สวัสดีค่า กลับมาอีกครั้งกับบทความพาไปเที่ยว ทริปนี้เป็นทริปที่เราไม่ได้ตั้งใจจะไปนัก หลาย ๆ อย่างค่อนข้างฉุกละหุก แต่สนุกมาก ๆ :-) เรื่องมันเริ่มขึ้นจากที่มหาวิทยาลัยของเราเปิดรับสมัครนักศึกษาเพื่อไปเป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุม ASEAN Medical Student Network (AMSN) นี่ก็สมัครไปเพราะอยากหาประสบการณ์ ปั่นใบสมัครแทบไม่ทัน เพราะเปิดรับ 14.00 ปิด 21.00 แต่สุดท้ายเราก็ได้สัมภาษณ์ และผ่านการคัดเลือก เพื่อเป็นตัวแทน 2 คนจากคณะเราไปร่วมกิจกรรมที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียแอบเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่ากิจกรรมนี้มีคณบดีและนักศึกษาแพทย์จาก 15 โรงเรียนแพทย์ทั่วอาเซียนมาเข้าร่วม! เราได้เจอคนจากประเทศมาเลเซีย บรูไน เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นของบทความนี้ เนื่องจากช่วงที่เราไปร่วมประชุมนั้นเป็นวันหยุดยาวของไทยพอดี เราเลยขออนุญาตอยู่ต่อ และเริ่มทริปเที่ยวกัวลาลัมเปอร์กันเลย !!!DAY 1 Central Market - KL Tower - Pavillion - Petronas Twin Towersวันนี้เป็นวันแรกที่เราเริ่มเที่ยว เรามีเวลาประมาณครึ่งวันสำหรับวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจกับงานประชุมในช่วงเช้า (เทียบกับการที่เพื่อน ๆ นั่งเครื่องบินมามาเลเซียก็ได้) สำหรับที่แรกที่เราไปนั้นคือ Central Market ตลาดที่อยู่ใจกลางเมืองกัวลาลัมเปอร์ มีของซื้อของขายหลายอย่าง บรรยากาศคล้าย ๆ เอเชียทีคบ้านเรา เนื่องจากที่เที่ยวอันนี้เราไปกับคนมาเล เขาเลยพาเราไปร้านอาหารอินเดียแบบเด็ดสุด ๆ แบบว่าถ้าเราไปเองคงไม่ได้ไปกินร้านนี้ร้านชื่อ Vinny Jeyaa Banana Leaf Curry House ไม่ได้อยู่ใน Central Market ซะทีเดียว เปิด Google Map เดินได้ เมนู signature ของที่นี่คือเซตอาหารที่เสิร์ฟบนใบตอง (Set Menu on Banana Leaf) แล้วคนที่นี่ก็กินด้วยมือ (OMG OMG Culture shock เล็กน้อย แต่เป็นปกติของคนที่นี่ เขาโปรกันมาก เราก็ลองไป 2 คำ และค้นพบว่าถ้ากินด้วยมือน่าจะไม่เสร็จวันนี้ เลยขอช้อนส้อมกลับมากินแบบปกติ) และอีกสิ่งที่ควรลองของมาเลเซียคือ ไมโล เขาทำอร่อย แต่อย่าลืมสั่งหวานน้อยกว่าจะกินเสร็จ เดินเล่นเรียบร้อย ก็เกือบ 15.00 เราก็ได้เดินทางไปเช็คอินโรงแรม รอบนี้เราจองโรงแรมชื่อ Stay with Bintang เป็นโรงแรม 3.5 - 4 ดาว ดีมากกกกกกกกกกกกกก ราคาดีสุด ๆ เช่นกัน Highly recommended แถมอยู่ใจกลางเมืองสุด ๆ ห่างตลาด Jalan alor 200 เมตร ห่างห้าง Pavillion แบบไม่ถึง 10 นาทีเดินถึงเนื่องจากเราค่อนข้างเหนื่อยจึงพักผ่อนก่อนออกไปเที่ยว การไปเที่ยวในครั้งนี้เราใช้ Grab เป็นหลัก ราคาไม่แรงมาก ถ้าเป็นหลายคนนี่หารสบาย เราไปกับเพื่อนแค่ 2 คนแต่ก็รู้สึกว่าราคารับได้ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าดีกว่าการใช้รถไฟฟ้า เนื่องจากต้องรอค่อนข้างนาน ระยะห่างของแต่ละขบวนเฉลี่ย 12 นาที Rush hour หน่อยก็อาจจะ 9 แต่สำหรับเรามันช้าและต้องเปลี่ยนสายแบบค่อนข้างวุ่นวาย เพราะงั้น Grab ค่ะ พูดอังกฤษได้ทุกคน คุยสนุก รถสบาย แค่อย่าเรียกไปแถว ๆ Pavillion เพราะรถติดมากกกกกกกกกกกกกกPavillion เป็นห้างที่เหมือนพารากอน ไอคอนสยาม เหมาะกับสายช้อปปิ้ง