เรื่องย่อ เด็กหนุ่มรักศิลปะ ที่แอบชอบเด็กสาวนักดนตรีไวโอลินอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน หลังจากพบกันเพียงไม่นาน อุบัติเหตุรถคว่ำก็ทำให้ทั้งสองคนพรากจากกันทั้ง ๆ ที่พวกเขายังไม่ได้ทำความรู้จักกันแม้แต่ชื่อ เวลาผ่านไป 13 ปี กง อู จิน หรือเด็กหนุ่มคนนั้น ได้พบกับหญิงสาว อายุ 30 ปี ที่มีบุคลิกและความคิดเหมือนเด็กมัธยมปลาย ถึงแม้ว่า อู จิน จะเป็นคนรักสันโดษ ไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับใคร แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นยากจะปฏิเสธเธอ ประกอบกับหลานชาย ยู ชาน ที่อาศัยในบ้านหลังเดียวกันได้ขอร้องให้ช่วยหญิงสาวคนนี้ไว้ โดยให้เธอพักอาศัยอยู่ด้วย ทำให้กง อู จิน ต้องยอมช่วยเธอไว้อย่างไม่เต็มใจนัก เมื่อทั้งคู่ได้ใช้เวลาด้วยกัน อดีตที่กง อู จิน พยายามจะลืม ก็ฟื้นกลับคืนมาหลังจากที่หญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ออกตามหาญาติที่ขาดการติดต่อไปนาน 13 ปี ยิ่งเธอเข้าใกล้ความจริงเรื่องญาติ อู จิน ก็เหมือนถูกฉีกกล่องความทรงจำที่อยากจะลืม ให้เปิดกว้างมากขึ้นเท่านั้น เขาเกือบจะพ่ายแพ้ต่อความเจ็บปวดอยู่หลายครั้ง แต่เพราะความรู้สึกดี ๆ ที่ทั้งสองคนต่างมีให้ต่อกัน จึงทำให้ทั้งคู่ก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ในที่สุดความรู้สึกหลังจากได้ดู1. โลกของเด็กสาววัย 17 ที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นโลกของคนอายุ 30 อย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เพราะตัวตนของ อู ซอรี ที่มีความอ่อนโยน มีน้ำใจ มองโลกในแง่ดี บวกกับความสดใสแบบเด็กสาววัยมัธยมปลายของเธอ ทำให้ซอรี มองข้ามอุปสรรค หรือเงื่อนไขต่าง ๆ และใช้ชีวิตไปตามความหวังในใจที่มี เธอมองแค่ปัจจุบัน โดยไม่ได้เอาอดีต หรือ อนาคตมาคิดบั่นทอนความรู้สึก ความหวัง เหมือนที่ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนติดกับดักประเด็นเหล่านี้ได้ทำกัน2. การใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความหวัง แต่ไม่กดดัน ของ อู ซอรี แสดงให้เห็นว่า เมื่อไหร่ที่ชีวิตมีอุปสรรคแล้วเรามองข้ามมันไป หรือไม่สนใจว่ามันคือความยากลำบาก เราก็จะมองหา และมองเห็นโอกาสที่มีอยู่รอบตัวได้มากขึ้น นอกจากนั้นแล้วผู้คนรอบข้าง ก็อยากที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับคนที่ต้องการสู้อย่างมีความหวังอีกด้วย ตรงกันข้ามกับคนที่มีปัญหาเข้ามาในชีวิตแล้วเอาแต่ฟูมฟาย ตัดพ้อ มองเห็นแต่ความยุ่งยากและสิ้นหวัง ต่อให้คนรอบข้างอยากช่วยแค่ไหน เขาก็เอาแต่พร่ำบ่นว่าไม่มีทางที่เขาจะผ่านพ้นไปได้ สุดท้ายแล้วก็ลงเอยที่ไม่มีใครอยากจะยุ่งหรือยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ 3. กำแพงโลกส่วนตัวของชายหนุ่มถูกพังลง เพราะความสัมพันธ์ระหว่าง ซอรี, ชาน, เพื่อนของชาน และแม่บ้านเจนนิเฟอร์ ถึงแม้ว่า อู จิน จะสร้างกำแพงไว้สูงแค่ไหนก็ตาม แต่ละครเรื่องนี้ก็ทำให้เห็นว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดำเนินไปด้วยความรัก และการมีปฏิสัมพันธ์ ถึงแม้ใจจะปฏิเสธว่าไม่ต้องการ แต่เมื่อได้สัมผัสกับความรัก ความเอาใจใส่ การได้เป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ คือสิ่งที่เบื้องลึกของมนุษย์ทั้งหลายต่างก็ต้องการ ที่ อู จิน สร้างกำแพงขึ้นมา ก็เพื่อปกป้องความรู้สึกของเขาไม่ให้เจ็บปวดอีกครั้ง แต่เขาไม่เคยรู้ตัวเลยว่า นอกจากกำแพงทีเขาสร้างขึ้นมา จะป้องกันไม่ให้ความทุกข์ที่เกิดจากการมีสัมพันธ์กับผู้คนเข้ามา ในเวลาเดียวกันมันก็ยังเป็นการปิดกั้นความสุขที่จะหาได้จากการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นด้วย และเมื่อเขาเข้าใจมัน กำแพงที่เคยสร้างไว้ก็ถูกพังลงทันที4. อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้ว่าชีวิตหลาย ๆ คนดูเหมือนจะไปด้วยดี แต่ก็มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เหมือนอย่างชีวิตของซอรี ที่กำลังจะไปได้ไกล เมื่อความฝันได้ถูกสานต่อ โดยเธอได้รับคัดเลือกให้ได้เรียนเอกไวโอลินที่ประเทศเยอรมนี แต่ชีวิตที่วาดไว้ก็ต้องหยุดลง หลังจากเธอประสบอุบัติเหตุ ละครได้สื่อให้เห็นถึงความเป็นจริงข้อนี้ว่า ต่อให้คุณจะมีพรสวรรค์หรือความสามารถมากแค่ไหนก็ตาม แต่โลกก็ยังมีบททดสอบด้านอื่นเข้ามาในชีวิตอย่างเสมอภาค คนที่แข็งแกร่งและเข้าใจโลกเท่านั้นจึงจะใช้ชีวิตถึงวันสุดท้ายได้อย่างคุ้มค่าจริง ๆ (ถ้าใครที่ชอบต่อว่าโชคชะตาชีวิตของตัวเองว่าไม่ดีเหมือนคนอื่นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วสามารถแกะปริศนาข้อนี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุขเยอะขึ้นทีเดียวค่ะ)5. ความรักแบบใส ๆ เนื้อเรื่องดำเนินไปแบบที่ไม่มีฉากหวือหวาเรื่องเพศ ละครเรื่องนี้จึงเหมาะสำหรับวัยรุ่น ให้ดูได้อย่างไม่มีพิษภัยแอบแฝง บวกกับฉากมิตรภาพ การให้ความช่วยเหลือกันและกันของความสัมพันธ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อน แม่บ้าน หรือคนแปลกหน้าอย่าง ซอรี ก็ตามThirty but Seventeen เป็นหนึ่งในละครที่อยากแนะนำให้คุณได้ดูในช่วงที่สถานการณ์ของโลกใบนี้ทำให้เราเครียดหรือวิตกจากโรคระบาด เพราะนอกจากเนื้อหาที่เบา ๆ ใส ๆ แล้ว ยังได้แววตาและรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ของพระเอก ยาง เซ จง กับการแสดงที่เข้าถึงบทบาทของนางเอก ชิน ฮเย ซอน ทำให้ดูเพลินจนไม่อยากให้จบเลยค่ะ ^^Photo By SBShttp://sbsfune.sbs.co.kr/news/news_content.jsp?article_id=E10009212078https://programs.sbs.co.kr/drama/30but17#