เข้าหน้าฝนเต็มตัวแบบนี้แล้ว ด้วยสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ตัวร้าย ก็ยังไม่ได้หดหายไปหมดเสียทีเดียว ทำให้หน้าฝนครั้งนี้ยิ่งต้องดูแลตัวเองกันให้รัดกุมยิ่งขึ้น แต่ในความหวั่นวิตกนี้ก็ยังมีเรื่องราวดี ๆ ให้ได้เห็นและผ่อนคลายกันได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่ได้พักฟื้นและเยียวยาตัวเอง เหมือนเปิดโอกาสทำให้เราได้รับรู้และสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ยังซุกซ่อนอยู่อีกมากมาย วันนี้ผู้เขียนมีหนึ่งเรื่องราวมหัศจรรย์ของธรรมชาติมาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องของดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ช่วงหน้าฝนนี้ได้พากันออกมาอวดโฉมให้ได้เห็นความงามอันน่าทึ่งกันมากมาย ซึ่งเห็นได้จากบรรดาผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นหลาย ๆ คนพากันอวดโฉมเจ้าดอกไม้ชนิดนี้เป็นจำนวนมาก เจ้าดอกไม้ที่ว่านี้มีชื่อว่า ดอกซังคะโย (サンカヨウ, 山荷葉) หรือเรียกว่า Diphylleia Grayi, Skeleton Flower (ดอกโครงกระดูก) เหตุที่เรียกว่าดอกโครงกระดูก เพราะว่าดอกไม้ชนิดนี้ได้ซุกซ่อนสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งเอาไว้ภายใต้กลีบที่ดูบอบบางของมัน เมื่อกลีบดอกได้สัมผัสกับน้ำ หรือเมื่อถูกน้ำฝนจนชุ่มไปทั้งดอกแล้ว กลีบสีขาวที่เราเห็นจะค่อย ๆ จางหายไปแล้วใสทะลุปรุโปร่งจนเผยให้เห็นเส้นใยบนกลีบดอกเลยทีเดียว เหตุนี้จึงทำให้มันได้ชื่อว่าดอกไม้โครงกระดูกนั่นเอง และเมื่อใดที่หยาดน้ำได้ระเหยออกไปจากกลีบดอกจนหมดแล้ว สีขาวที่เคยเห็นบนกลีบดอกนั้นก็จะค่อย ๆ กลับขึ้นมาเด่นชัดอีกครั้ง ดอกซังคะโย (サンカヨウ, 山荷葉) หรือเรียกว่า Diphylleia Grayi, Skeleton Flower (ดอกโครงกระดูก) เป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดเล็ก เติบโตได้สูงที่สุดประมาณครึ่งเมตรถึงหนึ่งเมตร สามารถพบเห็นได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกตามแนวป่าหรือชายเขาที่มีอากาศหนาวเย็นและมีแสงแดดรำไร พบได้มากในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน หรือตามแนวเทือกเขาด้านตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกาก็สามารถพบดอกไม้ชนิดนี้ได้เช่นเดียวกัน ช่วงเวลาของการผลิบานจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางของฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูร้อนเลยทีเดียว ภาพถ่ายของดอกไม้ชนิดนี้ ได้มาจากชาวญี่ปุ่นที่พากันอัปโหลดลงบนทวิตเตอร์ เมื่อผู้เขียนได้รู้จักดอกไม้ชนิดนี้แล้วก็คิดว่ามันซุกซ่อนความสวยเอาไว้จริง ๆ ด้วย ซึ่งนอกจากความสวยงามที่ได้เห็นภายนอกแล้ว ก็ยังมีความสวยงามภายในที่ยังคงซุกซ่อนเอาไว้ให้เราได้ค้นพบอีก เห็นแบบนี้แล้วก็อยากจะมีโอกาสได้ไปเห็นด้วยตาบ้างเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็คงต้องรอโอกาสที่เหมาะสม แล้วก็เชยชมความงามของมันผ่านภาพถ่ายของคนอื่น ๆ กันไปพลาง ๆ ก่อน ขอบคุณภาพปกบทความจาก Pixabay และภาพประกอบบทความ ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 (1) (2)