ปี 2019 นั้นถือได้ว่าเป็นปีที่มีซีรีส์เกาหลีดี ๆ เยอะมาก เนื่องจากบทละครที่มีความสดและแปลกใหม่มากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีนักแสดงมากหน้าหลายตาทั้งนักแสดงเก่าและนักแสดงใหม่ที่มาร่วมแสดงจนเกิดสามารถสร้างกระแสให้ตัวเองได้ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาชวนดู 3 อันดับซีรีส์ที่สามารถทำเรตติ้งได้สูงสุด โดยรวมทั้งช่องหลักและช่องเคเบิ้ลด้วยกัน ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ 1. When the Camellia Blooms เรื่องราวของทงแบค (กงฮโยจิน) หญิงสาวที่ถูกทิ้งไว้ที่บ้านกำพร้าตั้งแต่เล็ก ทำให้เธอมีปมเรื่องความต้องการด้านความรักจากผู้อื่น จนวันหนึ่งที่เธอไปมีความสัมพันธ์กับชายที่เธอรัก แต่ด้วยอุปสรรคหลายอย่าง ทำให้เธอเลิกกับเขา และย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่องซานกับลูกชายของเธอ ซึ่งการย้ายเข้ามานั้นทำให้เธอถูกจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากเธอมีใบหน้าที่สวย และดูซื่อ ๆ และผู้หญิงในเมืองก็เริ่มไม่ปลื้มเธอมากกว่าเดิม เมื่อทงแบคเลือกที่จะเปิดร้านเหล้าในองซาน และทำให้เหล่าบรรดาสามีของพวกผู้หญิงในเมืองพากันไปที่ร้านนี้ ซึ่งภาพลักษณ์ของเธอที่มีต่อผู้หญิงในเมืองจึงติดลบทันที สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำเรตติ้งสูงสุดในปี 2019 ตอนแรกเรานั้นไม่เห็นเรื่องนี้ในสายตาเลยค่ะ เพราะมันดูชนบท น่าจะไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่ทว่าเมื่อรู้ว่าได้เรตติ้งไปสูงที่สุด เลยลองเปิดดู ซึ่งเราพยายามดูไปสองครั้งก็ไม่สำเร็จ เพราะสองตอนแรกนั้นเอื่อยมากค่ะ แต่เพราะไม่มีอะไรดูแล้ว ครั้งที่สามเราเลยตั้งใจดูอีกครั้ง และพบว่าเรื่องมันสนุกมากจริง ๆ ค่ะทุกคน ยิ่งดูไปจากที่ไม่ค่อยชอบคาแรกเตอร์ของทงแบค กลับกลายเป็นรักเธอขึ้นมาเลย เรื่องนี้จุดเด่นคือประเด็นต่าง ๆ ที่สอดใส่เข้ามามันน่าสนใจมาก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเป็นแม่ลูกติดแล้วมาเปิดร้านเหล้า แน่นอนว่าในสายตาคนนอกนั้นดูไม่ดีเอามาก ๆ แต่สำหรับทงแบคแล้ว เธอเปิดเพราะต้องการที่จะหาเลี้ยงครอบครัวของเธอ ความคิดเรื่องชู้สาวไม่เคยเข้ามาในหัวเธอสักนิด ซึ่งมันทำให้เราประทับใจนิสัยของทงแบคมากค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ดูเพลิน ไม่น่าเบื่อเลยสักตอน อีกทั้งยังมีปมเรื่องการฆาตกรรมใส่มาด้วย สมควรอย่างยิ่งที่จะได้เรตติ้งอันดับหนึ่งของปีไปค่ะ ใครยังไม่เคยดูเรื่องนี้ต้องห้ามพลาดเลยจริง ๆ นะคะ 2. Sky Castle สำหรับ Sky Castle นั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวแชโบล (เศรษฐีที่ร่ำรวยมาก ๆ ในเกาหลีใต้) ที่ต้องการให้ลูกตัวเองได้เรียนในมหาวิทยาลัยดี ๆ และคณะดี ๆ ตามแบบที่ครอบครัวเคยทำไว้รุ่นต่อรุ่น จึงได้พยายามเคี่ยวเข็ญ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้ไปสู่เป้าหมายนั้น แม้กระทั่งการจ้างโค้ชมาแนะนำการเรียนให้ลูกตัวเองด้วยค่าตัวที่สูงลิ่ว ซึ่งการจะจ้างโค้ชได้นั้น มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ เพราะโค้ชจะเป็นผู้เลือกเองว่าเด็กนักเรียนคนไหนที่มีความสามารถพอที่จะไปสู่เป้าหมายนั้นได้ เลยทำให้ทุกคนพยายามที่จะทำให้ลูกตัวเองโปรไฟล์ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และตรงนี้เองค่ะที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดให้ไปสู่ปมต่าง ๆ ที่รู้แล้วพากันตกใจไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว สำหรับนาทีนี้ใครไม่เคยดูเรื่องนี้คือพลาดมาก พลาดที่สุดเลยนะคะ เป็นซีรีส์ช่องเคเบิ้ลที่เรตติ้งได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง และเป็นอันดับสองจากซีรีส์ทั้งหมดของปี 2019 ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่าบทดีมากสมกับเรตติ้งจริง ๆ เรื่องนี้มีจุดเด่นคือเราจะได้เห็นการเลี้ยงลูกของแต่ละครอบครัวว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง ได้เห็นความทุ่มเทของพ่อแม่เพื่อให้ลูกตัวเองไปสู่ความฝัน ซึ่งก็มีแยกไปอีกว่าความฝันนั้นมันเป็นของลูกจริง ๆ หรือเป็นของพ่อแม่กันแน่ ซึ่งนอกจากการเรียนแล้ว ยังได้มีการสอดแทรกปมครอบครัว ความอยากเอาชนะ ความไม่ลงรอยกัน และการโกหกหลอกลวงต่าง ๆ ไว้ในเรื่องนี้ด้วย เป็นเรื่องที่ดำเนินได้ไม่น่าเบื่อเลย ดูแล้วประทับใจมาก ไม่อยากให้พลาดกันจริง ๆ เลยค่ะ 3. Liver or Die สำหรับเรื่องสุดท้ายนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพุงซัง (ยูจุนซัง) พี่ชายคนโตที่มีความขยัน อดทน หนักเอาเบาสู้ และจิตใจดี แต่ทว่าเขากลับไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการเลย เพราะต้องหาเลี้ยงดูเหล่าน้อง ๆ ของตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ครอบครัวของเขาที่ประกอบไปด้วยภรรยาและลูกสาวเริ่มไม่พอใจ จนเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย สำหรับเราแล้วซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ครอบครัวที่เรารักมาก ๆ เรื่องหนึ่งเลย ดูไปแล้วได้แต่พูดว่าชีวิตคนเรามันจะน่าสงสารอะไรขนาดนี้ น้อง ๆ ของพุงซังนั้นเป็นน้อง ๆ ที่ขยันสร้างปัญหามาไม่เว้นแต่ละวัน และแน่นอนว่าคนจิตใจดีอย่างพุงซังก็ไปตามเช็ดตามล้างให้ ซึ่งตรงนี้แหละค่ะที่เราทั้งเกลียดทั้งโมโหเหล่าน้อง ๆ เลย และไม่ใช่แค่น้อง ๆ เท่านั้น ยังมีตัวละครอื่นอีกที่เข้ามาสร้างปัญหาให้ ดูไปลุ้นไปว่าพุงซังของเราจะได้มีความสุขสักทีไหมนะ จุดเด่นของเรื่องนี้คือ ความรักของพี่ชายที่มีต่อน้อง ๆ ค่ะ เพราะต่อให้เขาโดนกระทำไม่ดีมากแค่ไหน เขาก็ยังคงรักและเป็นห่วงน้อง ๆ ตัวเองเสมอ เรื่องนี้มีทั้งหมดสี่สิบตอนด้วยกัน แต่ไม่เอื่อยหรือน่าเบื่อเลย เพราะเราจะได้ซึมซับไปกับตัวละคร รู้ตัวอีกทีก็ผูกพันไปแลว ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้เข้าใจคำว่าเสียสละมาก ๆ อยากให้ไปดูกันเยอะ ๆ เลยนะคะ เครดิตภาพภาพปก: JTBCภาพที่ 1: KBSภาพที่ 2: JTBCภาพที่ 3: KBS