วันนี้มีทริคเล็กๆ สำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิตมาฝาก วิธีนี้จะทำให้ชีวิตของเรานั้นง่ายขึ้นคงปฎิเสธไม่ได้ว่าโปรแกรมสำนักงานขั้นพื้นฐานที่ต้องมีติดเครื่องและต้องใช้ คือ "โปรแกรมไมโครซอฟท์ ออฟฟิต" (Microsoft Office) ซึ่งถูกพัฒนาโดยไมโครซอฟท์ ตัวโปรแกรมนั้นถูกพัฒนาขึ้นและก้าวเข้าสู่ตลาดราวปี 90 นั้นเองขอบคุณที่มาของภาพ : https://pixabay.com/th/photosในตัวซอฟต์แวร์จะมีโปรแกรมแยกตามแต่ละประเภทการใช้งาน ดังต่อไปนี้Microsoft Word โปรแกรมพิมพ์จดหมาย เอกสารสำนักงานต่างๆMicrosoft PowerPoint โปรแกรมการนำเสนอผลงานMicrosoft Excel โปรแกรมคำนวณ มีฟังก์ชันในการคำนวณทางคณิตศาสตร์Microsoft Access โปรแกรมฐานข้อมูลMicrosoft OutLook โปรแกรมรับ/ส่งอีเมลMicrosoft OneNote โปรแกรมสมุดบันทึกMicrosoft Publisher โปรแกรมเอกสารเผยแพร่ เน้นทางสิ่งสื่อพิมพ์ขอบคุณที่มาของภาพ : https://pixabay.com/th/photosส่วนโปรแกรมที่ต้องเจอกันบ่อยสุด คงหนีไม่พ้น "โปรแกรมไมโครซอฟท์ เอกซ์เซล" (Microsoft Excel) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เน้นในการคำนวณ ลักษณะการทำงานคล้ายกับ Microsoft Word แต่มีความสามารถที่เพิ่มขึ้นในด้านการใช้สูตรคำนวณได้ ไม่ว่าจะคำสั่งพื้นฐานในการคำนวณ ไปจนถึงขั้นสูง นับว่าเป็นโปรแกรมที่มีความสามารถหลากหลาย เครดิตภาพ : เจ้าของบทความความสามารถของโปรแกรม1. คำนวณทางคณิตศาสตร์ตั้งแต่พื้นฐาน (บวก ลบ คูณ หาร)2. คำนวณแบบมีเงื่อนไข เช่น การตัดเกรดของนักเรียน3. การหาค่าเฉลี่ย4. การนับจำนวนเฉพาะที่ต้องการแสดง5. การสร้างกราฟจากข้อมูลที่บันทึกหรือคำนวณลงไป โดยมีรูปให้เลือกอย่างหลากหลาย ดังตัวอย่างแม่แบบด้านล่างเครดิตภาพ : เจ้าของบทความในวันนี้เรามีทริคจะมานำเสนอในเรื่องของการบันทึกไฟล์ Excel ให้เป็นไฟล์ PDF โดยไม่ต้องแปลงไฟล์ หรือใช้โปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการบันทึกที่แสนง่ายดาย สามารถประหยัดเวลาได้มากขึ้นเอกสาร PDF (Portable Document Format) คือ เอกสารที่สร้างมาจาก "โปรแกรม PDF Creator" ซึ่งตัวเอกสารจะเป็นไฟล์ที่มีคุณภาพสูง และไม่สามารถแก้ไขรายละเอียดในเอกสารได้ คงเอกสารตามต้นฉบับ แสดงได้ในรูปแบบที่ถูกสร้างขึ้นมา เอกสารสามารถเปิดดูได้เท่านั้นเครดิตภาพ : เจ้าของบทความ วิธีบันทึกไฟล์ Excel ให้เป็น PDF1. เปิดไฟล์ต้นฉบับ ที่เป็นไฟล์ Excel ขึ้นมา2. เลือกเขตพื้นที่การพิมพ์ โดยกดเม้าส์ด้านซ้ายแช่แล้วลากไปยังพื้นที่ต้องการเครดิตภาพ : เจ้าของบทความ3. คลิกที่แทบหน้าแรกแล้วเลือกปุ่มบันทึก > คลิกบันทึกเป็นเครดิตภาพ : เจ้าของบทความ4.จากนั้นจะขึ้นหน้าต่างป็อปอัพขึ้นมาให้เลือก > เลือกบันทึกเป็นชนิด เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ5. เมื่อหน้าจอแสดงรายละเอียดขึ้นมาให้เลือกเป็นไฟล์ PDF > คลิกตกลงเครดิตภาพ : เจ้าของบทความ6. จากนั้นหน้าจอจะขึ้นแจ้งเตือนว่ากำลังพิมพ์ ให้เรารอสักครู่ หลังจากนั้นเราก็จะได้ไฟล์ PDF ที่เราต้องการ สามารถส่งต่อให้บุคคลที่สามได้อย่างไม่กังวลใจอีกต่อไป เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ ลองนำไปใช้กันดูนะคะ