สวัสดีค่ะ วันนี้ผู้เขียนจะมาชวนเพื่อน ๆ ทำอาหารกินเล่นแบบง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบแค่ไม่กี่ชนิด แถมยังอร่อยและไม่อ้วนอีกด้วย โดยเมนูที่ว่าก็คือ ‘กระเจี๊ยบเขียวอบซอสหม่าล่า’ นี่เอง ชื่อฟังดูอลังการแต่ขั้นตอนการทำไม่ยากเลยนะคะ แต่ก่อนที่เราจะไปเริ่มทำกันนั้น ผู้เขียนขอบอกสรรพคุณของเจ้ากระเจี๊ยบเขียว ที่เราชอบนำมากินกับหม่าล่ากันก่อน กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์ เช่น คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 มีสรรพคุณช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง และมีเส้นใยที่ช่วยในเรื่องการขับถ่ายอีกด้วยค่ะ เมื่อหลายวันที่ผ่านมา ผู้เขียนได้ไปซื้อกระเจี๊ยบเขียวมา 1 ถุง กะว่าจะนำมากินกับน้ำพริก แต่ดันกินไม่หมด เหลือค่อนข้างเยอะ จึงคิดนำมาดัดแปลงเป็นหม่าล่าแบบที่ร้านขายหม่าล่ามักจะปิ้งขายกันในตลาดนัดค่ะ สำหรับวิธีการทำกระเจี๊ยบเขียวอบหม่าล่านั้น ใช้แค่เพียงวัตถุดิบ 2 ชนิดเท่านั้น คือ 1. กระเจี๊ยบเขียว 2. ซอสหม่าล่าสำเร็จรูปยี่ห้อ 'ซันซอส' ถุงนี้ค่ะ ภาพภ่ายโดยผู้เขียน ซอสหม่าล่าแบบสำเร็จรูปแบบที่ผู้เขียนนำมาใช้ สามารถหาซื้อได้ที่โลตัสแผนกอาหารสด ตรงตู้แช่ที่ขายพวกน้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มซีฟู้ด ราคาถุงละ 50 บาทค่ะ โดยเพื่อน ๆ สามารถนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ หรือนำมาผสมน้ำซุปเพื่อนทำชาบูหม่าล่าก็ได้นะคะ ขั้นตอนการทำง่าย ๆ มีดังนี้ค่ะ 1. นำกระเจี๊ยบเขียวมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นท่อน ๆ ใส่จานเตรียมไว้ (ดูในรูปกระเจี๊ยบเขียวของผู้เขียนอาจจะช้ำไปเล็กน้อยนะคะ เพราะเก็บไว้นาน แต่รับรองว่ารับประทานได้ ยังไม่เน่าค่ะ) 2. นำซอสหม่าล่ามาราดลงไปบนกระเจี๊ยบเขียวที่เราหั่นไว้ แล้วคลุกเคล้าให้ตัวซอสเคลือบชิ้นกระเจี๊ยบ ในขั้นตอนนี้เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องเท หมดถุงนะคะ สามารถกะได้ตามปริมาณที่ต้องการเลย และถ้าหากใครอยากจะปรุงรสเพิ่ม เช่น ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ก็ใส่ได้ตามสะดวกเลยค่ะ 3. นำกระเจี๊ยบที่เราคลุกเคล้าซอสหม่าแล้ว ไปอบในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิ 800 องศา เป็นเวลา 2 นาที โดยใช้ฝาครอบอาหารครอบจานไว้ด้วยนะคะ ป้องกันไม่ให้กระเจี๊ยบของเราแห้งและไหม้ ในขั้นตอนนี้ไม่แนะนำให้เพื่อน ๆ นำจานพลาสติกเข้าไปอบในไมโครเวฟนะคะ ควรใช้จานกระเบื้องจะเหมาะสมกว่า 4. เมื่ออบได้ที่ให้ลองเปิดฝาครอบอาหารออก แล้วใช้ส้อมกด ๆ ลงไปในตัวกระเจี๊ยบว่าอ่อนนุ่มพอหรือยัง หากยังแข็งอยู่สามารถอบต่อไปได้อีก 30 วินาทีค่ะ จากนั้นจึงจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย เพียงเท่านี้เราก็จะได้อาหารไว้รับประทานเล่น แถมยังไม่อ้วนอีกด้วย แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนไม่ค่อยชอบรับประทานกระเจี๊ยบเขียว สามารถเปลี่ยนเป็นผักที่เพื่อน ๆ ชอบได้เลยนะคะ อาจจะเป็นเห็ดออรินจิ ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง หรือบล็อกโคลี่ก็ได้ ส่วนเวลาในการอบก็กะเอาตามที่เพื่อน ๆ เห็นเหมาะสมเลย สำหรับครั้งต่อไปผู้เขียนจะมาชวนทำเมนูไหนอีก ก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ภาพทั้งหมด : โดยผู้เขียน