นี่ก็ได้มาหลายอย่าง ร้านอาหารเยอะด้วย มาเลือกชมเลือกทานกันได้เราไป KL Tower แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ Sky deck + Sky box จะได้เห็นวิวได้ครบวงจร ราคาประมาณ 600 กว่าบาทไทย ซื้อไปก่อนได้เลยPetronas Twin Towers มีโชว์ไฟตอน 20.00 น. มีคนรับจ้างถ่ายรูปเยอะมาก ใครสนใจก็ใช้บริการได้ แต่เราหา spot ถ่ายรูปดี ๆ ได้ ก็คือหน้าห้างมันจะมีแนวน้ำพุ ให้เดินไปจนสุดทางน้ำพุ และลงบันไดไปอีก ให้คนถ่ายนั่งลงถ่าย รับรองเก็บหมด สวยปัง ไม่เสียเงินDAY 2 Genting Highlandอันนี้แบบ อยากไปมาก ชอบไปสวนสนุก ราคาค่าบัตรประมาณ 1000 กว่า ๆ ซื้อไปจากไทยได้เลย วิธีการเดินทางที่ดีที่สุดสำหรับเราคือ รถบัส รถออกจากสถานี KL Sentral ไป Awana Bus station ราคา 10 ริงกิต !! ต้องจองตั๋วบัสล่วงหน้า ไม่งั้นเสี่ยงไม่ได้ไป เพราะคนใช้บริการเยอะมาก !! เราใช้ของ Aerobus โอเคอยู่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงพอถึงที่ปลายทาง เราต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปต่อ เราซื้อตั๋วกระเช้าไว้พร้อมกับบัตรเข้าสวนสนุกแล้ว ราคาไม่แพง หรือใครจะซื้อหน้างานก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงบทสวนสนุกแล้วขอบอกเลยว่า Genting กว้าง มาก มีโซน Indoor เป็นสวนสนุกและห้าง และ Outdoor เป็นสวนสนุก เราซื้อตั๋วสวนสนุกแบบ Outdoor บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ดีกว่าที่คิดเยอะมาก มีโซน Rio, Ice age, Andromeda โซนที่เราชอบเป็นพิเศษคือ Night at the museum สาวกอย่างเราคือเหมาของฝากทั้งร้าน ละราคามันดีมากทุกคน ซื้ออะไรก็ได้ครบ 4 ชิ้นลด 30% ไรงี้ คุ้มข้างบนสวนสนุกมีอาหารขาย ไม่ต้องพกมาก็ได้ ราคารับได้ มีให้เลือกแบบละลานตา สวนสนุกโซน outdoor เปิด 11.00-18.00 เราเก็บของเล่นได้ไม่หมด แต่ที่เล่นไปก็คือดีอยู่ โหลดแอปมาใช้จะทำให้เที่ยวสนุกและสะดวกมากขึ้นพอหมดเวลาเราก็เลือกที่จะนั่งกระเช้าลงมาเลย เพราะตรง Awana Bus stop เชื่อมกับ Awana Premium Outlets ค่าาา ลงมาหาอะไรกินแล้วก็ช้อปปิ้งจนถึงรอบรถบัสกลับ KL Sentral เลย ขากลับรถติดนิดนึงสำหรับใครมีเวลา เราว่าอยู่บน Genting 2 วันก็ได้นะ :-) และควรเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย บางเครื่องเล่นค่อนข้างเปียก หรือฝนอาจจะตก และข้างบนค่อนข้างหนาว หมอกลง เช็คสภาพอากาศกันด้วย + ต้องฝากของใน locker ทุกกรณี ส่วนใหญ่พกได้แค่โทรศัพท์ แต่ locker เป็นแบบเปิดปิดกี่ครั้งก็ได้ ราคาประมาณ 20 หรือ 25 ริงกิต แล้วแต่เวลาที่ฝาก และถ้าจำไม่ผิด ไม่รับเงินสด เตรียมบัตรกันไปด้วยDAY 3 Putrajaya - NU Sentral - Jalan Alorวันนี้ช่วงเช้าติดธุระ เลยเลือกที่จะไปลองชานมไข่มุกชื่อดังของมาเลเซียก่อนออกไปเที่ยว ร้าน Tealive นั่นเอง เราสั่งอันที่มันเป็นชานม มีไข่มุกและครีมชีส ประมาณ 15 ริงกิต อร่อยมากเด้อ Highly recommended แต่อ้วนมากเช่นกัน แหะ ๆ พอมีของกินแล้วก็พร้อมออกเดินทางไป Putrajaya เพื่อไปชมมัสยิดสีชมพูชื่อดัง สวยจริงนะทุกคน ตั้งอยู่ในเมือง Putrajaya เป็นเมืองที่เป็นแหล่งรวมการบริหาร แนว ๆ นนทบุรีที่มีกระทรวงเต็มไปหมด เมืองนี้ไม่วุ่นวายเหมือน KL เราชอบมาก ๆการที่จะเข้า Putra Mosque ได้ ผู้หญิงต้องแต่งตัวแขนยาว