้ เพื่อสงเคราะห์อนุเคราะห์โลก...ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา เราจะไม่กลับมาเหยียบแผ่นดินนี้อีกเป็นอนันตกาล"...นับเป็นจุดไฮไลต์ที่คนที่ไปเยี่ยมเยือนมักไม่พลาดที่จะถ่ายรูปค่ะ...ตรงหน้าทางเข้ายังมีจารึกหินแกรนิตดำ แสดงชีวประวัติและผลงานหลวงตาฯ ขององค์ และรายละเอียดการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ฯ อย่างคร่าว ๆ ค่ะ...เขามีไกด์นำชมส่วนจัดแสดงประวัติ ปฏิปทา ผลงาน และคำสอนขององค์หลวงตาฯ แบ่งเป็นรอบ ๆ มี 6 รอบ/วัน รับไม่เกิน 30 คน/รอบ ใช้เวลารอบละประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เปิดรับคณะทัวร์รอบแรกเวลา 9:30 น. รอบสุดท้ายเวลา 14:30 น. ค่ะ...ถ้าเราไม่เข้าชมส่วนจัดแสดง เราก็สามารถเดินเข้าไปสักการะพระพุทธรูปและรูปหล่อครูอาจารย์ในพระวิหาร และสักการะพระธาตุขององค์หลวงตาฯ ในพระเจดีย์ได้เอง...พิพิธภัณฑ์ฯ เปิด 8:30 - 16:30 น. หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดราชการและวันสำคัญทางศาสนาค่ะภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์แม้บริเวณพิพิธภัณฑ์ฯ จะกว้างขวาง ต้องเดินผ่านพื้นที่ต่างระดับและพื้นที่โล่งแจ้ง เขาก็มีรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุหรือเดินไกลไม่ได้ และมีร่มกันแดดกันฝนให้ยืมค่ะ...เดินจากบันไดขึ้นไป เราก็จะเช็กอินจุดไฮไลต์คือ เข้าสักการะพระพุทธรูป และ รูปหล่อครูบาอาจารย์ ได้แก่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และ องค์หลวงตาฯ ในพระวิหารหน้าพระธรรมเจดีย์ค่ะ...พระวิหารเป็นสถาปัตยกรรมไทยผสมล้านช้าง หลังคาทรงสูงซ้อนกันหลายชั้นทำจากวัสดุทองแดง...ภายในพระวิหารตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูสงบงาม ซึ่งผู้เขียนก็เห็นว่าเป็นไปตามอัธยาศัยของครูอาจารย์ และทำให้รู้สึกได้ถึงความสงบร่มเย็นค่ะเช็กอินจุดไฮไลต์ถัดไปก็คือ เข้าสักการะ อัฐิธาตุขององค์หลวงตาฯ ที่ พระธรรมเจดีย์ ค่ะ...พระเจดีย์รูปทรงระฆังแปดเหลี่ยม เป็นสถาปัตยกรรมไทยผสมล้านช้าง...ส่วนยอดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อรหันตธาตุ และอัฐิธาตุขององค์หลวงตาฯ โถงกลางประดิษฐานบุษบกทองคำแท้ บรรจุอัฐิธาตุขององค์หลวงตาฯ ไว้อย่างวิจิตรงดงามอลังการค่ะตลอดเวลาที่อยู่ในบริเวณพิพิธภัณฑ์ฯ เราจะเห็นหรือได้ยินการบอกเล่าถึงความละเอียดประณีตของการออกแบบอาคารสถานที่...ยกตัวอย่างเช่น เขาออกแบบให้ตำแหน่งที่ตั้งของรูปเหมือนองค์หลวงตาฯ ที่โถงทางเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ พระประธานในพระวิหาร และบุษบกในพระธรรมเจดีย์ อยู่บนแนวเส้นตรงเดียวกัน...