ฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตามาสองวันแล้วเป็นสัญญาณว่า ฤดูฝนได้ย่างกรายเข้ามาอย่างจริงจังเสียทีสิ่งที่ตามมาคือ เป็นช่วงเวลาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้ ไม่ว่าจะเป็น เงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียน ใช่ !!! ทุเรียนผลไม้ที่หลาย ๆ คนรอคอย แค่ได้ยินชื่อกลิ่นก็โชยมาก่อนแล้ว เมื่อก่อนเคยได้ยินว่าทุเรียนที่มีรสชาติดีจะมีอยู่ที่ภาคตะวันออกหรือภาคใต้ แต่ในยุคนี้ 4 จีและกำลังจะเข้าสู่ 5 จี มีทุเรียนที่ภาคอีสาน แถมเป็นทุเรียนที่ร้อนแรงที่สุดอีกด้วย !!! ทุเรียนภูเขาไฟ กันทรลักษณ์ ศรีษะเกษ... รออะไรไปดู ไปชิมกันให้ถึงที่ เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นออกเดินทางด้วยรถคันเดิม เพิ่มเติมคือ คนที่ร่วมทางโดยเดินทางไปตามเส้นทางจังหวัดร้อยเอ็ด – สุวรรณภูมิ อ.ราษีไศล เข้าสู่เมืองศรีสะเกษ และตรงไปยัง อ.กันทรลักษณ์ ระยะทางประมาณ 230 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางในราว 4 ชั่วโมงเห็นจะได้ ตามรายทางจะมีชาวบ้านมาวางขายหอม กระเทียม พริกแห้งเป็นระยะ ๆ ถึงที่หมายที่ บ้านซำตารมย์ ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีษะเกษ นั่งรถมาเหนื่อย ๆ ได้มาเห็นสวนทุเรียน ต้นทุเรียนเรียงเป็นแนว มีผลดกเกือบทุกต้นหายเหนื่อยในทันทีเหลือแต่ความหิวละทีนี้... แต่อย่างไรก็รู้สึกตงิด ๆ สงสัยในใจอยู่ว่าเหตุใดจึงได้ชื่อว่า “ทุเรียนภูเขาไฟ” แล้วรสชาติต่างจากทุเรียนที่อื่นอย่างไร มาว่าด้วยเรื่องชื่อก่อน ส่วนเรื่องรสชาตินั้นเมื่อมาถึงที่แล้วคงต้องพิสูจน์ให้เห็นกับลิ้นของตนเองแน่นอนอยู่แล้ว จากการสืบค้นข้อมูล พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน มีการปะทุและดับสนิทไปแล้วเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน ที่ยังปรากฏร่องรอยให้เห็นได้แก่ ภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ ภูเขาไฟหินพนมรุ้ง ที่ จ.บุรีรัมย์ เข่นกัน ทำให้ดินบริเวณ อ.กันทรลักษณ์ หรือพื้นที่แถบนี้เป็นดินภูเขาไฟ เมื่อมีการนำต้นทุเรียนจากจันทบุรีมาปลูกจึงเรียกขานกันว่า “ทุเรียนภูเขาไฟ” สวนทุเรียนที่บ้านซำตารมย์ ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีษะเกษ ชาวบ้านที่นี้ปลูกทุเรียนกันทุกครัวเรือนมากน้อยตามพื้นที่ที่มี มาชมและซื้อถึงสวนในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงทุเรียนสุก ได้ทุกวันราคาจะถูกกว่าซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง ยังมีบรรยากาศสวนทุเรียนให้ได้ชมอีกด้วย สวนที่ดั้นด้นเดินทางมาวันนี้มีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ เจ้าของสวนออกมาต้อนรับด้วยตนเองและพาเดินชมสวน จากสายตาที่เห็นน่าจะมีต้นทุเรียนนับร้อย ๆ ต้น รายเรียงความสูงไล่ ๆ กันประมาณต้นละ 5 เมตร ทรงต้นมีลักษณะเป็นพุ่มคล้าย ๆ กัน แสดงถึงความใส่ใจหรือเป็นความสูงหรือลักษณะตันที่ดูแลง่าย ให้ผลลิตสูง ต้นทุเรียนห่างกันประมาณต้นละ 10 เมตร สังเกตดูว่าพื้นดินบริเวณนี้จะมีสีแดงเข้มเลยแตกต่างจากดินบริเวณอื่นจริง ๆ นี่ละมั้งที่เรียกว่า ดินภูเขาไฟ ต้นทุเรียนแต่ละต้นจะมีผลดก คะเนด้วยสายตาประมาณต้นละ 20 – 30 ลูก คิดเฉลี่ยง่าย ๆ ลูกละ 300 บาทเป็นอย่างน้อยกิโลกรัมละ 150 บาท ทุเรียนต้นหนึ่งจะได้เงินอย่างต่ำ 6,000 บาท มีต้นทุเรียนเป็นร้อย ๆ ต้นเงินที่ได้จากการขายทุเรียนในฤดูกาลนี้จะประมาณ 600,000 บาท เห็นตัวเลขแล้วนึกอยากเป็นเจ้าของสวนทุเรียนจริง ๆ เมื่อได้ฟังจากเจ้าของสวนบอกว่า กว่าจะปลูก ดูแลประคบประหงม จนทุเรียนให้ผลผลิตไม่ง่าย ลงทุนไปไม่น้อยต้องใช้เวลาหลายปี เลยพูดกับเจ้าของสวนว่า ขอเป็นแค่ผู้มาชิม ช้อป ใช้ทุเรียนก็เพียงพอแล้ว เจ้าของสวนตอบแบบยิ้ม ๆ ว่า ชิมแล้ว ช้อปแล้ว ก็ให้ใช้เงินซื้อด้วยนะครับ... มาถึงสวนทุเรียนภูเขาไฟแล้วที่จะพลาดไม่ได้เลย คือ การชิม ลักษณะภายนอกของทุเรียนภูเขาไฟเหมือนกับทุเรียนโดยทั่วไป เปลือกหนาหนามแหลม การผ่าหากไม่ชำนาญการผ่าก็ลำบากน่าดู เมื่อผ่าทุเรียนเปลือกออกจะเห็นเนื้อในจะมีเนื้อแห้งสีเหลืองจาง ๆ ไม่เข้ม แต่ละพูสวย กลิ่นจะไม่ฉุน มีกลิ่นอ่อน ๆ ลอยมาปะทะจมูก เอื้อมมือไปหยิบมาเข้าปาก ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ คือ มีรสชาติละมุนลิ้น หวามมันอร่อยกว่าทุเรียนที่เคยได้กินมาจริง ๆ สมแล้วที่ตั้งใจมาถึงสวน นอกจากนี้ยังมีงานที่หน่วยงานทางราชการจัดขึ้นโดยใช้ชื่อว่า งานเทศกาลผลไม้ของดีอำเภอกันทรลักษณ์และมหกรรมสินค้า OTOP 63 ระหว่างวันที่ 15 – 24 มิถุนายน 2563 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษณ์ มาชม ชิมและซื้อให้สมใจปีละครั้ง ทุเรียนภูเขาไฟ กันทรลักษณ์ ศรีษะเกษ...ขอขอบคุณ : ผู้ร่วมเดินทางที่รักในการกินทุเรียนอย่างยิ่งทุก ๆ คนเรื่องโดย : เนรัญ ธาราภาพโดย : เนรัญ ธารา