ช่วงนี้ใครหนีโรคระบาดมาอยู่ต่างจังหวัด รับรองได้เปรียบ เพราะต้นทุนชีวิตต่ำและยังมีอากาศสดชื่นแสนดีต่อสุขภาพด้วยเรื่องกับข้าวกับปลาก็สุดประหยัด เพราะมีแหล่งอาหารธรรมชาติรอบตัว ว่าแล้วก็ขอชวนทำ น้ำพริกเผาบ้านทุ่ง เสียเลย ส่วนผสมของน้ำพริกเผาไม่ยุ่งยากค่ะ มีเพียง 5 รายการดังนี้ ปลาแห้งเสียบไม้ (แพละ 30-35 บาท) หอมแดงกับกระเทียม (อย่างละ 10 บาท) พริกแห้งหนึ่งกำมือ (ราว 10 บาท) มะขามเปียกสักปั้นหนึ่ง (ไม่เกิน 10 บาท หรืออาจจะได้จากฝักแก่บนต้นแถวบ้านก็เป็นไปได้) เครื่องปรุงรสที่มีติดครัวอยู่แล้ว ได้แก่ เกลือหรือน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมันสำหรับผัด เมื่อพร้อมทุกอย่างแล้ว ต่อไปก็คือการลงมือทำโดยเริ่มจาก ขั้นที่หนึ่ง เริ่มต้นกันที่แช่มะขามเปียกในน้ำสุก และยีเนื้อมะขามให้แตกดี ขั้นที่สอง ถ้ามีเตาถ่านขอแนะนำให้ก่อไฟเพื่อย่างปลาให้กรอบ แต่จะไม่ย่างก็ได้ แล้วแกะเนื้อปลาใส่ชามไว้ ขั้นที่สาม คั่วพริกแห้งด้วยไฟอ่อน เมื่อพริกส่งกลิ่นฉุนก็ยกลง พักไว้ให้เย็นตัวแล้วตำพริกพร้อมเนื้อปลาให้แหลกดี (ถ้าตำพริกเปล่า ๆ จะเกิดละอองฟุ้งแสบร้อนมาก) ขั้นที่สี่ แกะเปลือกหอมกระเทียมออกแล้วล้างให้สะอาดใส่กระชอนพักไว้จนสะเด็ดน้ำ ถ้าหอมหรือกระเทียมมีขนาดหัวโตให้ซอยบาง นำลงคั่วพร้อมกันในกะทะจนสุก หากไม่คั่วให้นำใบตองมาห่อแล้วหมกใต้เตาถ่านก็ยิ่งดีงาม ขั้นที่ห้า นำหอมกระเทียมไปตำรวมกับพริกและเนื้อปลาให้เข้ากันดี ขั้นที่หก (สุดท้าย) ตั้งกระทะให้ร้อนด้วยไฟปานกลาง เทน้ำมันลงไปราวหนึ่งทัพพี ตักส่วนผสมในครกใส่ลงในกระทะ ผัดไฟอ่อน เติมน้ำมะขามเปียก น้ำปลาหรือเกลือ และน้ำตาล ปรุงให้มีสามรสคือ เปรี้ยว เค็ม และหวานเท่าๆ กัน คนให้ทั่วตลอดเวลา รอจนเดือด และน้ำพริกจับตัวเป็นก้อนจึงยกลงได้ ถึงเวลาเสิร์ฟ ใครชอบผักอะไรก็จัดไปค่ะ สำหรับฉันคนบ้านทุ่ง ที่หาง่ายสุดก็ต้องยอดกระถินสดกับยอดตำลึงลวก บางทีก็มีบวบงูหรือสาลี ผักท้องถิ่นยอดนิยมที่ซื้อจากป้าแม่ค้าเจ้าเก่าในตลาดนัดบ้านทุ่งของเรา และจะพิเศษมากขึ้นถ้ามีไข่ต้มสักฟอง อร่อยชนิดต้องท้าให้ลองเชียวนะคะ (ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน)