งานประเพญีบุญบั้งไฟนั้น เป็นประเพณีสำคัญของชาวอีสานที่สืบทอดกันมายาวนาน โดยจะจัดขึ้นก่อนที่ช่วงฤดูกาลการทำนาจะเริ่ม ราวเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน จุดมุ่งหมายของการจัดบุญบั้งไฟก็เพื่อขอฝนตามความเชื่อมาแต่โบราณ เป็นเทศกาลปลดปล่อยความเครียดจากภาวะที่รอฤดูการทำงาน ปลูกข้าว ซึ่งเป็นอาชีพหลักในชุมชน คนในหมู่บ้านจะจัดงานเพื่อความรื่นเริง สนุกสนานเฮฮา และในแต่ละหมู่จะทำการทำบั้งไฟมาแข่งขัน ประชันกัน ถือเป็นความท้าทาย สร้างความตื่นเต้น เร้าใจให้กับเทศกาลเข้าไปอีก กิจกรรมนี้เสริมสร้างความสามัคคีในชุมชน เพราะทุกคนต่างร่วมมือกันในการสร้างงาน สร้างเทศกาลของหมู่บ้าน ฝ่ายทำบั้งไฟก็จะมีก๊วนทำกันไป คนไม่ได้ทำก็จะแบ่งหาคนมารำ เพื่อมาประกอบขบวนแห่บั้งไฟก่อนจุด คนทำดนตรี คนทำอาหาร ฝ่ายกำหนดกิจกรรม หัวหน้าชุมชน และอื่นๆ นั่นคือทั้งหมู่บ้านมีส่วนร่วม และนี่คือความมหัศจรรย์ของบั้งไฟเล็ก หมู่บ้านเล็กๆ ที่สืบสานต่อมาอย่างไม่ขาดสายมาจนปัจจุบัน บ้านชีทวน ที่จะพามาชมงานบุญบั้งไฟนี้ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นหมู่บ้านแห่งการอนุรักษ์วัฒนธรรมอีสานที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่ง มีกิจกรรมหลากหลายมาก ผู้เขียนจะนำมาเสนออีกเป็นระยะหากพอมีเวลา ถ้าหากอยากจะชมงานประเพณีบุญบั้งไฟอย่างใกล้ชิด และไม่เป็นอันตราย มีความสวยงามของวัฒนธรรม แนะนำที่นี่เลย ฟิลลิ่งคนละอย่างกับงานบุญบั้งไฟใหญ่ๆ อย่างที่ยโสธร ผู้เขียนคิดว่างานเล็กๆ ใกล้ชิดชุมชน และสวยงาม นั่นเป็นจุดขายของที่นี่ วันเวลาเริ่มจัดงานประเพณีในแต่ละปีจะต่างกันไป ถ้าสนใจเยี่ยมชมก็แวะเข้าไปที่เฟซบุ้คเพจของหมู่บ้าน เพื่อติดตามข่าวสารได้ โดยทั่วไปก็เริ่มราวต้นเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน ราวๆนี้ ลิงก์เพจหมู่บ้าน https://www.facebook.com/cheethuanlocal/ การจัดงานจะทำกัน 2 วัน วันแรกของงานจะเป็นขบวนแห่บั้งไฟของแต่ละคุ้มหมู่บ้าน มีการประกวดแข่งขัน เป็นที่สนุกสนาน ขบวนแห่จะเริ่มจากคุ้มวัดในหมู่บ้าน แล้วแห่นำขบวนผ่านตัวหมู่บ้าน ผ่านถนนที่สองข้างเป็นทุ่งนา ไปยังตัววัดอีกแห่งที่อยู่นอกตัวหมู่บ้าน ระยะไม่ไกล พอเดินตามขบวนไหว เนื่องจากเป็นงานหมู่บ้าน คนไม่เยอะ นักท่องเที่ยวสามารถชมและถ่ายรูปได้แบบชิลๆ สัมผัสบรรยากาศแบบเรียล ขอบอก การแต่งตัวนางรำก็คุ้มแล้ว สวยงาม ตำรับชาวอีสาน ท่าเต้น และดนตรีแนวเร้าใจ ฟังแล้วยังไงก็ต้องออกสเตปมือและขาตามบ้างล่ะ ในวันแห่จะไม่มีการจุดบั้งไฟใดๆ ไม่ต้องดูไป กังวลไป เมื่อแห่เสร็จนักท่องเที่ยวมีเวลาไปชมวัดสวยๆ ชมธรรมาสสิงห์ศิลปะเวียดนามแห่งเดียวในไทยได้ที่หมู่บ้านนี้เลย วันที่สองของงานจะเป็นวันจุดบั้งไฟแล้ว ที่ชีทวนบั้งไฟไม่ใหญ่มาก จัดว่าเป็นบั้งไฟเล็กละกัน ซึ่งก็ดีคือไม่อันตรายมาก การชมบั้งไฟถือเป็นความเสี่ยงต่อชีวิตเหมือนกัน มีอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นต้องอยู่ไกลๆ หามุมบังดีๆ มีต้นไม้เอาไว้บังสักหน่อย ก็ถือว่าปลอดภัยระดับนึง ในส่วนของการจัดงานนั้น ชาวบ้านจะมีฐานปล่อยบั้งไฟ ซึ่งจัดมุมยิงให้ออกไปทางทุ่งนา ซึ่งคำนวนระยะตกแล้ว ไม่ให้หลุดกรอบออกไปยังบ้านเรือนผู้คน ซึ่งเค้าทำกันมานานแล้ว รู้ระยะการพุ่งขึ้นท้องฟ้า ระยะการตก คาดการณ์ความผิดพลาดต่างๆ เอาไว้อย่างดี การแข่งขันจุดบั้งไฟ จะมีกรรมการคอยถือกล้องส่องทางไกลดู มีตัวจับเวลาโดยเริ่มจับเวลาจากการนับถอยหลังการจุด จนกระทั่งบั้งไฟร่วงหล่นบนพื้น บั้งไฟตัวไหนมีเวลารวมมากกว่าถือว่าจุดได้สูงกว่า ก็จะชนะไป การจุดไป ลุ้นไป จึงเป็นสีสันในงาน ใครแพ้ก็จะโดนเพื่อนอุ้มลงทิ่มขี้โคลนกลางนา สนุกสนานกันไป อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ การระเบิดของบั้งไฟก็เช่นกัน ดังนั้นให้อยู่ห่างเสมอ เพื่อความปลอดภัย ระยะปลอดภัยนั้นอย่างน้อย 200 เมตร จากฐานจุดบั้งไฟ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวสายถ่ายภาพ หากต้องการภาพงานบุญบั้งไฟ ในบรรยากาศชุมชน วิวชนบท ที่ชีทวนคือสวรรค์ ที่นี่ไม่เสแสร้ง ไม่จัดฉาก ซีนจริง เลือกสรรค์ว่าอยากจะชมงานบุญบั้งไฟในแง่มุมไหน ที่นี่ไกลจากตัวจังหวัดอุบลเพียง 25 ก.ม. เท่านั้นเอง ปีนี้ติดภาวะโรค Covid-19 งานประเพณีบุญบั้งไฟงดจัดหนึ่งปี ถือว่าชมภาพเก่าไปพลางๆ ปีหน้าห้ามพลาด งานเล็กๆ สวยงามมหัศจรรย์ ที่บ้านชีทวนน๊า... ภาพประกอบจากผู้เขียน #ประเพณีบุญบั้งไฟ #บั้งไฟ #บั้งไฟชีทวน