ขายาว คลุมผ้า เหมือนคนมุสลิม ซึ่งทางมัสยิดมีชุดคลุมให้ยืม ไม่ต้องกังวล ส่วนผู้ชายแค่ต้องใส่ขายาว พี่เจ้าหน้าที่น่ารัก และถ่ายรูปให้เราด้วย เราใช้เวลาในมัสยิดอยู่พักหนึ่งและออกมาเดินเล่นแถวนั้น ก็จะเห็นสถาปัตยกรรมสวย ๆ แนวอิสลามด้วยเสร็จแล้วก็มุ่งหน้ากลับเมืองของเรา รอบนี้เราไปที่ห้าง NU Sentral ที่เชื่อมกับสถานี KL Sentral ก่อนเพื่อหาอะไรทาน แต่จริง ๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ไม่ค่อยประทับใจเท่า Pavillion และสุดท้ายเราก็กลับไปเดินตลาด Jalan Alor ใกล้ที่พักของเรา ซึ่งสำหรับเราก็ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่เนื่องจากมีแต่ร้านอาหารไทย เดินทั้งเส้นแล้วเจอร้านสะเต๊ะแค่ร้านหรือสองร้านDAY 4 Sultan Abdul Samad Building - Petaling Street market - BookXcess - Batu Caves - KLIAเช้านี้เราไปเที่ยวแถว Central Market เพิ่มเติม โดยการไปเที่ยว Sultan Abdul Samad Buidling ซึ่งเราว่าสวยมาก ควรไปถ่ายรูปกัน Petaling street market อันนี้คล้ายสำเพ็งบ้านเรา ไม่ได้มีอะไรเท่าไหร่หรือไม่เราก็ไปไม่ถูกเวลา BookXcess ร้านหนังสือสุดฮิตตอนนี้ under construction เลยไม่ได้มีอะไรมากแต่สิ่งที่อยากแนะนำคือร้านอาหารชื่อ Lai Foong lala Noodle เราถามคน local มาว่าเด็ด ซึ่งเด็ดจริง ราคาดีด้วย portion ใหญ่มากเปลี่ยนแนวจากมุสลิมไปทางฝั่งฮินดูบ้าง Batu caves เป็นถ้ำที่อยู่บนเขา มีสีสันฉูดฉาดสไตล์ฮินดู เดินขึ้นบันไดค่อนข้างเยอะ แถมชันสุด ๆ ไม่แนะนำสำหรับผู้มีปัญหาที่เข่า หากจะขึ้นไปด้านบนต้องแต่งตัวเรียบร้อยด้วย กางเกงไม่ขาด เสื้อมีแขน ปล. มีนกพิราบและลิงเยอะมาก ส่วนตัวแบบว่าไม่ค่อยชอบ T^T กลัวเป็นไข้หวัดนกมากแต่คนก็ถ่ายรูปกับนกพิราบกันข้าง ๆ Batu caves มีสถานีรถไฟ เข้าเมืองราคา 8 ริงกิต รถไฟฟ้าที่นี่ ไม่รับการจ่ายด้วยบัตร !!!!!!!!!! เตรียมเงินสดให้พอตลอดนะทุกคน เนื่องจากสถานีตรงนี้มันจะแนว ๆ รถไฟทางไกล รถจะออกทุก 1 ชั่วโมง โปรดเช็คตารางเวลาก่อนตัดสินใจเลือกวิธีเดินทางนี้ ไม่งั้นจะต้องรอนานมาก ๆ กว่าเราจะกลับมาถึงโรงแรมก็ประมาณ 15.30 ใกล้ได้เวลาเดินทางไปสนามบิน แต่ก่อนไปก็ได้แวะไปซื้อร้านไอติมชื่อดังของมาเลเซีย llaollao นั่นเอง Pistachio อร่อยมาก Highly recommended จ้า และก็ ถ้ามีโอกาส เราซื้อ Special Menu ของ McDonald ไปกินที่สนามบินด้วย ราคาประมาณ 15 ริงกิต เป็นเบอร์เกอร์เนื้อ ขนมปังสีดำน่าจะเป็นชาร์โคล รสชาติเผ็ด อร่อย!! มาเป็นเซตคู่กับเครื่องเคียงและเครื่องดื่ม เราเลือกชานมร้อน สั่งหวานน้อย คุ้มค่าราคาการเดินทางไปสนามบินเราเลือกรถบัส เนื่องจากราคาดี ถ้า Grab ไปสนามบินมันจะชาร์จเยอะนิดนึง บัสราคา 13 ริงกิต ออกจาก KL Sentral เช่นเดิม 1 ชั่วโมงถึง ระวังไปผิดสนามบิน มันมี International กับ Domestic departure ซึ่งก็อยู่ห่างกันนิดหน่อย เดินไม่ถึง ต้องใช้ Shuttle bus หลังจากเช็คอิน ขึ้นเครื่อง เราก็เดินทางกลับประเทศไทยอย่างสวัสดิภาพหวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์และเอนจอยบทความนี้ แล้วเจอกันใหม่ค่า :-DCredit: All photos and cover photo taken by hockiii (content creator)แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “ท่องเที่ยว”