บนยอดภูเขาไฟมีใบเสมาเก่า ถ้าไม่เชื่อต้องรีบไปดู !!!ข้อมูลตามตำนาน (ประวัติลายแทงธาตุพนม) ระบุว่าในปี พ.ศ. 8 มีการอัญเชิญพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานยังทิศอีสานที่พระธาตุพนม (จังหวัดนครพนม)และส่วนหนึ่งได้นำพระอังคารธาตุ(เถ้ากระดูก) มาประดิษฐานที่เขาอังคารลูกนี้ก่อนที่จะได้สร้างวัดขึ้นบนยอดเขาในปีพ.ศ. 2520 จากนั้นได้นำพระอังคารธาตุขึ้นบรรจุไว้ในสถูปบนยอดของพระอุโบสถโบราณวัตถุสำคัญของสถานที่นี้คือใบเสมาอายุกว่า1,000 ปีทำด้วยหินบะซอลท์สมัยทวาราวดีที่พบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย บนใบเสมามีการจำหลักเป็นรูปต่างๆ เช่น บุคคลดอกบัวและธรรมจักรสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13 -14 แสดงถึงการเป็นพุทธสถานมาแต่อดีตกาลเขาพระอังคารเกิดจากการประทุของภูเขาไฟในยุคควอร์เทอนารี่เมื่อประมาณ 700,000 ปีมาแล้วโดยมียอดเขากระดูกเป็นจุดสูงสุดและเป็นปากปล่องใหญ่ของภูเขาไฟในบริเวณนี้ ซึ่งปัจจุบันเป็นภูเขาไฟที่สงบตัวแล้ว ความโดดเด่นที่เห็นชัดเจนคือพระอุโบสถที่ออกแบบสถาปัตยกรรมผสมผสาน เป็นยอดสถูปเจดีย์ มีซุ้มทิศ ดูแปลกตาจากที่อื่นด้วยไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์เหมือนอุโบสถทั่วไป บันไดทางขึ้นประดับหัวนาค มีความอ่อนช้อยและรับกันอย่างสวยงามภายในพระอุโบสถประดับด้วยภาพพุทธชาดก พร้อมมีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ แสดงว่าที่นี่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติไม่น้อยเลยวัดเขาพระอังคารตั้งอยู่ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ไม่ไกลจากปราสาทพนมรุ้ง ตามพิกัดที่ลิงก์นี้เลยhttps://goo.gl/maps/BmFiT9Ja7oCUKmJK6แอบกระซิบให้ฟังว่าลักษณะเฉพาะของภูมิประเทศในแอ่งภูเขาไฟสมกับคำขวัญจังหวัด “เมืองปราสาทหินถิ่นภูเขาไฟฯ” พื้นที่ส่วนใหญ่ของบุรีรัมย์จึงมีคุณค่าในเชิงเกษตรกรรมซึ่งมีการนำหินภูเขาไฟมาช่วยในการปรับสภาพดินและให้แร่ธาตุต่างๆ ส่งผลต่อการเพาะปลูก ครั้งที่เราเคยได้ไปไหว้พระอังคารธาตุก่อนหน้าหลายปีก่อน เราจึงไม่พลาดที่จะเสาะหาข้าวหอมมะลิ ทุเรียนรสอร่อยที่ปลูกด้วยดินแร่ภูเขาไฟและยังมีไข่เค็มพอกด้วยดินภูเขาไฟ รวมถึงผ้าย้อมโคลนจากภูอัคนีล้วนเป็นสินค้าโอทอปของจังหวัดทีเดียวถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวแล้ว อย่าลืมแวะอุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นโอทอประดับห้าดาวน่าซื้อมากๆ เชียวนะป.ล.ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือของผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !