ในปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในประเทศไทยนั้นมีอยู่ทุกภูมิภาค โดยเฉพาะวัดต่าง ๆ ที่มีประวัติการสร้างมาเป็นเวลานับร้อยปี โดยมีรูปแบบของสถาปัตยกรรมตลอดถึงหลักฐานทางด้านคติชนวิทยาของชุมชนนั้น ๆ ปรากฏเป็นหลักฐานไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ จัดว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอย่างหนึ่งในปัจจุบัน วัดพระบรมธาตุสวีที่จังหวัดชุมพรก็เป็นวัด ๆ หนึ่งในจำนวนนั้น วันนี้ผู้เขียนขอนำท่านผู้อ่านมาล่องใต้มานมัสการพระบรมธาตุสวี ตั้งอยู่ที่วัดพระบรมธาตุสวี หมู่ที่ 1 ตำบล สวี อำเภอ สวี จังหวัดชุมพร การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากจังหวัดชุมพรให้ขับรถมุ่งลงใต้ตามถนนทางหลวงหมายเลข 41 ระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร ถึงอำเภอสวีให้กลับรถที่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำสวีแล้วขับต่อไปอีก 500 เมตร วัดพระบรมธาตุสวีจะอยู่ทางซ้ายมือ ผู้เขียนเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อเดินทางมาถึงวัดพระบรมธาตุสวีความรู้สึกแรกที่สัมผัสคือ เหมือนจำลองวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารที่จังหวัดบ้านเกิดมาวางไว้ตรงหน้า เพียงแต่ย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง บริเวณรอบนอกของเขตพุทธาวาสทั้ง 4 ทิศ เป็นสนามหญ้าเขียวขจีมีต้นไม้ปลูกประดับแซมไว้ห่าง ๆ ตรงทางเดินปูด้วยอิฐสีแดงดูงามตา เห็นยอดองค์พระเจดีย์สีทองเหลืองอร่ามโผล่พ้นหลังคาสีแดงของระเบียงคดดูสวยเด่นเป็นสง่า เจดีย์พระบรมธาตุสวี เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูระเบียงคดเข้าไปด้านในก็จะเห็นองค์พระเจดีย์ทรงระฆังคว่ำประดิษฐ์ไว้บนฐานสี่เหลี่ยม 2 ชั้นแต่ละชั้นมีเจดีย์บริวารชั้นละ 4 องค์ ฐานชั้นล่างมีช้างโผล่หัวพร้อมขาหน้าสลับกับรูปยักษ์ถือกระบองประหนึ่งจะแบกองค์พระเจดีย์เอาไว้ มีบันไดทางขึ้นอยู่ด้านทิศใต้ เหนือองค์พระเจดีย์ประกอบด้วยก้านฉัตร บัวเถา มีปล้องไฉน 7 ปล้อง ตรงส่วนบนสุดของปลียอดมีเม็ดน้ำค้างประดับไว้อย่างสวยงาม นับว่าเป็นองค์พระเจดีย์ศิลปะสมัยอยุธยาที่สวยงามมากองค์หนึ่งเลยทีเดียว ภายในระเบียงคดมีพระพุทธรูปปางสมาธิและปางมารวิชัยประทับนั่งเป็นแถวทั้ง 4 ด้านบนฐานที่สร้างด้วยพื้นปูนปูด้วยกระเบื้องหันพระพักตร์ไปยังองค์พระเจดีย์ทั้งหมด พระบรมธาตุสวีมีอายุเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 700 ปี และเป็นหนึ่งในจตุธรรมธาตุของพระเจดีย์ในจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย คือ เจดีย์องค์พระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช เจดีย์พระบรมธาตุไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี พระบรมธาตุสวีจังหวัดชุมพร และเจดีย์วัดเขียนบางแก้วจังหวัดพัทลุง ปัจจุบันจตุธรรมธาตุทั้ง 4 องค์นี้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเป็นที่เรียบร้อย พิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี หลังจากได้นมัสการองค์พระบรมธาตุสวีและเดินชมภายในเขตพุทธาวาสเรียบร้อยแล้ว ก่อนกลับผู้เขียนได้แวะชมพิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี ซึ่งลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวสีขาวหลังคาสีแดง ภายในจัดแสดงประวัติขององค์พระบรมธาตุสวีไว้ว่า ในปี พ.ศ. 1803 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชกษัตริย์แห่งเมืองนครศรีธรรมราช ได้ยกทัพเสด็จมารับศึกพระเจ้าไชยเสนแห่งกรุงอโยธยา ที่เสด็จกรีทาทัพมารุกรานยังดินแดนตอนใต้ก องทัพทั้งสองได้ปะทะกันบริเวณเมืองกำเนิดนพคุณ (อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถรบชนะกันได้โดยเด็ดขาดจึงขอเจรจาสงบศึกกัน ภาพจำลองเหตุการณ์ตอนพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชมีรับสั่งให้ซ่อมพระเจดีย์ ขณะเสด็จกลับทัพพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชได้มาพักบริเวณวัดพระบรมธาตุสวีในปัจจุบัน ซึ่งตอนนั้นมีซากอิฐของพระเจดีย์ร้างและมีกาฝูงใหญ่บินวีปีกล้อมรอบกองอิฐเสียงดับเซ็งแซ่ทหารไล่ก็ไม่ไป เมื่อเข้าไปดูก็เห็นซากพระเจดีย์เลยลองขุดดูก็พบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงสั่งให้บูรณะองค์พระเจดีย์พร้อมกับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้เช่นเดิม ศาลพระเสื้อเมืองในวัดพระบรมธาตุสวี หลังจากสมโภชครบ 7 วัน ได้มีทหารชื่อเมืองรับอาสาดูแลรักษาองค์พระบรมธาตุ พระองค์จึงรับสั่งให้ตัดศีรษะและตั้งศาลเพียงตาเอาไว้ ปัจจุบันเรียกว่าศาลพระเสื้อเมืองตั้งอยู่ในวัด องค์พระธาตุนี้ตอนแรกเรียกว่าพระธาตุกาวีปีก (กากระพือปีก) ต่อมาเพี้ยนมาเป็นพระธาตุกาวีจนกลายมาเป็นพระธาตุสวีในปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในพิพิธภัณฑ์ยังได้จัดแสดงบ้านเรือนและเครื่องไม้เครื่องมือของชุมชนในอดีตไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาค้นคว้าอีกด้วย เครื่องมือเครื่องใช้และรูปจำลองบ้านเรือนวิธีชีวิตของชุมชนสวีในอดีตในพิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี วัดพระบรมธาตุสวีเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดชุมพร เหมาะสำหรับบุคคลที่มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและวัตถุโบราณ ซึ่งที่นี่มีให้ศึกษาอยู่มากมาย นับว่าเป็นมรดกที่ทรงคุณค่ายิ่ง ทำให้เรารู้เรื่องราวของอดีตได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าถ้าไม่มีอดีตที่เรืองรองแล้วจะมีปัจจุบันที่ภาคภูมิได้อย่างไร ปัจจุบันวัดพระบรมธาตุสวีและพิพิธภัณฑ์ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 นาฬิกาโดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด รูปประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน