รูปภาพประกอบOriginalจาก https://pixabay.com/th/vectors/%E0%B8%94%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82-%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81-2705818/แก้ไขเพิ่มเติมรูปภาพประกอบ by ผู้เขียนคุณเคยได้ยินเรื่องราวของกฎแห่งแรงดึงดูด หรือ Law of Attraction กันไหม ประโยคที่ว่า ”เมื่อเราคิดถึงสิ่งใด สิ่งนั้นจะมาหาเรา” มันจริงหรือเปล่า หลายคนอาจยังสงสัยเพราะพูดไปพูดมาอาจดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติและไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับวิทยาศาสตร์ ทว่ากลับมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง จากหลายๆงานวิจัย รวมถึงจากนักฟิสิกส์อัจฉริยะชื่อดังอย่าง Stephen Hawking ผู้ให้กำเนิดทฤษฎีหลุมดำด้วยรูปภาพประกอบจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Stephen_Hawking_in_Cambridge.jpgจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ อธิบายเกี่ยวกับกฎแห่งแรงดึงดูดไว้ว่า ในร่างกายของมนุษย์นั้นมีเซลล์มากมาย รวมถึงมีกระแสพลังงานไฟฟ้าและอิเล็กตรอนต่างๆด้วย เช่นกันกับของต่างๆบนโลก ไม่ว่าจะเป็น รถ เก้าอี้ ทีวี หรือดอกไม้ ที่มีกระแสของพลังงานเช่นกัน ซึ่งพลังงานเหล่านี้จะดึงดูดขั้วที่มีคลื่นความถี่ใกล้เคียงเข้าหากัน เหมือนกับจิ๊กซอว์ที่หาคู่ที่เหมาะสมของมันเจอYOU ARE WHAT YOU THINKคุณเคยสังเกตไหมว่า ถ้าระหว่างที่คุณขับรถแล้วจิตใจของคุณขุ่นมัวด่าคนนั้นบ่นรถคันนี้ตลอดทาง ก็จะมีรถคันนู้นอีกคันนี้อีกมาให้คุณขัดข้องใจตลอดจนถึงที่หมายไม่วายเว้น หรือถ้าวันไหนคุณมีเรื่องหงุดหงิดใจมาตั้งแต่เช้าแล้วไม่หายสักที มีทัศนคติที่ลบก็จะยิ่งมีเรื่องเข้ามาให้หนักใจซ้ำๆย้ำๆเข้าไปอีก เรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนกันเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณลองพูดกับดอกไม้หรือต้นไม้ด้วยประโยคดีๆสัก 5-10 ประโยคทุกวันจากงานวิจัยก็จะพบว่ามันจะเจริญงอกงามผลิดอกออกผลขึ้นมาให้เชยชมกันซะอย่างนั้นเลย หรือถ้าบางครั้งคุณลองคิดถึงใครคนหนึ่งมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน พ่อแม่ หรือแฟนที่อยู่ไกลกัน ก็จะมีข้อความหรือสายโทรศัพท์ของเขาคนนั้นขึ้นมาทันทีอีกหนึ่งงานวิจัย คือการส่งกระแสพลังงานบวกหรือลบให้กับลูกทารกน้อย กล่าวคือหากคุณกระซิบเบาๆพูดกับทารกน้อยเป็นประจำด้วยคำพูดดีๆทั้งในระหว่างวันและในตอนที่เคลิ้มหลับ เช่น ลูกเป็นเด็กน่ารัก เป็นเด็กดีจังเลย เลี้ยงง่าย ไม่งอแงเลยนะคะ เด็กก็จะซึมซับพลังงานบวกและเป็นเด็กดีเช่นว่านั้นจริง แต่ถ้าหากคุณดุด่าว่าลูกด้วยคำพูดเชิงลบเป็นประจำ ลูกก็จะเกิดความต่อต้าน และซึมซับพลังงานด้านลบเช่นกันรูปภาพประกอบจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Positive_Thinking.jpgคำพูดที่ว่า “You are what you think” นั้นมีอยู่จริง หากคุณเป็นคนที่คิดดีทำดี คุณก็จะดึงดูดคนที่ดีเข้ามาหาคุณ หากว่าคุณเป็นคนไม่ดีทำแย่ คุณก็จะดึงดูดคนไม่ดีเข้ามาหาตัวเองเช่นกัน อย่างที่เขาพูดกันว่า คุณเป็นคนแบบไหน คุณก็จะดึงดูดคนแบบนั้นเข้ามาหาคุณเอง ท่านว.วชิรเมธี กล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีสติ สมาธิที่ดี จะมีแรงดึงดูดที่ดีเช่นกันเมื่อรู้แล้วว่าหากมีทัศนคติในเชิงลบก็จะดึงดูดคนลบๆเข้ามา รู้แบบนี้แล้วก็คงไม่มีใครอยากมีกระแสพลังงานลบกันหรอกใช่ไหมล่ะคะ แต่จะทำยังไงดีล่ะถ้าหากเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ก่อให้เกิดความขุ่นมัวชวนเสียอารมณ์ขึ้นมา? ผู้เขียนขอแนะนำให้ใช้แนวคิดต่อไปนี้ค่ะ…“หากมีคนโมโหหรือโกรธใส่คุณ ความโกรธเหล่านั้นคือขยะความรู้สึกที่พวกเขาเก็บมาทั้งวัน ซึ่งบางครั้งพวกเขาก็ขว้างขยะมาให้คุณ แต่คุณไม่จำเป็นต้องเก็บมันขึ้นมา คุณก็แค่ทิ้งมันไว้ตรงนั้น ยิ้มรับแล้วก็โบกมือลา.. ”ทิ้งขยะ อย่าเก็บขยะมาเพิ่ม..เพื่อมีที่ว่างรับสิ่งดีๆหากคุณมีความฝันที่อยากจะทำให้สำเร็จ หรือมีสิ่งที่ต้องการ The Secret ของกฎแห่งแรงดึงดูด ดังต่อไปนี้จะช่วยคุณได้…อย่างแรกคุณต้องเชื่อมั่นว่าคุณจะทำได้ มันเป็นไปได้! สมองของมนุษย์สามารถคิดและจินตนาการได้เป็นล้านล้านอย่าง แต่มนุษย์จะคิดและจินตนาการแต่สิ่งที่เป็นไปได้เท่านั้น!อย่างที่สองคิดถึงสิ่งนั้นซ้ำๆทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการ ความรู้สึก หรือภาพวันแห่งความสำเร็จ ชุดที่คุณใส่ สิ่งที่คุณจะพูดหรือแสดง ยิ่งเห็นเป็นภาพและมีความรู้สึกที่ชัดเจนเท่าไรยิ่งดี มันจะยิ่งตอกย้ำเป้าหมายและความต้องการของคุณ ช่วงเวลาที่ดีคือคิดตอนที่สมองของคุณโล่ง ซึ่งแนะนำเป็นตอนก่อนนอนและตอนที่คุณเพิ่งตื่นนอนอย่างที่สามลงมือทำทันทีที่คุณคิดจบ คุณต้องทำมันอยู่เสมอ เปลี่ยนจากpassionเป็นวินัย จากวินัยจะกลายเป็นนิสัย และสิ่งนี้จะเป็นตัวพาคุณไปยังสิ่งที่ต้องการอย่างสุดท้ายที่สำคัญคือ อย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง คุณต้องหมั่นสร้างพลังงานที่ดีให้กับตัวคุณเองอยู่เสมอๆ หากไม่รู้จะใช้วิธีการใดก็สามารถใช้วิธีการที่ผู้เขียนจะแนะนำนี้ก็ได้ ทุกๆเช้าที่คุณตื่นมาจงหัดที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างมองพระอาทิตย์ยินดีกับเช้าวันใหม่เสมอ ยิ้มกับตัวเองแล้วบิดตัวพร้อมพูดว่า “วันนี้คึกคักจังเลย” ให้เวลากับตัวเองในการมีความสุขกับการอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวเองให้พร้อมพบปะกับผู้คน หลังจากนั้นมองตัวเองในกระจก ยิ้มให้กับคนในกระจกแล้วพูดว่าแกพร้อมแล้ว วันนี้ต้องมีแต่เรื่องดีๆแน่ วันนี้เต็มที่เว้ย ลุย!เปลี่ยนโชคชะตา ผ่านการเปลี่ยนมุมมองกฎแห่งแรงดึงดูดจะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น หากคุณลองนำไปใช้จริง มันจะเปลี่ยนตัวคุณ ทัศนคติมุมมองของคุณต่อเรื่องต่างๆ หลังจากนั้นมันจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณค่ะ ดังที่มีคนกล่าวไว้ว่า เมื่อความคิดเปลี่ยนทัศนคติก็จะเปลี่ยน เมื่อทัศนคติเปลี่ยนพฤติกรรมก็จะเปลี่ยน เมื่อพฤติกรรมเปลี่ยนนิสัยก็จะเปลี่ยน เมื่อนิสัยเปลี่ยนบุคลิกภาพก็จะเปลี่ยน เมื่อบุคลิกภาพเปลี่ยนโชคชะตาก็จะเปลี่ยน เมื่อเปลี่ยนโชคชะตาได้วิถีชีวิตก็จะเปลี่ยนแปลงด้วยอย่าลืม.. ทิ้งขยะ เพิ่มที่ว่างพร้อมรับสิ่งดีๆ ยิ้ม แล้วพูดว่าวันนี้คึกคักจังเลย :)ผู้เขียน Amour M.