Day 1 : Sawasdi Cambodia ซัวซะเดย กัมพูชา Trip นี้เกิดจากการอ่านหนังสือท่องเที่ยวแล้วสะดุดตากับคำพูดที่ว่า “See Angkor and Die” ที่พี่ Arnold นักประวัติศาสตร์และโบราณคดีชาวอังกฤษกล่าวไว้ ตอนมานครวัด ประกอบกับช่วงนี้กระแสนครวัด copy ที่จีนกำลังมา เราเลยต้องมาดูของจริงด้วยตาตัวเองซักครั้งก่อนตาย มากัมพูชาใช้เวลาบินพอ ๆ กะไปเชียงใหม่ ไม่ถึงชั่วโมงเราก็มาถึงเสียมราฐ (Siem Reap) รอบนี้กะเหรี่ยงไทยอย่างเราผ่าน ตม. มาอย่างง่ายดาย ไม่ถามไม่มองหน้า ปั๊มผ่านโลด สนามบินที่นี่เล็กและเงียบเชียบเหมือนสนามบินต่างจังหวัด นัดพี่เหลือง คนขับตุ๊กตุ๊กมารับแล้วไป check in ที่โรงแรมก่อน เราพักที่ Regency Angkor ตั้งอยู่ตรงข้าม Centara เลย จองผ่าน Agoda รวมอาหารเช้าในราคาพันนิด ๆ เอากระเป๋าไปเก็บแล้วไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยเพื่อความเป็นสิริมงคล ศาลพระองค์เจค พระองค์จอม เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเสียมราฐเสมือนศาลหลักเมือง ฝากเนื้อฝากตัวเสร็จ ภาพโดย Myhero ภาพโดย Myhero เราก็ไปวัดทไม (Wat Thmai) วัดนี้เป็นอนุสรณ์สถานเก็บโครงกระดูกของชาวเขมรที่ไม่ยอมเป็นสมาชิกเขมรแดงจึงถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เค้าเก็บโครงกระดูกจัดแสดงเอาไว้ส่วนนึงไว้ ที่จริงเราอยากไปดูสถานที่ต้นกำเนิดเกิดเหตุแต่เสียดายเรามีเวลาน้อย ถ้าใครมาเยือนเขมร และพอมีเวลา อยากให้ไปเที่ยวพนมเปญเพื่อจะได้ไปเยือนตวลสะแลง (Tuol Sleng) หรือ Killing field ทุ่งสังหารของเขมร เป็นสัญลักษณ์ของเผ่าพันธุ์ที่ทำลายล้างกันเอง ตวลสะแลงเป็นสถานกักกันที่ดัดแปลงมาจากโรงเรียน โดยเขมรแดงเรียกว่า “Security Prison 21” หรือเรียกย่อว่า S-21 เท่าที่หาข้อมูลมา มันน่าขนลุกมากเลยทีเดียว มาประเทศนี้พระผูกข้อมือให้อีกแล้ว พร้อมสวดให้พรเป็นภาษาเขมร ค่อยอุ่นใจขึ้นมานิดนึง ภาพโดย Myhero ออกจากวัดง่วงมากแต่ก่อนกลับโรงแรมต้องแวะไปซื้อ Pass สำหรับเที่ยว Angkor วันพรุ่งนี้ ราคา One day pass 37$ มีถ่ายรูปติดบัตรด้วย บัตรนี้ใช้เที่ยวได้ทุกปราสาท พรุ่งนี้ไปลุยกัน กลับถึงโรงแรม ลองใช้บริการสปาในโรงแรม Aromatherapy เขมรไม่แพ้ชาติใดในโลกอยู่นะ หลับไปตื่นนึง พี่เหลืองก็มารับไปกินมื้อค่ำบุฟเฟต์ international เพราะเราอยากดูระบำอัปสรา อาหารที่เขมรก็คืออาหารไทยนั่นแหล่ะ ต่างกันตรงที่อาหารเขมรแค่ไม่อร่อย และเช่นเคย ไม่เข้มข้นเราไม่นอน อิ่มแล้วไปเดินตลาด Night Market สินค้าจะเป็นของที่ระลึกเหมือนจตุจักร เสื้อยืด พวงกุญแจ ตลาดนี้ถ้าเดินข้ามสะพานไปก็จะเป็น Pub street อารมณ์คล้ายๆตรอกข้าวสารบ้านเรา ช่วงทุ่มถึง 3 ทุ่ม เบียร์ถูกมาก 2,000 เรียลต่อแก้ว คือ 20 บาท สกุลเงินที่นี่ใช้เงินเรียล 1,000 เรียล เท่ากับ 10 บาท แลกเงินเรียลไม่ต้องเยอะ เอาไว้เวลาไปวัด ซื้อดอกไม้ หย่อนตู้บริจาค และซื้อของกินข้างถนนที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว ที่เขมรรับเงินไทยด้วยแต่จะขาดทุนกว่าใช้เป็นเงินดอลลาร์ แนะนำให้ใช้ดอลลาร์เป็นหลัก ร้านข้างถนนตามแหล่งท่องเที่ยวจะรับเงินดอลลาร์หมด ภาพโดย Myhero ภาพโดย Myhero ภาพโดย Myhero Day 2 : Sawasdi Cambodia ซัวซะเดย กัมพูชา วันนี้เราตื่นแต่เช้าไปขึ้นบอลลูนชมนครวัด Angkor Wat มุมสูง และออกนอกเมืองเพื่อไปดูปราสาทบันทายศรี Banteay Srei ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปราสาทที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของการมาเยือนเสียมราฐ เป็นปราสาทที่สร้างมาจากหินทรายสีชมพู จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Jewel in the crown ปราสาทแห่งความรัก Banteay Srei เป็นปราสาทนอกเมืองพระนคร จึงต้องออกนอกเมืองไปเกือบชั่วโมง หลังจากชมความอ่อนช้อยงดงามของหินแกะสลักด้วยมือมนุษย์ที่บันทายศรีแล้ว เราก็กลับเข้าเมืองมาเพื่อไปชมนครวัด Angkor Wat 1 ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งนครวัดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และยังเป็น The world’s largest religious monument อีกด้วย ความยิ่งใหญ่อลังการบวกกับบรรยากาศขลัง ๆ ทำเอาเรายืนตะลึงอยู่พักใหญ่ ภาพโดย Myhero ภาพโดย Myhero ภาพโดย Myhero จะเสียบรรยากาศก็ตรงทัวร์จีนนี่หล่ะ ราชวงศ์ชิงไปตรงไหนก็วงแตกตรงนั้น ใครจะมาชมแนะนำวันธรรมดา เพราะเสาร์อาทิตย์คนเยอะมากจนหามุมถ่ายรูปไม่ได้เลย แล้วพวกอาม่าก็ชอบใส่ชุดแดงกรุยกรายกันละเกิน ถ่ายภาพปราสาทมีอาม่าชุดแดงเดินกันให้ว่อน หมดกันเลย มุมมหาชนจะเป็นบึงด้านซ้ายแต่ตอนนี้ปราสาทปิดบูรณะบางส่วนในฝั่งซ้าย และตอนนี้ในบึงไม่มีดอกบัวแล้ว มุมนี้เลยเสียความนิยมไป Angkor wat มี 5 ประตู ประตูตรงกลางคือประตูกษัตริย์ 2 ประตูซ้ายขวาถัดออกมาเป็นประตูข้าราชบริพาร และ 2 ประตูริมซ้ายขวาเป็นประตูคนธรรมดา จากนั้นก็เป็นมิชชั่นตามหานางอัปสรที่มีลักษณะแปลก ๆ เช่น อัปสรายิ้มเห็นฟัน อัปสราเผยอลิ้น 2 แฉก อัปสราทรงผมเซล่ามูน และ อัปสราใส่กางเกงขาสั้น หมวยเจอแค่อัปสรายิ้มเห็นฟัน หาให้เจอนะคะสิ่งนี้คือ Rare Item บริเวณ Angkorian empire จะกินพื้นที่ประมาณ 3 ตร.กม. โดยมีกำแพงเมืองล้อมรอบ ภายในมี Bayon, Phimeanakas และ Baphuon และอีกหลาย ๆ ปราสาท Pass ที่เราซื้อเมื่อวานเข้าได้หมด แต่ด้วยเวลาจำกัดเราจึงเลือกไปปราสาทบายน Bayon ศูนย์กลางของนครธม Angkor Thom ปราสาทบายน จะเต็มไปด้วยหน้าของกษัตริย์ชัยวรมันที่ 7 รวม 216 หน้า มองทางไหนก็เหมือนมีคนจ้อง ไฮไลต์มี 3 จุดคือ หน้าที่มีรอยยิ้มกว้างที่สุด และกรอบที่เราถ่ายภาพแล้วจะเห็นพระพักตร์คู่กับเราเลย ส่วนอีกจุดคือจุดที่จมูกเราจะชนกับรูปปั้นพอดี ซึ่งจุดนี้หมวยหาไม่เจอ ถัดมาเราไปปราสาทตาพรหม Ta Prohm เป็นปราสาทที่ไม่ได้ใหญ่โตเหมือน Angkor Wat แต่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันมากจากต้นสะปงที่เลื้อยคลุมปราสาทในภาพยนตร์เรื่อง Tomb Raider ที่มี Angelina Jolie แสดงนำ ส่วนรอยยิ้มปริศนาในต้นไม้นั้นหาไม่เจอเพราะปราสาทใกล้ปิดแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มหมด ยิ่งเดินลึกเข้าไปยิ่งน่ากลัว เลยขอผ่านไว้มาหาใหม่วันหลัง ภาพโดย Myhero สรุปโดยรวมของกัมพูชาครั้งนี้ หมวยว่าประเทศนี้ผู้คนน่ารักและขี้เกรงใจนะ ส่วนใหญ่พูดไทยได้ เดินทางสะดวกด้วยรถตุ๊ก ๆ เหมาเป็นวันจะถูกกว่า อาหารเหมือนบ้านเราทุกประการ แต่ไม่อร่อย รสกลาง ๆ ไม่ไปไม่มา ครึ่ง ๆ กลาง ๆ บอกไม่ถูก street food ที่ขายกันเยอะคือมาม่าผัดใส่ไข่ดาว และบาแก็ต น้ำผลไม้ปั่นตามตลาดอร่อยกว่าแหล่งท่องเที่ยว สกุลเงินเรียลแต่ใช้ดอลลาร์คุ้มกว่า เงินไทยก็ใช้ได้แต่ที่นี่ไม่รับเหรียญ ที่นี่ยังไม่เจริญนัก เหมือนไทยตามต่างจังหวัดนั่นแหละ บ้านเมืองสะอาดและปลอดภัยกว่าที่คิดไว้เยอะ เป็นอีกประเทศที่อยากแนะนำ ใกล้ไทยแค่นี้เอง