และไม่ว่าจะหันไปทางไหน เราก็จะเห็นลายมือชื่อและสิ่งที่สื่อถึงชื่อขององค์หลวงตาฯ อยู่บนองค์ประกอบและการตกแต่งต่าง ๆ เช่น กระถางบัว ช่องระบายอากาศ ซุ้มประตูเข้าสู่ภายในพระเจดีย์ เป็นต้น ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่วิจิตรงดงามค่ะก่อนเข้าสู่บริเวณวัดป่าบ้านตาดออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ แล้ว ก็เดินทางไปยังวัดฯ ซึ่งห่างออกไปประมาณไม่เกิน 300 เมตร ถ้าพอมีเวลาสักหน่อย ไม่ร้อนมาก หรืออยากดื่มด่ำบรรยากาศ จะเดินไปก็ได้ค่ะ...ที่ลานหน้าวัดฯ เราจะเห็นจิตกาธาน คือจุดที่ถวายเพลิงสรีรสังขารขององค์หลวงตาฯ ซึ่งได้ทราบจากเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ฯ ว่า แนวเส้นตรงที่ตั้งของบุษบกบรรจุอัฐิธาตุขององค์หลวงตาฯ ในพระธรรมเจดีย์ พระประธาน ในพระวิหาร และ รูปเหมือนองค์หลวงตาฯ ที่โถงทางเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ ถูกกำหนดจากตำแหน่งที่ตั้งของจิตกาธานนี้เองค่ะ...จุดนี้ก็เป็นอีกจุดไฮไลต์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะระลึกถึงคุณองค์หลวงตาฯ ค่ะบริเวณทางเข้าสู่ภายในวัดป่าบ้านตาดสักการะจิตกาธานแล้ว ก็เข้าเช็กอินจุดไฮไลต์ภายในวัดฯ ค่ะ...ก่อนจะผ่านรั้วเข้าสู่บริเวณวัด มีแผ่นป้ายโลหะขนาดใหญ่ ทำลายเป็นตัวอักษรลายมือขององค์หลวงตาฯ เตือนว่า วัดไม่ใช่ที่เที่ยวเล่น ให้รักษาความสงบ ซึ่งก็ทำให้เรามีสติและสำรวมระวังเป็นอย่างดีค่ะ...ตลอดสองข้างทางของถนนเข้าสู่ภายในวัด ก็จะมีแผ่นป้ายแสดงรูปขององค์หลวงตาฯ พร้อมคติธรรมคำสอนของท่านไว้มากมาย เห็นแล้วชื่นตาชื่นใจ ถ้าใครชอบ ก็จะให้ความรู้สึกเพลิดเพลิน เหมือนเดินอยู่ในอุทยานธรรมะค่ะภายในบริเวณวัดป่าบ้านตาดจุดไฮไลต์ต่อไปคือศาลาการเปรียญไม้ใต้ถุนสูง ที่ดูคลาสสิก นับว่าเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่ามาก...เรียกว่าเป็น "ศาลาฯ ในตำนาน" ก็ว่าได้ ด้วยประวัติอันสลักสำคัญและยาวนาน เพราะเป็นที่ที่องค์หลวงตาฯ ปฏิบัติสังฆกรรม แสดงธรรม และนำลูกศิษย์ลูกหาปฏิบัติธรรม ตลอดเวลากว่า 60 - 70 ปี ตั้งแต่ก่อสร้างวัด จนกระทั่งท่านละสังขาร...สรีรสังขารของท่านก็ถูกตั้งบำเพ็ญกุศลที่นี่ก่อนเคลื่อนไปถวายเพลิงที่จิตกาธานค่ะ...พระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คน ตั้งแต่ในช่วงเวลาที่องค์หลวงตาฯ ยังมีชีวิตอยู่ มาจนสมัยปัจจุบัน ก็มีจำนวนมากมายที่ผ่านการปฏิบัติโดยมีองค์หลวงตาฯ เป็นพระอาจารย์ ณ ศาลาการเปรียญแห่งนี้ค่ะใครที่เคยขึ้นไปบนศาลาตอนที่องค์หลวงตาฯ ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อขึ้นไปอีกครั้ง ย่อมได้ระลึกถึงภาพความทรงจำดี ๆ...