อื่นๆ

ชายแก่นางรำ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ชายแก่นางรำ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำงานเกี่ยวกับวิ่งมาราธอนและไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเจอเรื่องแปลกๆ แบบนี้ ถือเป็นเรื่องสุดหลอนอีกเรื่องหนึ่งที่ได้เจอครับ

ผมได้ไปถึงสถานที่จัดงานวิ่งซึ่งเป็นสวนสาธารณะใหญ่ใจกลางเมืองภูเก็ต มีต้นไม้ปกคลุมอยู่พอสมควร *ขออนุญาตไม่บอกชื่อนะครับแต่เชื่อว่าทุกคนในภูเก็ตน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี ขอใบ้เพิ่มว่า... ข้างหลังสวนสวนสาธารณะติดกับทะเลซึ่งสามารถมองเห็นทะเลที่สวยงามได้อย่างชัดเจน เราไปถึงช่วงประมาณสี่โมงเย็นก่อนวันจัดงานหนึ่งวัน บรรยากาศที่นั้นดูไม่คึกคักเท่าไหร่มีคนมาออกกำลังกายน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ที่ผมได้ไปมา ผมก็เริ่มเดินสำรวจสถานที่จัดงานเพื่อไปจะได้เตรียมของไว้สำหรับงานวันพรุ่งนี้ ระหว่างที่ผมกำลังเดินสำรวจสถานที่อยู่นั้นก็ได้เจอผู้ชายแก่ๆ คนหนึ่งกำลังวิ่งออกกำลังกายคนเดียวและแกก็เปิดเพลงไปด้วยแต่ที่แปลกก็คือ แกเปิดเพลงออกแนวจีนๆ เก่าๆ แล้วเต้นไปชูมือไปมา ผมมองดูแล้วยังแอบคิดในใจว่า

Advertisement

Advertisement

นี้แกกำลังวิ่งออกกำลังกายหรือมีองค์ลงเข้าทรงอยู่

ซึ่งผมเองก็ยังรู้สึกตลกๆ กับแกและก็คิดว่าแปลกดีเพราะแกไม่สนใจคนรอบข้างเลย หลังจากที่สำรวจสถานที่เสร็จประมาณหกโมงเย็นก็กลับเข้าที่พักและทางทีมงานก็ได้เซ็ตเวลาที่จะกลับไปเตรียมตัวเรื่องทำสถานที่อีกครั้งในตอนตีสี่ เพื่อจะให้ทันต้อนรับคนที่จะมาทำงานต่อในช่วงเจ็ดโมงเช้า

...

เราได้กลับมาที่สวนสาธารณะนี้อีกครั้งประมาณตีสี่สิบห้านาที บรรยากาศที่นี้ดูน่ากลัวเยอะขึ้นกว่าเดิมมากเพราะมีไฟในสวนสาธารณะเปิดขึ้นแค่ไม่กี่ดวง ต้นไม้ที่นั่นก็ดูสั่นไหวกว่าปกติมาก อาจเป็นเพราะลมทะเลที่พัดเข้ามาเป็นบรรยากาศที่วังเวงมากกว่าตอนเย็นๆ  หน้าที่แรกของผมคือต้องสำรวจสถานที่อีกครั้งว่ายังสามารถตั้งของต่างๆ ได้ตามกำหนดการหรือไม่ ผมต้องเดินจากหน้าสวนสาธารณะไปท้ายสุด ซึ่งบรรยากาศตอนนั้นเย็นจนขนลุกแปลกๆ ระหว่างที่ผมเดินไปเกือบจะถึงท้ายสวนสาธารณะ ผมก็มองเห็นคนกำลังออกกำลังกายอยู่คนเดียวเป็นเงาดำๆ โยกย้ายมือไปมา ซึ่งจริงๆ ผมเองไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะมักจะมีคนที่มาออกกำลังกายตอนเช้ามากๆ อยู่เป็นประจำเสมอ แต่ที่แปลกใจคือตรงนั้นมืดมากและยังเป็นที่เดียวกับที่ผมเจอชายแก่ๆ วิ่งเมื่อช่วงเย็น ผมเดินไปตามทางปกติจนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สิ่งที่ผมเห็นเริ่มชัดเจนมากขึ้น

Advertisement

Advertisement

ผมเริ่มจำได้ว่าคนที่ผมเห็นคือชายแกคนเดียวกันกับตอนเย็นๆ ผมเห็นแกด้านหลังผมหยุดมองแกสักพัก แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากที่สุดคือ แกไม่ได้เต้นแบบตอนเย็น

แกกำลังรำอย่างอ่อนช้อยโดยที่ไม่มีเพลงดังสักนิด ผมเหมือนขยับจะก้าวขาไปไหนไม่ออก อยากจะหันหลังแล้ววิ่งกลับก็ทำไม่ได้ผมได้แต่ยืนมองอยู่สักพักแต่แค่แปปเดียวสิ่งที่ผมคิดและไม่อยากให้เกิดขึ้นมันกำลังจะเกิดขึ้น คือแกค่อยๆ หันตัวกลับมาหาผมอย่างช้าๆ พร้อมกับการร่ายรำที่ชวนผมขนลุกมาก ผมหลับตาและเริ่มสวดมนต์ในใจพอได้สติขึ้นมาบ้าง ผมค่อยๆ หันหลังกลับทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตาและเดินเร็วขึ้นพร้อมกับฟังเสียงไปด้วยว่าจะมีอะไรตามมาไหม ผมรู้สึกถึงลมปะทะเข้ามาที่หน้ามากขึ้น ผมจึงหยุดเดินผมยืนอยู่สักครู่และค่อยๆ ตัดสินใจลืมตาขึ้นอีกครั้งข้างหน้าผมกลายเป็นวิวทะเล ผมยืนอยู่ขอบฟุตบาทที่ถ้าเดินออกไปอีกสามก้าวจะเป็นทะเลที่ไม่มีชายทะเล ผมค่อยๆ นั่งลงตรงนั้นโดยที่ไม่หันกลับไปมองข้างหลัง จนเริ่มมีแสงของพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าผมจึงได้เดินกลับไปตรงสถานที่ทำงาน โดยที่น้องๆ ที่ทำงานถามว่า ผมหายไปไหนมาโทรศัพท์ก็ไม่รับ ผมไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือเลยและได้ตอบกลับน้องๆ ที่ทำงานไปว่า ไปนั่งหลับอยู่ริมทะเลมาจนตอนนี้ผมก็ได้กลับมาที่กรุงเทพแล้ว เป็นความหลอนที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในภูเก็ตฝากไว้ให้กับผม และผมยังไม่ได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ใครได้ฟังอีกเลย เล่าที่นี้เป็นที่แรก

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์