นครหลวงพระบางเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตัวเมืองตั้งขนาบด้านข้างแม่น้ําสําคัญสองสายคือแม่น้ําโขงและแม่น้ําคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกันบริเวณทิศเหนือของเมืองเรียกว่าปากคาน เมืองหลวงพระบางเป็นเมืองเก่าและถือว่าเป็นราชธานีแห่งแรกของอาณาจักรล้านช้างและเคยเป็นศูนย์กลางอำนาจการเมืองการปกครองของพระราชอาณาจักรลาวในอดีตก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบแบบสาธารณรัฐ นครหลวงพระบางเป็นเมืองที่โดดเด่นทางด้านประเพณี วัฒนธรรม ศาสนา อื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่สะท้อนถึงรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมเมืองแบบลาวที่ผสมผสานเข้ากับยุคอาณานิคมสมัยฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว จนทำให้เมืองหลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมจากยูเนสโก (UNESCO) ยกย่องให้เมืองหลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยังมีลมหายใจ (Town of Luang Prabang) ในปี ค.ศ. 1995 (UNESCO, 1995) พระราชวังหลวงพระบางเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของหลวงพระบาง ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาพระมหากษัตริย์ลาวองค์สุดท้ายของลาวก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระราชวังแห่งนี้มีลักษณะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสลักษณะตัวอาคารเป็นอาคารชั้นเดี่ยวยกพื้นสูงเริ่มก่อสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2447 สมัยพระเจ้าสักรินทรฤทธิ์ และแล้วเสร็จในสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์(สมัยอาณานิคมของฝรั่งเศส) สืบทอดต่อมาจนถึงสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาพระมหากษัตริย์ลาวองค์สุดท้าย การออกแบบมีความพยายามในการสร้างยอดปราสาทตามแบบอิทธิพลรัตนโกสินทร์ซึ่งทำให้อาคารหลังนี้ดูคล้ายกับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทของกรุงเทพฯ พอสมควร หน้าบันแกะสลักเป็นรูปช้างเอราวัณซึ่งเป็นตราประจำแผ่นดินในสมัยพระราชอาณาจักรลาว โดยรอบช้างปรากฏเป็นรูปพญานาค 15 ตระกูล ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเชื่อมโยงกับชื่อเดิมของอาณาจักรคือ “ศรีสัตนาคนหุต” อันแปลว่านครแห่งนาค หน้าบันนาค15 ตะกูลโดยชาวเมืองหลวงพระบางเชื่อว่าเป็นพญานาคที่คอยปกปักรักษาเมืองหลวงพระบางตามมีสถานที่ต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย 1.นางดำอยู่คกท่อน 2.นางด่อนอยู่คกเฮือ 3.นางผมเฝืออยู่เหนือท่าช้าง 4.ท้าวต่งกว้างขวางอยู่ปากคาน 5.ท้าวทองจานอยู่ผาเดี่ยว 6.ท้าวคำเหี่ยวอยู่ผาเสือ 7.ท้าวบุญเยืออยู่ก้อนก่ายฟ้า 8.ท้าวคำหล้าอยู่ผาบัง 9.ท้าวคำบังอยู่พูช้าง 10.ท้าวบุญกว้างอยู่พูซวง 11.ท้าวบุญเยืองอยู่ก้องหมิดแอ่น 12.ท้าวคำแตนอยู่ผาชวา 13.ท้าวกองเหลืออยู่ผาสุมเส้า(ผาย่าเถ้า) 14.ท้าวไกกำนงอยู่รักษาพระบาท 15.ศรีสัตนาคเจ้าอยู่เฝ้า พระราชวังหลวงพระบาง ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหลวงพระบางภายในตำหนักใหญ่จัดแสดงเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ลาวในอดีต เช่นพระที่นั่ง ท้องพระโรง ห้องทรงพระอักษร ห้องบรรทม และเครื่องมงคลบรรณาการต่างๆนอกจากนี้พื้นที่ภายในพระราชวังยังมีโรงละครพระลักพระลามตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวังที่มีการแสดงละครหลวงให้นักท่องเที่ยวชมเกือบทุกคืนและยังมีโรงเก็บเรือพระราชพิธีตั้งอยู่ทางทิศใต้ของโรงละครพระลักพระลาม พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ถนนสีสว่างวงศ์ ตรงข้ามวัดพูสี แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันวันละ 2 เวลาคือ ตอนเช้าเวลา 8:00 นาฬิกา และตอนบ่ายเวลา 13:00 นาฬิกาปิดให้เข้าชมเวลาประมาณ 16:00 นาฬิกาของทุกวัน การเดินทางแนะนำให้เดินทางด้วยเครื่องบินจากท่าอากาศยานดอนเมือง-หลวงพระบางหรือหากใครอยู่ทางภาคอีสานสามารถเดินทางเข้าที่ด่านสากลหนองคาย และสามารถต่อเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติบินวัดไต เวียงจันทน์ ไปลงที่สนามบินหลวงพระบางได้ ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์หรือรถโดยสาร ผู้เขียนไม่แนะให้เดินทางด้วยวิธีนี้ซึ่งปัจจุบันยังเป็นเรื่องที่ลำบากอยู่สำหรับการคมนาคมทางบกของลาวอีกอย่างด้วยสภาพภูมิประเทศระหว่างเส้นทางเวียงจันทน์-หลวงพระบางประกอบด้วยหุบเขามากมายและยังต้องใช้เวลาในการเดินทางยาวพอสมควร ภาพโดย นพพล ไชยสน