ถ้าใครได้รับชมภาพยนตร์ “มนตรา” ทาง Netflix กันแล้ว นอกจากความสยองพองขนแล้วก็คงจะมีความงุนงงเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกคนไปพบกับรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่อาจจะพอเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างอรรถรสในการรับชมที่อาจช่วยลดความงุนงงจากการรับชมในครั้งแรกไม่มากก็น้อย จะมีอะไรบ้าง เชิญรับชมได้เลยครับhttps://www.instagram.com/p/CenlBMxPcBj/ 1.“คุณรู้มั้ยว่าความตั้งใจของคุณเปลี่ยนผลลัพธ์ของเรื่องราวได้?”: ประโยคสำคัญในตอนเปิดเรื่องพร้อมกับภาพเคลื่อนไหวของชิงช้าสวรรค์ที่หากลองนึกภาพให้ชิงช้าสวรรค์หมุนไปทางใดภาพชิงช้าสวรรค์ก็จะหมุนไปทางนั้นตามที่นึก หรือรถไฟที่เคลื่อนไหวในอุโมงค์ที่ชานชาลาที่หากลองนึกภาพในหัวให้วิ่งไปทางใดทางหนึ่งมันก็จะเคลื่อนไหวไปตามทางที่เรานึก ซึ่งเราอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไหร่กับชิงช้าสวรรค์หรือรถไฟ แต่หากเป็นเงานักบัลเล่ต์ที่หมุนไปหมุนมา(The Spinning Dancer) พร้อมกับแคปชั่นว่าคุณใช้สมองซีกไหนมากกว่ากันละก็ รับรองว่าทุกคนน่าจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว โดยส่วนมากมักจะบอกว่าถ้าคุณเห็นนักบัลเล่ต์หมุนตามเข็มนาฬิกาแสดลงว่าคุณกำลังใช้สมองซีกขวา(เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์) แต่ถ้าเห็นนักบัลเล่ต์หมุนทวนเข็มนาฬิกาแสดงว่าคุณกำลังใช้สมองซีกซ้าย(เกี่ยวกับตรรกะ) แต่จากงานบทความใน พ.ศ. 2553 กล่าวว่าการรับรู้ทางการมองเห็นของคนเรานั้นมีหลายรูปแบบ ซึ่งการที่เราเห็นนักบัลเล่ต์หมุนตามเข็มนาฬิกานั้นเกิดจากการรับรู้ในการมองเห็นของเราโฟกัสช่วงหัวลงช่วงเท้า มากกว่าช่วงเท้าขึ้นช่วงหัวของนักบัลเล่ต์นั่นเอง แต่น่าเสียเสียดายที่ทางทีมวิจัยสามารถบอกได้เพียงการหมุนตามเข็มนาฬิกาของนักบัลเล่ต์เกิดจากมุมมองการโฟกัสของผู้มองภาพเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าทำไมเราถึงมองเห็นนักบัลเล่ต์หมุนทวนเข็มนาฬิกาได้ อย่างไรก็ตาม เป้าประสงค์ของภาพยนตร์เรื่อง “มนตรา” จึงว่าด้วยเรื่องแนวคิดที่เป็นปริศนาของการกำหนดผลลัพธ์จากมุมมองของการกระทำ และนางเอกก็ได้ให้หลักของการอวยพรว่า “ความตั้งใจของคนเรากำหนดความเป็นไปของโลกนี้อย่างเงียบ ๆ นี่คือหลักการของการอวยพร”https://www.instagram.com/p/CfqvvRQPFtc/ 2.หนอนผีเสื้อจักรพรรดิ: ในแต่ละฉากที่มักมีเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายในเรื่องมักจะมีสิ่งมีชีวิตหนึ่งโผล่มาเสมอนั่นคือ หนอนผีเสื้อจักรพรรดิที่มีลายสีดำ-เหลือง-ขาว และมีหนวดสีดำบริเวณหัวของมัน ซึ่งอาหารหลักของหนอนผีเสื้อจักรพรรดิคือต้นไม้จำพวก milkweed ที่ประเทศไทยมีพืชในกลุ่มนี้ที่ชื่อว่าต้นไฟเดือนห้า โดยต้นไม้กลุ่มนี้เป็นต้นไม้ที่มีพิษแต่มีสิ่งมีชีวิตบางจำพวกที่สามารถรับประทานได้ หนึ่งในนั้นคือหนอนผีเสื้อจักรพรรดิ โดยพวกมันจะรับประทานใบของต้นไม้กลุ่มนี้และเจริญไปเป็นผีเสื้อจักรพรรดิก็เสมือนสิ่งมีชีวิตที่มีพิษอยู่ในตัว แต่หากคนเรารับประทานส่วนต่าง ๆ ที่ได้จากต้นไม้ชนิดนี้มากจนเกินไปจะทำให้เกิดพิษขึ้นได้โดยจะมีอาการปวดท้อง มีไข้ หายใจลำบาก ม่านตาขยาย และกล้ามเนื้อเกร็ง เป็นอัมพาต อาจทำให้เสียชีวิตได้ (ไม่ได้สปอยล์นะแต่อาการแบบนี้มันคุ้นจริง ๆ แถมยังมีฉากที่เราจะพบเห็นหนอนผีเสื้อจักรพรรดิแทะเล็มใบไม้ชนิดหนึ่งอยู่ แถมเป็นใบไม้ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมด้วย นี่ไม่ได้สปอยล์จริง ๆ นะ แต่อยากยืนยันว่ามีฉากนี้จริง ๆ ผู้เขียนไม่ได้พูดลอย ๆ ขึ้นมาเองนะ)https://www.instagram.com/p/Cbu3PMFuBMc/ 3.Time line ปริศนา: เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขัดใจผู้ชมเป็นอย่างมากสำหรับ time line ของภาพยนตร์เรื่อง “มนตรา” เพราะ found footage ในเรื่องที่สามารถระบุวันเวลาได้มีเพียงวิดีโอที่ “ตั่วตัว” เล่นซ่อนหากับผู้ถ่ายเท่านั้น แถมยังมีความสับสนในเรื่องของวิดีโอภิกษุที่มณฑลยูนนานที่กล่าวถึงความหมายของ “มนตรา” HOU HO XIU YI SI SEI WU MA (โฮว โฮ เซียว ยี ซี เซ่ อู มา) เพราะในวิดีโอนั้นดันมีตัวละครที่ไม่น่าโผล่เข้าไปอยู่ในนั้นได้ ทำให้ผู้ชมเกิดความสับสนว่าความจริงแล้ว Time line ของเรื่องควรเรียงลำดับอย่างไรกันแน่ (ได้ข่าวจากบทความอื่น ๆ ว่าจะมีการสร้างภาคต่อเลยคาดเดาว่าในภาคต่อต้องมีการเฉลยในเรื่องนี้อย่างแน่นอน)https://www.instagram.com/p/CdA_gevPwZz/ 4.“มนตรา” HOU HO XIU YI SI SEI WU MA (โฮว โฮ เซียว ยี ซี เซ่ อู มา): ถ้าถามว่าทำไม “มนตรา” นี้ถึงได้เป็นประเด็น นั่นก็เพราะว่า มีฉากนึงที่ “ตั่วตัว” ได้ท่อง “มนตรา” นี่ออกมา แต่ในฉบับพากย์ไทยนั้นไม่มีการพากย์ฉากนี้ (แนะนำให้ดูแบบ subtitle เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม) ทำให้เกิดคำถามกับผู้ชมว่าทั้ง ๆ ที่ “หลี่ รั่วหนาน” สอน “ตั่วตัว” ว่าหากกลัวอะไรให้คิดถึงสิ่งที่ชอบ 3 อย่างในใจ จากนั้นหลับตาแล้วพูดออกมาดัง ๆ (แน่นอนว่า “มนตรา” HOU HO XIU YI SI SEI WU MA (โฮว โฮ เซียว ยี ซี เซ่ อู มา) ไม่ได้เป็นหนึ่งในสามสิ่ง “ตั่วตัว” ชื่นชอบ) และมีตัวอย่างภาพยนตร์ตอนนึงที่ “ตั่วตัว” ท่อง “มนตรา” นี้ออกมาก (แต่ไม่ยักจะปรากฏในเรื่องสักฉาก)https://www.instagram.com/p/CcXvRYXMUUo/ และนี่เป็นเพียงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอเพื่อเพิ่มมุมมองและอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์เรื่อง “มนตรา” แต่อย่างที่บอกว่านี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีเรื่องของ “ดื้อดื้อ” “เด็กที่ถูกเลือก”(ที่อยู่ ๆ ปรากฏตัวหลังจากห่างหายไป 6 ปี) หรือแม้แต่ฉากที่วนลูปอยู่ในเส้นทางเดิม(ฉากนี่บอกเลยว่าด้วยองค์ประกอบของการวนลูปในเส้นทางเดิม อุโมงค์อาถรรพ์ หมู่บ้านที่มีความเชื่อและพิธีกรรมที่สืบทอดมาแต่โบราณ ทำให้ผู้เขียนอดไม่ได้เลยที่จะคิดถึงภาพยนตร์เรื่อง “อุโมงค์ผีดุ” ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เข้าฉายเมื่อปี พ.ศ. 2562) แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่มีปริศนามากมายขนาดนี้ ถ้าหากไม่ทำภาคต่อออกมาเฉลยปมต่าง ๆ มีหวังผู้เขียนคงนอนไม่หลับเป็นแน่(ถึงความเป็นจริงแค่ดูจบก็แทบจะนอนไม่หลับอยู่แล้วก็ตาม)https://www.instagram.com/p/CcapMfuOwue/ แต่ก็อย่างว่า ความสนุกของหนังสยองขวัญคงเป็นการที่พบเจอสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ ที่ผู้เขียนเลือกที่จะถ่ายทอดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พบในเรื่องนั้นเป็นเพราะเขียนบทความรีวิวธรรมดาไม่ทัน(พึ่งจะมาได้ดูก็ช่วงหยุดยาวนี่เอง) แต่ก็หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะบันเทิงกับบทความของผมไม่มากก็น้อยนะครับ หากผู้อ่านท่านใดมีความคิดเห็นหรือข้อสังเกตอื่น ๆ ที่พบได้จากในภาพยนตร์เรื่อง “มนตรา” ก็สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในช่องแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับhttps://www.instagram.com/p/Ca60-_Op19s/ หากผู้อ่านท่านได้ที่ต้องการรับชม found footage ที่ไม่ได้ถูกใส่ในเรื่องแต่มีความเกี่ยวเนื่องกัน สามารถรับชมเพิ่มเติมที่ ไอจี incantationfilm ได้เลยนะครับขอขอบคุณภาพประกอบบทความ: ภาพหน้าปก จาก Netflixภาพประกอบบทความที่1, 2, 3, 4, 5, 6และ7 จากไอจี incantationfilm*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565