ศาลามีรูปหล่อขององค์หลวงตาฯ ตั้งอยู่ตรงกลาง ทำให้นึกถึงตอนที่ผู้เขียนเป็นนักเรียน คุณครูพาไปตักบาตรและฟังธรรมกับองค์หลวงตาฯ ค่ะ...ตอนนี้ บนศาลาเหมือนพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยสิ่งทรงคุณค่ามากมาย ทั้งพระประธานองค์ใหญ่ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวัดฯ รูปภาพและอัฐิธาตุของครูอาจารย์สายธุดงคกรรมฐานองค์สำคัญหลายองค์ อัฐิธาตุและบริขารของอดีตเจ้าอาวาส คือ องค์หลวงตาฯ และ หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน ค่ะลงจากศาลาการเปรียญ เราก็เดินไปยังกุฏิองค์หลวงตาฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องนิพพาน...นี่ก็เป็นอีกจุดไฮไลต์ที่ผู้คนที่มาเยือนมักเข้าเช็กอินสักการะระลึกถึงองค์หลวงตาฯ...ผู้เขียนชอบที่กุฏิเหมือนกับแฝงตัวอยู่ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ เราจะได้ยินเสียงนกร้อง และเห็นสัตว์ป่าเล็ก ๆ เช่น กระจง เดินไปมาในป่ารอบกุฏิ ดูไม่ตระหนกกับผู้คน...เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อองค์หลวงตาฯ และต่อสถานที่ เขาก็จะให้ถอดรองเท้าไว้แล้วเดินเท้าเข้าไปสู่บริเวณรอบที่ตั้งกุฏิค่ะอีกจุดไฮไลต์ แต่เคลื่อนที่ได้ ก็คือเหล่านกยูง ที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในบริเวณวัดฯ ซึ่งเป็นป่าไม้หนาแน่น สงบ และปลอดภัย...พวกเขาก็จะเดินเล่น - นอนเล่น - หาอาหาร เดี่ยวบ้าง คู่บ้าง เป็นกลุ่มบ้าง ภายในบริเวณวัด โดยไม่ตื่นตระหนกกับผู้คน เหมือนกับกระจงที่เราเห็นรอบกุฏิขององค์หลวงตาฯ นั่นแหละค่ะ...ผู้เขียนพอจะประมาณจากประสบการณ์ได้ว่า ไปวัดฯ 5 ครั้ง จะได้เจอนกยูงสัก 3 ครั้ง...การได้เห็นนกยูง แถมได้เก็บภาพสวย ๆ ใกล้ ๆ นับเป็นอีกความประทับใจไม่รู้ลืมเกี่ยวกับวัดบ้านตาด สำหรับผู้เขียนค่ะจากประสบการณ์การเป็นไกด์พาเข้าสักการะ - ชมบารมี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์และวัดป่าบ้านตาดหลาย ๆ ครั้ง...ผู้เขียนขอคอนเฟิร์มว่า สถานที่ทั้งสองนี้เหมาะมากสำหรับใช้ต้อนรับเพื่อน ๆ จากต่างถิ่นหรือแขกบ้านแขกเมือง...รับรองผู้ไปเยือนจะได้รับความสุขสงบชุ่มชื่นใจเมื่อได้สัมผัสกับมรดกธรรมจากบารมีขององค์หลวงตาฯ และประทับใจในงดงามของสถานที่ค่ะ. มรรษยวรินทร์ภาพปก และ ภาพประกอบที่ 2 - 13 โดย มรรษยวรินทร์ภาพประกอบที่ 1 ปรับปรุงจาก Google Mapsพิกัด พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนพิกัด วัดป่าบ้านตาดเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !