เนื่องจากได้รับโจทย์ต้องเป็น speaker พูดเรื่องใดเรื่องหนึ่งกับน้อง ๆ ในบริษัท ผ่าน Inspire Talks ทำให้ต้องมานั่งรื้อดูว่าจะพูดเรื่องอะไรดี และมีเรื่องซาเทียร์ที่แว๊บเข้ามาในหัว เพราะเป็นเรื่องที่ตัวเองชื่นชอบเป็นพิเศษ และเป็นเรื่องที่นำมาใช้กับตัวเองได้ เลยตัดสินใจเอาเรื่องนี้มาพูด โดยใช้ชื่อว่า ซาเทียร์ แปรเปลี่ยนและเติบโตสู่ความมั่นคงภายใน โดยเอาเนื้อหาที่เรียนมา 3 วัน มาจับใจความและกระชับให้เหลือ 2 ชั่วโมง พร้อมทั้งทำสไลด์ใหม่ทั้งหมด เมื่อบรรยายเสร็จแล้วก็รู้สึกเสียดายเนื้อหาที่ทำมาทั้งหมด จึงขอเอามาแชร์ให้กับทุก ๆ คนนะคะเผื่อว่าใครจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้บ้าง ซาเทียร์คืออะไร ซาเทียร์คือแนวคิดจิตบำบัดที่เกิดขึ้นมาจากแนวคิดของ เวอร์จิเนีย ซาเทียร์ VIRGINIA SATIR บุกเบิกแนวคิดจิตบำบัดครอบครัว ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น MOTHER OF FAMILY THERAPY หรือ มารดาแห่งจิตบำบัดครอบครัว เป็นเจ้าของทฤษฎีการเปลี่ยนแปลง ,ทฤษฎีเกราะป้องกันตนเพื่อความอยู่รอด ,แบบจำลองภูเขาน้ำแข็ง ซาเทียร์ได้รับยกย่องว่าเป็นนักบำบัดที่มื่อเสียงจัดอยู่อันดับ 5 ของโลก และในประเทศไทยเอง ก็มีสมาคมเพื่อเผยแพร่การทำจิตบำบัดแนวซาเทียร์ชื่อว่า “สมาคมพัฒนาศักยภาพมนุษย์และจิตบำบัดแนวซาเทียร์” ภาพโดยผู้เขียน ตอนที่ไปเรียนก็นึกว่าจะมีแต่พวกคนอายุเยอะๆ หน่อย เพราะเห็นเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Soft Skills แต่ในคลาสก็มีน้องคนหนึ่งน่าสนใจ เป็นน้องเรียนมหาวิทยาลัย มาลงเรียนเพราะว่าอยากจะเข้าใจตัวเอง และอยากเข้าใจแม่มากขึ้น โดยที่ก่อนหน้านั้นมีเหตุการณ์คือ น้องเป็นคนที่เชื่อฟังแม่มาก ด้วยความที่อยู่กับแม่สองคน แต่มีวันหนึ่งน้องอยากจะไปทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเมื่อไปขอแม่ แม่ก็ห้ามไว้เพราะกลัวว่าผลการเรียนจะตก แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่น้องดื้อกับแม่ และผลก็คือผลการเรียนตกจริง ๆ แม่ดุด่าน้องแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้น้องเสียใจมาก ซาเทียร์ก็ค่อย ๆ ชี้ให้เห็นว่า แม่ก็คน คนหนึ่ง ถ้าตัดคำว่าแม่ออก ตัดสถานะออก เขาก็คือคนคนหนึ่ง มีความอารมณ์ ความรู้สึก แต่เป็นเพราะเราไปตีตราสถานะเขา ทำให้เราคาดหวังกับเขามาก ว่าแม่ต้องเป็นแบบโน้นเป็นแบบนี้ ซาเทียร์เลยให้มองแม่เท่ากับคน ก็ทำให้ความรู้สึกของน้องดีขึ้น และเข้าใจแม่ยิ่งขึ้น ภาพโดยผู้เขียน อีกเคสหนึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ๆ หนึ่ง ถูกพี่ ๆ ขอให้ออกจากงานเพื่อมาดูแลแม่ที่ป่วย จนกระทั่งผ่านมาสักระยะ น้องรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า ไม่มีคุณค่าอะไรในชีวิต เป็นมีสภาวะซึมเศร้า เพราะเงินก็ต้องรอพี่ ๆ ให้ และต้องดูแลแม่ตลอดเวลาทำให้ไม่ได้ออกไปไหน และขนาดตัวเองดูแลแม่อยู่ทุกวัน แม่ก็ยังไม่เห็นค่า พูดกระทบกระเทียบแดกดันทุกวัน แต่กลับพี่ ๆ ที่ไม่เคยมาดูแลเลย นาน ๆ จะมาเยี่ยมที แม่กลับให้ความสำคัญมากกว่า ทำให้รู้สึกแย่ในตัวเองมากจนกระทั่งไม่อยากมีชีวิตอยู่ ซาเทียร์ก็ค่อย ๆ ชี้ให้เห็นถึงคุณค่าของตัวเอง ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นสำคัญขนาดไหน เมื่อเห็นความสำคัญแล้วก็จะอยากทำมันให้ดีที่สุด เมื่อน้องคนนี้ได้เข้าคลาสไปก็เริ่มไปปรับท่าทีกับแม่ ทำให้น้องรับรู้ได้ว่า ที่แม่รู้สึกไม่ดีกับน้อง เพราะตัวของน้องเองนั้นแหละที่มีท่าทีไม่เต็มใจดูแลแม่ เมื่ออารมณ์ด้านลบออกไป ก็เป็นธรรมดาที่จะได้รับอารมณ์ด้านลบกลับมา ซาเทียร์ให้อะไรบ้าง ซาเทียร์ให้ในเรื่องของการรู้คุณค่าของตัวเอง การยอมรับตัวเองได้ การที่จะอยากยอมรับในตัวของผู้อื่น และการได้ connect ตัวเองกับผู้อื่น ทำให้มองอะไรได้ลึกกว่าที่จะเป็น มองผ่านลงไปภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง ว่าลึก ๆ แล้วความต้องการที่แท้จริงคืออะไร หรือกับคนบ้างคนที่มีปฏิกิริยาแบบนี้เขาทำภายใต้การผลักดันอะไร ภาพโดยผู้เขียน แนวความเชื่อของซาเทียร์แบ่งออกด้วยกันเป็น 3 เรื่อง เรื่องแรกคือ ความเชื่อเกี่ยวกับคน โดยเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ทำดีที่สุดเท่าที่เขาทำใด้ ณ เวลานั้น, ความสัมพันธ์ที่ดีต้องอยู่บนพื้นฐานของคนเท่ากับคน, คนเป็นเจ้าของอารมณ์ เรื่องที่สองคือ ความเชื่อเกี่ยวกับการปรับตัว ทุกคนมีขุมทรัพย์อยู่ภายในตัวที่สามารถนำมาใช้ปรับตัวและทำให้ตนเองเติบโตพัฒนาขึ้นได้, ปัญหาไม่ใช่ปัญหา แต่การปรับตัวต่างหากที่เป็นปัญหา เรื่องที่สามคือ ความเชื่อเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง เหตุการณ์ในอดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงผลกระทบที่ยังมาถึงปัจจุบันได้, การเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจนั้นเป็นไปได้เสมอ โดยที่ซาเทียร์ใช้เครื่องมืออยู่ 2 ตัวในการทำการบำบัด คือ แผนที่มนุษย์ คือ ภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg) เอาไว้ค้นหาความต้องการที่แท้จริง ภายใต้ชั้นน้ำแข็งแต่ละชั้น เพื่อที่จะเติมอาหารใจให้กับตัวเองได้ เพราะถ้าเปรียบสำหรับร่างกายต้องการอาหาร 5 หมู่ จิตใจก็ต้องการอาหารใจเช่นกัน และแผนที่ครอบครัว หรือ Family Map เอาไว้ค้นหา ความเป็นมาของตัวเรา ขุมทรัพย์ที่ถ่ายทอดมาจากครอบครัว เพราะครอบครัวเป็นแหล่งสำคัญที่สุด ที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับตัวของเราเอง และโลกภายนอกตัวเรา ภาพโดยผู้เขียน สิ่งที่คิดว่าได้จากซาเทียร์และคิดว่านำไปใช้ได้คือ การหัดเข้าไปสำรวจภูเขาน้ำแข็ง มากกว่าการมองจากพฤติกรรมภายนอก มองให้ลึกยิ่งขึ้นว่าเขา หรือเราต้องการอะไรกันแน่ อะไรมันคือปัญหากันแน่ ซึ่งมันจะทำให้ท่าทีและวิธีการรับมือแตกต่างออกไปจากที่เคยทำ และเข้าใจคนอื่นได้มากยิ่งขึ้น และอีกอย่างคือการได้ค้นหาศักยภาพ และคุณค่าในตัวเอง พร้อมทั้งได้ชื่นชมมัน แล้วคุณจะได้รับความสุข ความสงบใจ อย่างที่พยายามไขว่คว้ามาตลอด ภาพโดยผู้เขียน ถ้าใครสนใจศาสตร์นี้ลองหาที่ศึกษาดูนะคะ จะมีที่เสมสิขาลัยเปิดคอร์สอยู่แต่จะเต็มเร็วมาก และมีอีกหลาย ๆ ที่ รวมถึงมีหนังสือเกี่ยวกับซาเทียร์ออกมาด้วยค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ Connect กับตัวเองและผู้คน ผู้ที่มีภาวะความเครียดสูง ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า บางคนมีภาวะเหน็ดเหนื่อยในการค้นหาความสุขภายใน การได้เข้าใจตัวเองก็น่าจะเป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถยอมรับมันได้ และมีความสุขในแบบที่ควรเป็น แถมทิ้งท้ายไว้ให้เรื่องของวิธีสร้างสุขตามแนวคิดของซาเทียร์นะคะ ขอให้มีความสุขกันในทุกวันค่ะ ภาพโดยผู้เขียน Credit : ภาพปก https://www.canva.com/